กินอยู่อย่างไรให้ประหยัด และไม่ขาดสารอาหารในช่วงเวลาเก็บตัวอยู่บ้าน การอยู่ในเมืองและมีอาชีพหาเช้ากินค่ำไม่ได้มีเงินมากมาย ที่จะซื้ออาหารมากักตุนหรือซื้อเก็บคราวละมาก ๆ ได้ ในสถานการณ์แบบนี้จะแก้ไขปัญหาปากท้องของตัวเองและสมาชิกในบ้านอย่างไร ให้กินอิ่มและไม่ให้ขาดสารอาหาร วันนี้ผู้เขียนขอแบ่งปันการใช้ชีวิตของตัวเองในการเลือกกิน เลือกใช้อาหารที่มีอยู่อย่างจำกัด ให้กินได้นานหลายวันเพื่อเป็นการประหยัด อีกทั้งช่วงสถานการณ์แบบนี้อาหารต่าง ๆ ก็จะมีราคาสูงกว่าช่วงปกติอย่างแน่นอน การรู้จักดัดแปลงของที่มีอยู่ในบ้านมาทำเป็นอาหาร เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงในแต่ละมื้อนั้น เป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อจะให้ร่างกายมีภูมิต้านทานในการป้องกันโรคระบาด มาดูกันค่ะว่ามื้อเช้านี้ทำอะไรกินบ้าง ด้วยสมาชิกในครอบครัวมีหลายช่วงวัย แต่ก็ปรับการกินให้ใกล้เคียงกันได้ เช้านี้เมื่อสำรวจดูในบ้านแล้วพบว่า มีโจ๊กอบแห้งจากข้าวหอมมะลิอยู่ 1 กระปุก เมื่อนำมาทำตามวิธีที่แนะนำข้างกระป๋อง ก็จะได้โจ๊กร้อน ๆ เนื้อนุ่มเหนียวอร่อยน่ากินมาก ซึ่งวิธีการก็ทำไม่ยากเพียงแต่รู้จักนำวัตถุดิบที่มีอยู่แล้ว มาดัดแปลงก็ได้เป็นเมนูอาหารถึง 2 อย่างโดยมีวิธีการทำดังนี้ 1. การต้มน้ำซุปแกงจืดโดยต้มน้ำให้เดือด แล้วนำหมูสับที่มีเหลือในตู้เย็น มาปั้นเป็นก้อนและต้มในหม้อน้ำเดือด ได้เป็นน้ำซุป อีกทั้งยังมีผักไชยาที่ปลูกไว้ในกระถางหน้าบ้าน จึงไปเด็ดยอดอ่อนมาใส่เพื่อให้มีสารอาหารครบถ้วน ต้มจนเดือดเหยาะซีอิ๊วขาวเล็กน้อย เติมไข่ไก่ลงไปปิดไฟยกลงจากเตา 2. นำโจ๊กข้าวอบแห้งใส่ถ้วยประมาณ 3-4 ช้อน ตักน้ำซุปที่ต้มแล้วค่อย ๆ ใส่ลงไปในถ้วยโจ๊ก แล้วคนจนโจ๊กเข้ากัน ตักหมู ผักและไข่ลงไปในชามก็จะได้โจ๊ก 1 ชามสำหรับกินเป็นมื้อเช้า เพิ่มรสชาติด้วยพริกไทยป่น ขิงซอย กระเทียมเจียว ก็จะได้โจ๊กที่มีคุณค่าสารอาหารครบถ้วน แถมประหยัดที่สำคัญทำเองก็ย่อมจะคุ้มค่ากว่าไม่ต้องออกไปหาซื้อ ซึ่งร้านขายโจ๊กส่วนใหญ่จะปิดร้านหาซื้อยาก หากใครไม่มีโจ๊กอบแห้งก็สามารถทำเองได้โดยการต้มข้าวให้เป็นข้าวต้ม และก็ใส่หมูสับ ใส่ผักปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว และกระเทียมเจียว ก็จะได้โจ๊กอร่อยกินเอง ซึ่งการไม่ปรุงแต่งด้วยเครื่องปรุงมากมายและผงชูรส จะทำให้ได้สัมผัสถึงความหอมและความหวานของข้าวกับผัก ที่มีมาตามธรรมชาติได้ดีมากทีเดียว เมื่อทำแล้วยังมีน้ำซุปเหลือในหม้อ ซึ่งประกอบด้วยหมูสับปั้นก้อน ไข่ไก่ และผัก สามารถมาทำเป็นแกงจืดกินกับข้าวสวยได้ ส่วนผู้ที่ชอบกินบะหมี่สำเร็จรูป ก็สามารถนำไปต้มกับบะหมี่สำเร็จรูปได้เป็นบะหมี่น้ำได้อีกหนึ่งชาม เพียงแต่อย่าใส่เครื่องปรุงที่ติดมากับซองบะหมี่เพิ่มอีกนะคะ เพราะว่าในน้ำซุปนี้มีสายซีอิ๊วขาวไปแล้ว ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้ได้รับโซเดียมมากไป จะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ในสภาวะอย่างนี้ควรจะถนอมร่างกายให้ดี ดูแลให้แข็งแรงไม่ควรกินอาหารสำเร็จรูปที่ผ่านการปรุงแต่งมากซ้ำ ๆ บ่อย ๆ จนเกินไป สำหรับผู้ที่ไม่ชอบกินเนื้อสัตว์ สามารถนำน้ำต้มกับผัก แล้วมาใส่ในโจ๊กอบแห้ง คนให้เข้ากันดีแล้ว เติมโปรตีนต่าง ๆ เช่น เห็ดหรือถั่วก็ได้ สำหรับวันนี้ผู้เขียนมีเทมเป้ทอดกระเทียมพริกไทย ที่ทำเก็บไว้จึงนำมาใส่ในโจ๊ก เติมกระเทียมเจียว ขิงซอย และแคร์รอตฝอย เพื่อให้ได้คุณค่าสารอาหารครบถ้วน เมื่อคนโจ๊กกับน้ำต้มผักแล้ว ก็จะได้โจ๊กที่กินแล้วอิ่มท้อง และได้รับคุณค่าสารอาหารเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายอีกด้วย ต้มน้ำซุปหม้อนี้ทำโจ๊กได้ 3 ชาม ซึ่งหากซื้อมากินก็จะต้องจ่ายเงินถึง 150 บาทแต่เมื่อทำเองต้นทุนไม่ถึง 50 บาทก็จะช่วยประหยัดเงินไว้ได้ถึง 100 บาทเก็บไว้ใช้จ่ายในคราวต่อไปได้ เรามาดูกันว่าในโจ๊กชามนี้มีสารอาหารอะไรบ้าง - ตัวโจ๊กอบแห้ง ที่ประกอบด้วยข้าวหอมมะลิมีสารอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย มีวิตามินบีรวมช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย บำรุงสมอง วิตามินบี 1 ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา รวมถึงสารอาหารต่าง ๆ อีกมาก - หมูสับ ให้โปรตีนเพื่อบำรุงร่างกาย ให้กล้ามเนื้อแข็งแรง และเซลล์ทำงานได้ดีอย่างมีประสิทธิภาพ - ผักไชยา ซึ่งมีสารสีเขียว มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามินซี และแร่ธาตุต่าง ๆ สูงโดยเฉพาะแคลเซียม ธาตุเหล็ก สามารถช่วยบำรุงร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง - ไข่ไก่ มีวิตามินเอ ธาตุเหล็ก โปรตีน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน - กระเทียมและขิง ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อต้านเชื้อแบคทีเรียได้ดี หากใครชอบรสเผ็ดร้อนของขิงก็ให้มากขึ้นได้ตามชอบ เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ จะเห็นได้ว่าการใช้ชีวิตด้วยความมีสติ การไม่ตื่นตระหนก แต่มีการเตรียมตัวป้องกันดูแลตัวเอง และเก็บตัวอยู่ในบ้าน ทำอาหารที่กินแล้วช่วยส่งเสริมให้สุขภาพของคนในครอบครัวดีขึ้น ก็ช่วยป้องกันโรคระบาดได้ระดับหนึ่ง หากคุณผู้อ่านมีเวลาว่างไม่รู้จะทำอะไรก็ลองฝึกทำอาหารแบบใหม่ ๆ ที่กินแล้วช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ได้ หรือผู้ที่ชอบปลูกต้นไม้ก็ลองปลูกผักที่โตไวอย่างผักไชยาก็ได้ ซึ่งผู้เขียนเองก็ได้ปลูกไว้หลายต้นเมื่อ 2-3 เดือนที่แล้วตอนนี้ก็ได้เก็บกินได้แล้ว อาหารเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตคนเราทุกคน การเลือกสรรสิ่งที่ดีมีประโยชน์ โดยเฉพาะผักปลอดสารพิษ ถ้าหากคนเมืองทำได้ ก็จะเป็นสิ่งที่ดี เมื่อยามคับขันอย่างสถานการณ์ปัจจุบันนี้ ก็จะได้เก็บมาใช้ได้ทันที ผู้เขียนเองก็ได้พบเจอกับตัวเองแล้ว จึงได้รู้ว่าการที่เป็นคนชอบปลูกผักปลูกต้นไม้ มีประโยชน์ และเห็นคุณค่ามากที่สุดก็ช่วงเวลานี้นี่เอง อาหารเป็นหนึ่งในโลก อาหารเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของสิ่งมีชีวิตโดยเฉพาะมนุษย์ และอาหารที่สำคัญที่สุดก็คือ พืช ผัก ผลไม้ ถั่วเมล็ดแห้งต่าง ๆ ซึ่งร่างกายจะขาดสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เลย ฉะนั้นขอแถมนิดนึงว่าหากจะซื้ออาหารคราวต่อไปลองซื้อถั่วเมล็ดแห้ง เช่นถั่วเขียว ถั่วขาว ถั่วแดง ถั่วดำ นอกจากนำมาต้มกินทดแทนเนื้อสัตว์แล้ว ลองนำมาเพาะงอกดู ก็จะได้อาหารมื้อสำคัญไว้กินในยามที่ผักขาดแคลนก็ได้ คุณผู้อ่านลองหาวิธีทำจากสื่อต่าง ๆ ได้ก่อน ไว้คราวหน้าผู้เขียนจะนำวิธีการเพาะถั่วงอกแบบง่าย ๆ มาฝากให้ท่านผู้อ่านได้เพาะถั่วงอกสด ๆ ไว้กินกันค่ะ