ต้มปลาใส่ใบส้มป่อย ผักเปรี้ยวแทนมะนาว คืออะไร ใช้ยังไงดี | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จากชื่อเรื่องหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ใบส้มป่อยที่ในบางพื้นก็เกิดขึ้นมาเองตามธรรมชาตินั้น คือผักที่สามารถนำมาใช้นำอาหารได้หลากหลาย แล้วใบส้มป่อยถ้านำมาทำอาหารหากเราจะไปเก็บใบมีลักษณะอย่างไร แล้วเราต้องเก็บส่วนไหนมา เก็บมาแล้วตอนใช้ต้องทำยังไง อาหารของเราจะรสชาติเพี้ยนหรือเปล่า ทุกความสงสัยที่ว่ามานั้น ผู้เขียนขอไขข้อข้องใจค่ะ ดังนั้นเนื้อหาต่อไปนี้เราจะมารู้กันว่า ต้มยำปลานิลที่นำใบส้มป่อยแทนการใส่ผักอื่นๆ ที่มีรสเปรี้ยว ที่เป็นการใส่แทนมะนาว แบบที่มะขามเปียกก็ไม่ใส่เลย จะหน้าตาออกมายังไง จะอร่อยจริงไหม โดยเป็นข้อมูลที่ได้จากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนเองค่ะ และจะเรียกว่าเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนในภาคอีสานในชนบทของประเทศไทยก็ได้ น่าสนใจแล้วใช่ไหคะ? และถ้าอยากรู้เกี่ยวกับใบส้มป่อยแล้ว งั้นเรามาอ่านกันเลยจ้า กับเนื้อหาดีๆ ดังต่อไปนี้ คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า ต้นส้มป่อยโดยทั่วไปแล้วถือว่าเป็นพืชที่ค่อนข้างทนทานและปลูกเลี้ยงไม่ยากนัก ซึ่งมักจะพบว่าขึ้นได้ดีในสภาพดินร่วนปนทราย ที่ต้องมีการระบายน้ำได้ดี และชอบแสงแดดเต็มที่ค่ะ การขยายพันธุ์ต้นส้มป่อยสามารถทำได้ทั้งจากการเพาะเมล็ดและการปักชำกิ่ง ซึ่งการเพาะเมล็ดอาจต้องใช้เวลานานกว่า แต่ต้นที่ได้จะมีความแข็งแรงและมีรากแก้วที่หยั่งลึก ส่วนการปักชำกิ่งจะให้ผลผลิตเร็วกว่า แต่ระบบรากอาจไม่แข็งแรงเท่านะคะแบบแรก ที่นี่ผู้เขียนสามารถเก็บใบส้มป่อยได้ง่ายๆ ค่ะ เพราะอนุรักษ์ไว้ 3 ต้น และจากที่มีต้นส้มป่อยที่สวนมานั้น ถึงแม้ว่าต้นส้มป่อยจะไม่ต้องการการดูแลที่ซับซ้อนมากนัก แต่เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพ การให้น้ำอย่างสม่ำเสมอในช่วงแรกของการปลูก และการใส่ปุ๋ยบำรุงดินบ้างเป็นครั้งคราว ก็จะช่วยให้ต้นเจริญเติบโตได้ดีค่ะ นอกจากนี้การกำจัดวัชพืชที่อาจมาแย่งอาหารและน้ำก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน โดยรวมแล้วหากมีพื้นที่ที่เหมาะสมและมีการดูแลเบื้องต้นอย่างถูกวิธี การปลูกต้นส้มป่อยก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป และยังเป็นพืชที่มีสามารถนำส่วนต่างๆ มาใช้ได้หลากหลายอีกด้วยค่ะ หลายคนยังไม่รู้ว่า ใบส้มป่อยมีลักษณะเป็นใบย่อยขนาดเล็ก รูปขอบขนานแคบ ปลายใบมนหรือแหลม และมีติ่งหนามเล็กๆ ที่ปลายใบ สีของใบเมื่อแห้งจะเป็นสีน้ำตาล ยอดอ่อนมีรสเปรี้ยวและฝาดเล็กน้อย อีกทั้งยังมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใบส้มป่อยมีสารประกอบทางเคมีตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ทำให้ใบไม้ชนิดนี้มีคุณค่าทางอาหาร และจากที่ใบส้มป่อยมีคุณสมบัติเด่น คือ รสเปรี้ยวอมฝาดที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งรสชาตินี้เองที่ทำให้คนนำมาใช้ปรุงแต่งรสชาติอาหารได้อย่างหลากหลาย แทนการใช้น้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูในบางเมนูนะคะ ซึ่งความเปรี้ยวของใบส้มป่อยให้รสชาติที่นุ่มนวลและมีความซับซ้อนกว่า ทำให้อาหารมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและรสชาติที่กลมกล่อมลงตัวกว่า นอกจากนี้ใบส้มป่อยยังมีสารตามธรรมชาติ ที่ช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ได้ดี ดังนั้นในชนบทอีสานจึงนิยมนำไปใส่ในเมนูที่มีเนื้อปลาหรือเนื้อสัตว์อื่นๆ เพื่อเพิ่มความอร่อยและลดความคาวค่ะ คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การนำใบส้มป่อยมาใช้ในการปรุงอาหารเป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาที่น่าสนใจของคนไทยอีสานในชนบท ด้วยรสเปรี้ยวที่เป็นธรรมชาติและกลิ่นหอมอ่อนๆ ของใบส้มป่อยสามารถยกระดับรสชาติของอาหารให้มีความโดดเด่นและน่ารับประทานยิ่งขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ ซึ่งการใช้ใบส้มป่อยยังเป็นการนำวัตถุดิบจากธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาใช้ประโยชน์ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของการหันมาบริโภคอาหารตามฤดูกาลและการสนับสนุนผลผลิตในท้องถิ่นอีกด้วยค่ะ เพราะใบส้มป่อยเป็นผักพื้นบ้านนะคะ และเมนูหนึ่งที่ผู้เขียนชอบมากๆ เลยก็คือ ต้มปลานิลใส่ใบส้มป่อยค่ะ ที่เป็นอาหารที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นมาก จากที่ใบส้มป่อยจะให้รสเปรี้ยวอมหวานและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เมื่อนำมาต้มกับปลานิลจะช่วยดับกลิ่นคาวของปลาได้ดี ทำให้ได้น้ำซุปที่มีรสชาติกลมกล่อมลงตัว ซดแล้วต้องซดอีกจนหมดถ้วยค่ะ และนอกจากรสเปรี้ยวหวานแล้ว ยังมีความเผ็ดร้อนเล็กน้อยจากพริกสดที่ใส่ลงไปด้วย ซึ่งช่วยเพิ่มความจัดจ้านและน่ารับประทานยิ่งขึ้นของเมนูนี้ หากใครยังไม่เคยลอง ต้องหาโอกาสลิ้มรสดูสักครั้ง รับรองว่าจะติดใจในรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์นี้อย่างแน่นอนค่ะ หากคุณผู้อ่านไปเก็บใบส้มป่อยมาใส่ต้มปลานิลเอง สิ่งสำคัญคือการเลือกเก็บใบที่ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไปนะคะ โดยสังเกตจากใบที่มีสีเขียวสด ไม่เหลืองหรือมีรอยช้ำ ใบควรมีขนาดพอเหมาะ ไม่เล็กจนเกินไปจนได้รสน้อย และไม่ใหญ่จนเหนียวเกินไป ควรเลือกเก็บในช่วงเช้าตรู่หลังจากน้ำค้างแห้งแล้ว เพราะเป็นช่วงเวลาที่ใบส้มป่อยมีน้ำมันหอมระเหยตามธรรมชาติมาก และมีส่วนทำให้อาหารของเรามีกลิ่นหอมและรสชาติดีที่สุดค่ะ และเมื่อคุณผู้อ่านเก็บใบส้มป่อยมาแล้วหรือซื้อจากตลาดมาแล้วก็ตาม สิ่งแรกที่ต้องทำคือควรล้างทำความสะอาดเบาๆ เพื่อเอาฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกออกก่อนนะคะ จากนั้นหากมีก้านที่แข็งกระด้างก็ควรเด็ดทิ้งไป และการเก็บเฉพาะใบส้มป่อยในส่วนที่ใช้ได้เท่านั้น ซึ่งสามารถทำได้โดยการนำไปตากแดดให้แห้งสนิทก็ได้ แล้วนำมาเก็บใส่ถุงหรือภาชนะปิดมิดชิด หรือจะเก็บแบบสดในตู้เย็นก็ได้ แต่การเก็บแบบแห้ง จะช่วยให้เราสามารถมีใบส้มป่อยนำมาใช้ปรุงอาหารได้นานหลายวันยิ่งขึ้นค่ะ หรืออีกวิธีคือการนำไปแช่แข็ง แต่คุณภาพของกลิ่นและรสชาติอาจลดลงเล็กน้อยนะคะ และเหตุผลที่ว่าการที่ต้มปลานิลสามารถใช้ใบส้มป่อยได้นั้น ก็เป็นเพราะว่าใบส้มป่อยมีคุณสมบัติพิเศษหลายอย่างที่เข้ากันได้ดีกับเนื้อปลา โดยเฉพาะปลานิลนะคะ เนื่องจากใบส้มป่อยมีรสเปรี้ยวอมหวานและมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งช่วยในการดับกลิ่นคาวของปลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้น้ำซุปปลามีรสชาติที่กลมกล่อมและน่ารับประทานยิ่งขึ้น นอกจากนี้ความเปรี้ยวของใบส้มป่อยยังช่วยให้เนื้อปลาไม่กระด้าง คงความนุ่มและชุ่มฉ่ำเอาไว้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นในสถานการณ์จริงนั้น ใบส้มป่อยยังถูกนำมาใช้ในการปรุงอาหารหลากหลายชนิด ไม่จำกัดเฉพาะแค่ปลานิลเท่านั้นนะคะ เพราะด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และคุณสมบัติในการดับกลิ่นคาว ทำให้ใบส้มป่อยเป็นวัตถุดิบที่น่าสนใจและนำมาประยุกต์ใช้กับอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น ใส่ต้มยำไก่ แกงเห็ด เป็นต้น ซึ่งตัวอย่างของการนำใบส้มป่อยมาใส่ในต้มปลานิล ถือเป็นการผสมผสานภูมิปัญญาพื้นบ้าน ให้เข้ากับวัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่นได้อย่างลงตัว และทำให้เกิดเป็นเมนูที่มีรสชาติอร่อยและเป็นที่นิยมค่ะ ถ้าหากคุณผู้อ่านต้องการหาใบส้มป่อยมาปรุงอาหาร อาจต้องลองมองหาตามธรรมชาติที่เกิดเองจากแหล่งต่างๆ ที่อาจมีเกิดได้เห็น ขึ้นอยู่กับว่าเราอยู่ในพื้นที่แบบไหน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วต้นส้มป่อยมักจะขึ้นตามป่าโปร่งหรือตามหัวไร่ปลายนาในแถบชนบท ดังนั้นหากอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง อาจจะลองสอบถามจากชาวบ้านในละแวกนั้นดู เพราะคนที่เขารู้จักแหล่งที่มีต้นส้มป่อยจะสามารถให้ข้อมูลเราได้ค่ะ หรือถ้าเขามีเก็บไว้บ้าง ก็เป็นไปได้ว่าเราอาจได้มาแบบฟรีๆ จากการแบ่งปันของคนอื่น และอีกทางเลือกหนึ่งคือการลองหาซื้อตามตลาดสดหรือตลาดพื้นบ้านค่ะ โดยเฉพาะตลาดที่มีแผงขายผักพื้นบ้านหรือสมุนไพรต่างๆ อาจจะมีแม่ค้าที่เก็บหาของป่ามาขายรวมถึงใบส้มป่อยด้วย นอกจากนี้ในปัจจุบันก็มีช่องทางออนไลน์มากขึ้น อาจจะลองค้นหาในกลุ่มซื้อขายของป่า หรือผลิตภัณฑ์จากชุมชนต่างๆ ก็ได้ โดยเราอาจจะพบผู้ที่ขายใบส้มป่อยอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามการหาซื้อใบส้มป่อยอาจจะไม่สะดวกเท่าวัตถุดิบอื่นๆ เนื่องจากไม่ได้มีการเพาะปลูกเป็นการค้ามากนัก การสอบถามจากคนในท้องถิ่นจึงอาจเป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุดนะคะ และนั่นคือเนื้อหาเกี่ยวกับใบส้มป่อยค่ะ ที่โดยสรุปแล้วการใส่ใบส้มป่อยก็คือ การใส่ผักชนิดหนึ่งที่มีความเปรี้ยวธรรมชาติ โดยผักชนิดนี้เป็นผักพื้นบ้าน ที่ไม่ได้มีทั่วไป แต่ในพื้นที่ชนบทภาคอีสานของประเทศไทยมีแน่นอนค่ะ ที่ในปัจจุบันการปลูกหรืออนุรักษ์ต้นส้มป่อยก็เป็นเรื่องที่หลายคนสนใจมากขึ้น เพราะดูเหมือนว่าใบส้มป่อยจะหายากขึ้นไปทุกที และยังไงก็ตามนะคะ หากคุณผู้อ่านมีใบส้มป่อยอยู่ในมือ ก็อย่าลืมลองทำเมนูต้มยำปลานิลใส่ใบส้มป่อยค่ะ ก็ง่ายๆ ค่ะ ให้เราเตรียมเครื่องยำ และแทนที่จะนำมะขามเปียกมาใส่ ให้เราตัดออก แล้วให้เราใส่ยอดส้มป่อยที่เราหันเป็นท่อนเอาไว้ ลงไปในน้ำเดือดจัดพร้อมเครื่องต้มยำอื่นๆ เท่านั้นเองค่ะ ง่ายมากๆ มองเห็นภาพกันไหมะ? ซึ่งการได้รู้ว่า ใบส้มป่อยสามารถนำมาใส่อาหารแทนมะนาวได้ ถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการทำอาหารค่ะ ที่ก็มีส่วนทำให้เราได้รับคุณค่าทางโภชนาการที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติในใบส้มป่อย และหากคุณผู้อ่านอยากลิ้มลองรสชาติเมนูจากใบส้มป่อย ต้องไปตลาดค่ะ เพราะน่าจะมีใบส้มป่อยมาวางขายบ้าง และที่นี่ถ้ามีเขาขายกันแค่กำละ 5 บาทเท่านั้นเองค่ะ ยังไงลองไปทำเมนูอร่อยจากใบส้มป่อยกันค่ะทุกคน และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไปค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและหน้าปกโดยผู้เขียน ออกแบบใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน 8 วิธีเลือกปลายังไงให้สด รสชาติดี ทำอาหารอร่อย แบบไม่ต้องสั่งทุบหัว 7 ของเปรี้ยวใช้แทนมะนาว ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน อร่อยชัวร์! เมนูจากปลานิล วิธีทำต้มยำปลานิลน้ำใส ไม่คาว แซ่บๆ ง่ายๆ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !