กลับมาอีกครั้งกับประเพณีงานเจ เยาวราช 2566 ในปีนี้ มีงานกันตั้งแต่วันที่ 14 - 23 ตุลาคม 2566 พอดิบพอดี 10 วันของเทศกาลกินเจที่ตำแหน่งเดิม บนถนนเยาวราช ตั้งแต่วงเวียนโอเดียน ถึงสี่แยกเฉลิมบุรี ปีนี้ก็เช่นเดิม มีร้านค้ามากมายมาให้เลือกช้อปปิ้งกันทั้ง 2 ฝั่งถนนเยาวราช ทั้งร้านอาหารชื่อดัง เจ้าเดิมที่เคยมา หรือหน้าใหม่ที่เพิ่งเคยมา รวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ ที่ต่างก็มีสินค้าราคาประหยัดและของแถมมาให้เลือกซื้อกันด้วยวันนี้เป็นวันแรกของการกินเจ ที่หลายๆ คนจะเริ่มกินก่อนเพื่อล้างท่องก่อนการกินจริง ซึ่งคือวัน 初一 คือวันที่ 15 ตุลาคม อย่างเช่นเราเป็นต้น สำหรับการเริ่มต้นเดิน เราเริ่มตั้งแต่สี่แยกเฉลิมบุรี เดินตรงไปยังวงเวียนโอเดียน แล้วจึงข้ามถนนไปอีกฝั่ง เดิกลับมาที่จัดเดิม ถือว่าได้เดินผ่านครบทุกร้าน 😁ฝั่งที่เราเริ่มต้นเดินคือฝั่งซ้ายจะเป็นโซนของร้านค้า บริษัทต่างๆ ซึ่งก็มีทั้งเจ้าเก่าที่เคยมาทุกๆ ปี รวมถึงเจ้าใหม่ๆ ที่มาครั้งแรก ในปีนี้จะมีทั้งมาม่า โค้ก ไวตามิ้ลค์ Heritage น้ำสิงห์ ปตท. ฮอนด้า ฟ้าไทย เด็กสมบูรณ์ KCG วีจีฟอร์เลิฟ TEA+ ซึ่งได้ขนสินค้ามาลดแลกแจกแถมกันมากมาย ส่วนสำหรับร้านอาหารทางฝั่งขวานั้นก็มีทั้งร้านเดิม ร้านใหม่มาขายกันเรียงรายเต็มไปหมด จนเลือกซื้อไม่หวั่นไม่ไหวเลยล่ะค่ะ น่ากินไปหมดทุกอย่างทั้งของคาวของหวานสำหรับเรา วันนี้เริ่มต้นที่จุ๋ยก้วยเจ้าเก่า ตลาดน้อย ร้านนี้ปกติจะตั้งอยู่ที่หน้าสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ และหน้าโรงเรียนกุหลาบวิทยา เป็นร้านเก่าแก่ที่เรากินตั้งแต่สมัยเรียนเลยล่ะค่ะ จุ๋ยก้วย ราคาชุดละ 50 บาท ถึงแม้รสชาติอาจจะสู้สมัยก่อนโน่นไม่ได้ แต่ก็ยังถือว่าเป็นร้านที่อร่อยที่สุดสำหรับเราค่ะ แป้งนุ่ม ไชโป้วคั่วได้ที่หอม รสชานเข้มข้นกลมกล่อม ยิ่งราดพริกน้ำส้มฉ่ำๆ อร่อยเว่อร์ แต่ไชโป้วอาจจะออกหวานไปหน่อย (เราเป็นคนที่ไม่กินอาหารรสหวานค่ะ เลยเวลามีความหวานปุ๊บจะรู้สึกได่อย่างทันที)ไปต่อกับร้านแอน ปาท่องโก๋ ที่มีทั้งของคาวของหวานในร้านเดียว อย่างแคปหมูเจ น้ำพริกหนุ่มเจ น้ำพริกเผาเจ และปาท่องโก๋ ซาลาเปา สังขยา เป็นอะไรที่น่าซื้อทุกอย่างเลยล่ะค่ะ แต่คงต้องเลือกซึ่งเราเลือกเป็นแคปหมูเจและน้ำพริกเผาเจค่ะ ถ้าให้ยืนเลือกคงเลือกไม่ได้ ดีที่เขามีให้ชิม แคปหมูมี 2 แบบ แบบที่เราซื้อมาจะมีรสเค็มๆ นิดหน่อย ส่วนอีกแบบเป็นท่อนๆ แบบนั้นจะมีรสจืดกว่าซึ่งกินกะน้ำพริกล่ะรสชาติพอดีเลย ราคาห่อใหญ่ 100 บาท ห่อเล็ก 60 บาทส่วนน้ำพริก มีทั้งน้ำพริกเผาและน้ำพริกหนุ่ม ที่เราว่ารสชาติไม่เผ็ดมาก น้ำพริกหนุ่มจะออกเค็มเผ็ด ส่วนน้ำพริกเผาจะออกเค็มเผ็ดและหวานนิดๆ ราคากระปุกละ 60 บาท 2 กระปุก 100 บาทหากซื้อแคปหมูเจห่อใหญ่และน้ำพริก 1 กระปุกจะเหลือ 150 บาทส่วนแคปหมูเจห่อเล็ก และน้ำพริก 1 กระปุก จะเหลือ 100 บาทและร้านสุดท้าย ที่ทุกปีต้องซื้อ พลาดไม่ได้ ทั้งๆ ที่ปกติร้านเขาก็อยู่แค่ตรงข้ามรถไฟฟ้า MRT สถานีวัดมังกร อยู่แล้วนะคะ ร้านขนมเปี๊ยะง่วนฮะเซ้ง ตั้งแผงที่เดิม หน้ามูลนิธิเทียนฟ้า ขนมเปี๊ยะก็อยู่ที่ชิ้นละ 10 หรือ 15 ซึ่งเขาตั้งเรียงรายให้เราเลือกเองได้เต็มที่ และของเด็ดคือขนมตุ๊บตั๊บ ซึ่งมี 3 แบบ ห่อสีขาวคือถ้่วธรรมดา ห่อละ 35 บาท ห่อเหลือง ไส้งาดำ ห่อละ 40 บาท ห่อชมพูคือไส้เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ห่อละ 40 บาทรอบนี้เราซื้อมาหลายๆ คละกันเลยค่ะ ทั้งตุ๊บตั๊บและขนมเปี๊ยะ หมดนี้ก็ 145 บาทล่ะค่ะ ส่วนรสชาติ เราว่าเหมือน ไม่น่ามีอะไรเปลี่ยนแปลง อร่อยเหมือนเดิม อ้อ ตุ๊บตั๊บใครซื้อแนะนำให้รีบกินเลยนะคะ ตอนสดๆ ใหม่ๆ นี่คืออร่อยมากกกกกกสำหรับใครที่สะสมคะแนนใต้ฝาน้ำสิงห์เอาไว้ สามารถนำคะแนนไปแลกคูปองมูลค่า 50 บาทได้ที่บูธน้ำสิงห์ โดยใช้เพียงแค่ 19 คะแนนในการแลกเท่านั้นกดแลกจากในไลน์ พร้อมยื่นบัตรประชาชน แต่สำหรับปีนี้ เขาให้แลกเพียงแค่ 1 คนต่อครั้ง ซึ่งร้านค้าที่รับคูปองนี้จะมีป้ายแสดงอยู่ที่บูธ และมีการแจ้งไว้ในคูปองค่ะก่อนจากกันวันนี้ได้ดูการแสดงสิงโตเล๋กๆ น้อยๆ ด้วยล่ะค่ะสำหรับใครที่อยากมาเดินงานกินเจที่เยาวราชนี้สามารถมากันได้ถึงวันที่ 23 ตุลาคมเลยค่ะ ช่วงเวลาที่เริ่มก็แล้วแต่ร้านค้า บางร้านช่วยสายๆ ก็เปิดแล้ว แต่ถ้าอยากมาแบบครบทุกร้านก็ขอแนะนำเป็นช่วงเย็นสักประมาณ 4-5 โมงค่ะ ร้านค้าครบ แถมอากาศก็กำลังดีด้วยค่ะที่มีภาพ : Leelee Lifestyle บทความแนะนำจากนักเขียนhttps://food.trueid.net/detail/rowjzpEWLz58https://food.trueid.net/detail/6A0jGa3VKrY4 ตามหาของอร่อย เมนูสุขภาพได้ที่แอป TRUEID โหลดฟรี !