10 ผักมีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ ทำอาหารอร่อย ปลูกไว้กินเองได้ | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล คำว่า “ผัก”เป็นคำกว้างๆ ที่เราทุกคนมองภาพออกว่าคืออะไร แต่ถ้าจะพูดให้แคบลงไปกว่านั้นล่ะคะ เช่น ผักที่ให้ความหอมตามธรรมชาติได้มีอะไรบ้าง คุณผู้อ่านพอจะนึกชื่อออกบ้างไหม? โดยผักที่มีกลิ่นหอมในตัว เป็นผักที่ผู้เขียนได้รู้จักมานานมากแล้วหลายชนิดเหมือนกันค่ะ และนอกจากจะนำมาทำอาหารแล้ว ผักกลุ่มนี้ผู้เขียนยังปลูกไว้ที่นี่อีกด้วย ซึ่งคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า มีผักหลายอย่างที่มีน้ำมันหอมระเหยในตัว พอเรานำมาทำอาหารความหอมจะยิ่งชัดเจน จนทำให้เรารู้สึกหิวและได้ยินเสียงท้องร้องขึ้นมาทันที และดีไปกว่านั้นคือตัวอย่างของผักที่ให้ความหอมตามธรรมชาติที่ผู้เขียนจะบอกต่อนี้ ทั้งหมดเราสามารถปลูกเอาไว้ที่สวนหน้าบ้านของเราได้ จากนั้นพอเราต้องการนำมาใส่ในอาหาร เราก็แค่เดินไปเก็บมาเท่านั้นเอง มองเห็นภาพไหมคะ? และอยากรู้แล้วใช่ไหมว่าผักอะไรบ้าง งั้นอ่านต่อกันเลยดีกว่าค่ะ ดังนี้ 1. ผักแพว ผักแพวเป็นผักที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวค่ะ ที่บางคนก็ว่าหอมคล้ายใบไผ่ผสมกับกลิ่นฉุนเล็กน้อย ซึ่งกลิ่นนี้เองที่ทำให้ผักแพวเป็นที่นิยมในการนำไปรับประทานคู่กับอาหารหลากหลายชนิด โดยเฉพาะอาหารที่มีรสจัดจ้าน เช่น ลาบ ก้อย หรืออาหารเวียดนามอย่างแหนมเนืองและเฝอ กลิ่นหอมของผักแพวไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหารเท่านั้น แต่ยังช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ได้ดีอีกด้วย ทำให้เป็นผักที่ขาดไม่ได้ในหลายๆ เมนูค่ะ ซึ่งการปลูกผักแพวไว้รับประทานเองนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ยากเลย ผักชนิดนี้สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินที่ชุ่มชื้นและระบายน้ำได้ดี สามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายๆ ด้วยการปักชำกิ่ง เพียงแค่ตัดกิ่งที่สมบูรณ์แล้วนำไปปักลงในดิน หรือแม้แต่นำไปแช่น้ำไว้สักพักรากก็จะงอกออกมา การมีผักแพวปลูกไว้เองที่บ้าน นอกจากจะสะดวกในการนำมาปรุงอาหารได้ตลอดเวลาแล้ว ยังมั่นใจได้ถึงความสดใหม่และปลอดสารเคมีอีกด้วย นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกลิ่นและรสชาติของผักแพว 2. สะระแหน่ สะระแหน่เป็นพืชสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเย็นสดชื่นเป็นพิเศษ กลิ่นหอมนี้มาจากน้ำมันหอมระเหยที่อยู่ในใบ ซึ่งกลิ่นของสะระแหน่ไม่ได้มีดีแค่ความหอมที่ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายเท่านั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร และเมื่อนำไปประกอบอาหารหรือเครื่องดื่ม ก็จะช่วยเพิ่มความสดชื่นและดับเลี่ยนได้เป็นอย่างดีค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเมนูยำ ลาบ น้ำตก หรือเครื่องดื่มเย็นๆ บางอย่าง สะระแหน่ก็สามารถเข้ากันได้ดีและเสริมให้รสชาติโดยรวมกลมกล่อมยิ่งขึ้นได้ การปลูกสะระแหน่ไว้ใช้เองก็สะดวกและคุ้มค่าไม่น้อยค่ะ เพราะพืชชนิดนี้เติบโตได้ง่ายในดินร่วน ที่ต้องระบายน้ำได้ดี และชอบแสงแดดรำไร สามารถขยายพันธุ์ได้ทั้งจากการปักชำกิ่งและไหล เพียงแค่เด็ดกิ่งหรือไหลที่มีรากแล้วนำไปปลูกลงดิน รดน้ำสม่ำเสมอ รอไม่นานก็จะได้ต้นสะระแหน่ที่แตกกิ่งใบให้เก็บเกี่ยวได้เรื่อยๆ แล้วค่ะ การมีสะระแหน่สดๆ ไว้ใช้เอง นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังมั่นใจได้ในความสะอาด ปลอดภัยและความสดใหม่ พร้อมนำมาปรุงอาหารหรือเครื่องดื่มได้ตามต้องการทุกเมื่อ 3. โหระพา โหระพาเป็นผักสวนครัวที่มีกลิ่นหอมหวานเป็นเอกลักษณ์ค่ะ กลิ่นหอมนี้เป็นผลมาจากน้ำมันหอมระเหยที่อยู่ในใบ ซึ่งมีสารสำคัญหลายชนิดที่ให้กลิ่นหอมแตกต่างกันไป ทำให้โหระพามีกลิ่นที่โดดเด่นและน่าสนใจ เมื่อนำมาประกอบอาหาร กลิ่นหอมของโหระพาจะช่วยเสริมรสชาติของอาหารให้มีความซับซ้อนและน่ารับประทานยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาหารไทยหลายชนิด เช่น แกงเขียวหวาน หรือกินกับขนมจีนน้ำยา ที่โหระพาเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ กลิ่นหอมเฉพาะตัวของผักชนิดนี้สามารถช่วยเพิ่มความหอมสดชื่นและกลมกล่อมให้กับรสชาติโดยรวมได้อย่างลงตัว การปลูกโหระพาไว้รับประทานเองก็เป็นเรื่องง่ายและให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าค่ะ เนื่องจากโหระพาเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วน ระบายน้ำได้ดี และชอบแสงแดดจัด สามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายๆ ด้วยการเพาะเมล็ดหรือปักชำกิ่ง เพียงแค่ดูแลรดน้ำและให้ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ ก็จะได้ต้นโหระพาที่แตกใบเขียวชอุ่มให้เก็บเกี่ยวได้ตลอด การมีโหระพาสดๆ ไว้ใช้เองที่บ้านไม่เพียงแต่สะดวกในการนำมาปรุงอาหารได้ทันที แต่ยังช่วยให้มั่นใจได้ถึงความสดใหม่และความปลอดภัยจากสารเคมี ทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของโหระพาค่ะ 4. แมงลัก กลิ่นหอมของแมงลักเป็นเอกลักษณ์จริงๆ นะคะ แค่ได้กลิ่นก็รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก กลิ่นเขียวๆ ปนหวานนิดๆ ของใบและดอกเล็กๆ นั้น เหมือนเป็นตัวแทนของความสดใหม่จากธรรมชาติ บางครั้งเวลาเดินผ่านแปลงผักแล้วได้กลิ่นนี้โชยมาเบาๆ ก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าไปลึกๆ ไม่ว่าจะนำไปประกอบอาหารเมนูไหน กลิ่นหอมของแมงลักก็สามารถเพิ่มเสน่ห์และความน่าสนใจให้กับจานนั้นๆ ได้อย่างลงตัวเลยทีเดียวค่ะ และถ้าพูดถึงการปลูกแมงลักไว้กินเองแล้ว ยิ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ เลยค่ะ เพราะนอกจากจะได้เก็บเกี่ยวความหอมสดชื่นไว้ใช้ปรุงอาหารได้ตลอดแล้ว การได้ดูแลต้นแมงลักตั้งแต่เมล็ดเล็กๆ จนเติบโตออกใบเขียวชอุ่มและมีดอกสีขาว ก็เป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันได้เหมือนกันนะคะ แถมยังมั่นใจได้ถึงความสะอาดและปลอดภัย เพราะเราดูแลเองกับมือ ไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีต่างๆ ที่อาจปนเปื้อนมากับผักที่เราซื้อ นอกจากนี้แมงลักยังเป็นพืชที่ปลูกง่าย โตเร็ว ไม่ต้องการการดูแลที่ซับซ้อนมากนัก จึงเหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากลองปลูกผักสวนครัวไว้กินเองเป็นอย่างยิ่งค่ะ 5. ขึ้นฉ่าย กลิ่นหอมของขึ้นฉ่ายนี่ก็เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่โดดเด่นและชวนให้นึกถึงรสชาติอาหารอร่อยๆ ได้ทันทีเลยนะคะ กลิ่นเขียวสดชื่นที่แฝงไปด้วยความเผ็ดร้อนและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้หลายๆ คนชื่นชอบและนำไปปรุงแต่งอาหารหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นซุป แกง หรือใส่ในยำต่างๆ เพียงแค่ได้กลิ่นหอมๆ ของขึ้นฉ่ายลอยมา ก็รู้สึกได้ถึงความกลมกล่อมและช่วยให้อาหารจานนั้นดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น ยิ่งเวลาที่นำไปโรยหน้าอาหารตอนร้อนๆ กลิ่นหอมของจะยิ่งชัดเจนขึ้นมา ทำให้รู้สึกหิวขึ้นมาทันทีเลยค่ะ สำหรับการปลูกขึ้นฉ่ายไว้กินเอง ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีมากๆ เลยนะคะ เพราะขึ้นฉ่ายเป็นพืชผักที่สามารถปลูกได้ง่ายในกระถางหรือแปลงเล็กๆ ที่บ้าน ไม่ต้องใช้พื้นที่มากนัก แถมยังสามารถเก็บเกี่ยวได้เรื่อยๆ เพียงแค่ตัดส่วนที่เราต้องการไปใช้ แล้วต้นก็จะแตกยอดใหม่ขึ้นมาให้เราได้เก็บกินอีก นอกจากนี้การปลูกเองยังช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าผักของเราสด สะอาด ปลอดภัยจากสารเคมี และยังเป็นกิจกรรมที่เพลิดเพลิน ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ สร้างความภูมิใจเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้เห็นผลผลิตจากฝีมือของเราเองอีกด้วยค่ะ 6. ผักชีฝรั่ง กลิ่นหอมของผักชีฝรั่งก็เป็นอะไรที่พิเศษมากๆ เลยนะคะ ไม่ใช่แค่กลิ่นเขียวๆ เหมือนผักทั่วไป แต่มีความหอมซ่าๆ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริงๆ ที่บางคนก็บอกว่ากลิ่นคล้ายมะกรูดอ่อนๆ ผสมกับความสดชื่นของใบไม้ ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าทุกครั้งที่ได้กลิ่น ยิ่งเวลาที่เรานำไปซอยละเอียดโรยหน้าอาหาร ไม่ว่าจะเป็นลาบ น้ำตก หรือแกงต่างๆ กลิ่นหอมของผักชีฝรั่งจะช่วยชูรสชาติของอาหารให้โดดเด่นและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยเพิ่มสีสันให้อาหารดูน่ารับประทานขึ้นอีกด้วยนะคะ แค่ได้กลิ่นก็ชวนให้น้ำลายสอแล้วค่ะ และถ้าเราลองปลูกผักชีฝรั่งไว้กินเองที่บ้าน ก็จะยิ่งสะดวกและได้ประโยชน์มากขึ้นไปอีกนะคะ ผักชีฝรั่งเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนทานต่อสภาพอากาศ และสามารถเก็บเกี่ยวได้นาน เพียงแค่เรามีพื้นที่เล็กๆ น้อยๆ ในกระถางหรือแปลงดิน ก็สามารถปลูกไว้ใช้ได้ตลอดทั้งปี ไม่ต้องเสียเงินซื้อ แถมยังมั่นใจได้ถึงความสดใหม่และปลอดสารพิษที่เราดูแลเองกับมือ นอกจากนี้การได้เห็นต้นผักชีฝรั่งค่อยๆ เติบโตงอกงาม ก็เป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยให้เราได้ใกล้ชิดธรรมชาติและรู้สึกภูมิใจในผลผลิตของเราเองอีกด้วยค่ะ 7. ยี่หร่า คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า กลิ่นหอมของยี่หร่าก็เป็นเสน่ห์ที่น่าหลงใหลไม่น้อยเลยนะคะ เพราะเป็นกลิ่นหอมหวานอมเผ็ดร้อนนิดๆ ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆ เลยค่ะ บางคนก็บอกว่ากลิ่นของยี่หร่ามีความคล้ายคลึงกับโป๊ยกั๊กหรือเครื่องเทศบางชนิด ทำให้รู้สึกถึงความเป็นตะวันออกและชวนให้นึกถึงรสชาติอาหารที่เข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นแกงต่างๆ หรือเมนูที่ต้องการความหอมเครื่องเทศ การเติมยี่หร่าลงไปเพียงเล็กน้อยก็สามารถยกระดับกลิ่นและรสชาติของอาหารจานนั้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ จนบางครั้งแค่ได้กลิ่นหอมของยี่หร่าก็ทำให้รู้สึกหิวขึ้นมาได้เลยค่ะ และสำหรับการปลูกยี่หร่าไว้กินเอง ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียวนะคะ เพราะยี่หร่าเป็นพืชที่ค่อนข้างทนทาน ปลูกง่าย และสามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศบ้านเรา แถมยังสามารถเก็บเกี่ยวใบไปใช้ได้เรื่อยๆ เพียงแค่ตัดส่วนที่ต้องการ แล้วต้นก็จะแตกกิ่งก้านออกมาใหม่ให้เราได้เก็บกินอีกนาน การปลูกเองยังช่วยให้เรามั่นใจได้ถึงความสด สะอาด และปราศจากสารเคมีต่างๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อตัวเรา นอกจากนี้กลิ่นหอมของต้นยี่หร่ายังช่วยให้บรรยากาศรอบบ้านสดชื่นขึ้นได้อีกด้วยนะคะ เป็นทั้งอาหารและเป็นทั้งของประดับ 8. กะเพรา แค่ได้กลิ่นหอมของใบกะเพราผัดกับกระเทียมและพริก ก็ชวนน้ำลายสอขึ้นมาทันทีแล้วใช่ไหมคะ? กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์นี้ไม่ได้หอมฉุนจนเกินไป แต่กลับมีเสน่ห์เย้ายวนใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่ว่าจะผัดกับหมู ไก่หรือทะเล กลิ่นหอมของกะเพราก็ยังคงโดดเด่นและเข้ากันได้ดีเสมอ จนกลายเป็นเมนูสิ้นคิดที่ใครหลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรก เมื่อต้องการอาหารจานเดียวที่อร่อยและรวดเร็ว การปลูกกะเพราไว้กินเองก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย นอกจากจะมั่นใจได้ถึงความสดใหม่และปลอดสารพิษแล้ว ยังสามารถเก็บได้ง่ายๆ ตามต้องการ ไม่ว่าจะนำมาผัด ทำแกง หรือโรยหน้าอาหารอื่นๆ ก็สะดวกสบาย แถมต้นกะเพราก็เป็นพืชที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย โตเร็ว ทำให้รู้สึกภูมิใจเล็กๆ ที่สามารถมีวัตถุดิบปรุงอาหารสดๆ จากสวนหลังบ้านได้ด้วยตัวเอง 9. ผักแขยง กลิ่นหอมของผักแขยงนั้นเป็นอะไรที่พิเศษและแตกต่างอย่างชัดเจนค่ะ หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามีกลิ่นเฉพาะตัวที่ออกจะเขียวๆ หรือบางคนก็ว่าคล้ายกลิ่นของมะนาวอ่อนๆ ผสมกับความหอมแบบสมุนไพร เมื่อนำมาประกอบอาหาร ไม่ว่าจะเป็นแกงอ่อม น้ำพริกจากผักหรือทานสดๆ กับน้ำพริก กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์นี้ก็ยิ่งชัดเจนขึ้น ช่วยเพิ่มรสชาติและความสดชื่นให้กับอาหารได้อย่างลงตัว จนบางครั้งแค่ได้กลิ่นก็ทำให้นึกถึงรสชาติอาหารอีสานแซ่บๆ ขึ้นมาทันทีค่ะ การปลูกผักแขยงไว้กินเองก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียว เพราะเป็นผักพื้นบ้านที่ขึ้นง่ายและต้องการการดูแลไม่มากนัก เราสามารถปลูกในกระถางเล็กๆ หรือแปลงดินข้างบ้านก็ได้ เมื่อถึงเวลาเก็บมาใช้ก็สามารถเด็ดมาใช้ได้ตามต้องการ ทำให้มั่นใจได้ว่าผักที่เรานำมาปรุงอาหารนั้นสดใหม่และปราศจากสารเคมี แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อผักได้อีกด้วย การได้เห็นผักที่เราปลูกเองเติบโตงอกงามก็เป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันค่ะ 10. ชะพลู กลิ่นหอมของชะพลูนั้นเป็นเอกลักษณ์มากๆ ค่ะ โดยหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับกลิ่นเขียวๆ สดชื่นที่มาพร้อมกับรสชาติเผ็ดร้อนเล็กน้อย เมื่อเด็ดใบสดๆ มาดมใกล้ๆ จะรู้สึกถึงความหอมแบบธรรมชาติที่แตกต่างจากพืชผักชนิดอื่น บางคนก็บอกว่ามีกลิ่นคล้ายพริกไทยอ่อนๆ ผสมกับความหอมแบบใบไม้ ทำให้รู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า ยิ่งเวลาที่นำไปประกอบอาหาร ความร้อนจะช่วยปลดปล่อยกลิ่นหอมนี้ออกมามากยิ่งขึ้น ชวนให้น่ารับประทานเป็นอย่างยิ่ง การปลูกชะพลูไว้กินเองก็เป็นเรื่องที่ดีเลยค่ะ เพราะเป็นพืชที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย และสามารถตัดมาใช้ได้เรื่อยๆ เพียงแค่มีพื้นที่เล็กๆ น้อยๆ ในสวน หรือแม้กระทั่งปลูกในกระถางก็ยังได้ นอกจากจะได้มีชะพลูสดๆ ไว้ใช้ปรุงอาหารได้ตลอดเวลาแล้ว ยังมั่นใจได้ถึงความสะอาดและปลอดภัย เพราะเราสามารถควบคุมการดูแลและหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง แถมยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อหาอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นการสร้างความสุขเล็กๆ น้อยๆ ในครัวเรือนเลยทีเดียวค่ะ และทั้งหมดนั้นคือตัวอย่างของผักที่มีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ ที่พอนำมาทำอาหารแล้ว ทำให้เมนูที่อร่อยอยู่แล้วยิ่งอร่อยเข้าไปอีกค่ะ โดยทุกชนิดที่ผู้เขียนได้นำเสนอไว้นั้น โดยส่วนตัวผู้เขียนปลูกเอาไว้กินเองที่นี่มากถึง 7 ชนิดค่ะ โดยไม่ได้ปลูกผักแขยง ยี่หร่าและผักแพว แต่ผักทั้ง 3 ชนิดนี้ แม่ของผู้เขียนปลูกค่ะ จะว่าผู้เขียนได้เห็นมาหมดแล้วทั้ง 10 ชนิดว่า ของจริงหอมยังไงและปลูกยังไง ก็คงจะไม่ผิดค่ะ และจริงมากๆ กับคำพูดที่ว่า สะดวกสบายตอนต้องใช้ ได้ผักสดใหม่ ปลอดสารพิษ ได้พื้นที่สีเขียวภายในบ้านและได้แหล่งอาหารในครัวเรือน ที่สามารถให้คุณค่าทางโภชนาการที่มีอยู่ในผักชนิดนั้นๆ ได้ค่ะ ก็ไม่รู้ว่าคุณผู้อ่านสนใจเกี่ยวกับผักที่ให้ความหอมตามธรรมชาติได้ในประเด็นไหน หากสนใจนำมาทำอาหารก็สามารถหาซื้อได้ตามตลาดและแหล่งอื่นๆ ได้ค่ะ ซึ่งความหอมในแต่ละอย่างเป็นแบบไหน ผู้เขียนก็ได้บอกให้ได้รู้กันหมดแล้ว จะเหลือก็เพียงคุณผู้อ่านต้องไปสัมผัสกับความหอมด้วยตัวเองค่ะ และถ้าสนใจมากกว่านั้น ที่อยากเป็นเจ้าของต้นผักแต่ละอย่าง แบบนี้ต้องลงมือปลูกค่ะ โดยเราก็ต้องเริ่มมาหาพื้นที่ในบ้านก่อนนะคะ ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาผักทั้งหมดในนี้ปลูกได้ง่ายๆ ค่ะ ต่อให้เป็นขึ้นฉ่ายก็ตาม ผู้เขียนเองยังมองว่าปลูกเกิดง่ายและมีไว้เก็บมาทำอาหารนานจนลืมเลย ยังไงนั้นลองนั่งคิดดูก่อนก็ได้ค่ะว่า เราอยากปลูกผักชนิดไหน จากนั้นค่อยลงมือทำขั้นตอนต่อไป และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไปค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปก โดย Eli Pluma จาก Pexels และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน ผลเสียจากการใช้ปุ๋ยเคมี มากเกินความจำเป็น ต่อสิ่งแวดล้อม 9 วิธีเลือกดินปลูกต้นไม้แบบถุง ดูยังไงดี น่าซื้อมาใช้ ปลูกแมงลักด้วยเมล็ด ให้งาม ในสวนผักหน้าบ้าน หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !