8 จุดสังเกตมะเขือเปราะอ่อน ดูแบบไหนดี ทำแกงเขียวหวานได้ อ่านเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล เวลาเราพูดถึงผักที่มีรสชาติที่ดี เนื้อสัมผัสที่ชวนให้น่าทาน สิ่งแรกที่เรามักมองหาคือผักที่อยู่ในช่วงที่ยังอ่อนอยู่ ซึ่งมะเขือเปราะคือหนึ่งตัวอย่างของผักที่เราทุกคนชอบแบบอ่อนๆ เพราะนอกจากจะบ่งบอกถึงความพิถีพิถันในการทำอาหาร และการเลือกซื้อได้อย่างมืออาชีพแล้ว มะเขือเปราะอ่อนยังมีความเฉพาะในอีกหลายๆ เรื่อง จึงทำให้เวลาเราไปซื้อมะเขือเปราะจึงต้องมองหาแบบอ่อนๆ แล้วมะเขือเปราะแบบนี้หน้าตายังไง คุณผู้อ่านพอจะบอกถึงจุดสังเกตได้ไหมคะ? หรือว่ายังงงๆ อยู่ เพราะที่ผ่านมาก็เลือกแบบไม่ได้มีหลักการอะไร งั้นก็ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะเราจะรู้คำตอบกันตอนนี้เลย โดยคำตอบที่ว่าเราจะต้องสังเกตยังไงดี ให้ตัวเองรู้ว่ามะเขือเปราะผลนั้นยังอ่อนอยู่ มีมาให้แล้วในบทความนี้ค่ะ โดยเมื่ออ่านจบแล้วต่อให้ไม่เคยเลือกมาก่อนก็ทำได้ง่ายๆ ต่อให้เป็นพ่อบ้านไปจ่ายตลาดเองก็ผ่านฉลุย ที่สำคัญคืออ่านจบรู้เรื่องและสามารถบอกต่อให้กับคนอื่นได้อย่างมืออาชีพอีกด้วย น่าสนใจแล้วใช่ไหมล่ะทุกคน? งั้นอ่านต่อกันเลยดีกว่า และต่อไปนี้คือ 8 จุดสังเกตง่ายๆ ที่ควรรู้เพื่อสังเกตว่ามะเขือเปราะลูกไหนอ่อนค่ะ 1. ผิวสีเขียวอ่อนสดใส รู้ไหมคะว่า มะเขือเปราะอ่อนมักมีผิวสีเขียวอ่อนสดใส นั่นเป็นเพราะว่าเป็นช่วงที่มะเขือกำลังเจริญเติบโตอย่างเต็มที่และยังมีอายุน้อย โดยเป็นช่วงที่มะเขือสร้างเม็ดสีเขียวอย่างต่อเนื่องและในปริมาณมาก จึงทำให้ผิวมะเขือดูสดใสและมีสีเขียวอ่อนสม่ำเสมอทั่วทั้งลูก ซึ่งเป็นสัญญาณว่ามะเขือยังไม่แก่จัด มีเนื้อสัมผัสจะยังคงความนุ่มนวล เมล็ดเล็ก ไม่แข็งกระด้าง ที่เหมาะสำหรับการนำไปปรุงอาหาร โดยเฉพาะแกงเขียวหวาน การสังเกตแบบง่ายๆ คือให้มองหามะเขือที่มีผิวตึง เนียน ไม่เหี่ยวย่น และสีเขียวอ่อนเหมือนเพิ่งเด็ดมาจากต้น หากสีเริ่มเข้มขึ้นออกเหลืองหรือมีรอยด่าง แสดงว่ามะเขืออาจจะแก่เกินไปแล้ว ทำให้แกงออกมาไม่นุ่มอร่อยเท่าที่ควรค่ะ 2. ผิวเรียบเนียนเป็นมันเงา ความเงาเกิดจากชั้นเคลือบผิวตามธรรมชาติของพืชที่ยังสมบูรณ์และเซลล์ผิวยังเต็มไปด้วยน้ำ ทำให้สะท้อนแสงได้ดี ส่วนความเรียบเนียน ก็บอกว่ามะเขือยังไม่ได้รับการกระทบกระเทือน ไม่มีรอยบุบช้ำ หรือรอยเหี่ยวที่เกิดจากการขาดน้ำหรือเก็บไว้นานเกินไป ซึ่งรอยเหล่านี้จะทำให้ผิวมะเขือดูด้านและไม่น่ากินค่ะ โดยมะเขือเปราะอ่อนที่มีผิวเรียบเนียนเป็นมันเงา เป็นสัญญาณที่ดีบอกถึงความสดใหม่และคุณภาพของมะเขือค่ะ และวิธีสังเกตง่ายๆ ก็คือให้ลองมองหาลูกที่ดูตึงๆ และเมื่อสัมผัสแล้วลื่นมือ ไม่มีสะดุด ที่รอยขรุขระหรือรอยช้ำใดๆ ถ้าเจอแบบนี้ก็มั่นใจได้เลยว่าเป็นมะเขือเปราะอ่อนที่เหมาะจะเอาไปทำแกงอร่อยๆ ค่ะ 3. ขนาดเล็กกะทัดรัด หลายคนยังไม่รู้ว่า จริงๆ แล้วมะเขือเปราะอ่อนตามท้องตลาดที่เราควรเลือกซื้อ มักมีขนาดเล็กกะทัดรัดค่ะ ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วมะเขือเปราะอ่อนๆ นั้น จะถูกเก็บเกี่ยวในขณะที่ยังไม่แก่จัด เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่กรอบ อ่อนนุ่ม และรสชาติไม่ขมจัดเหมือนมะเขือที่แก่แล้วนั่นเองค่ะ ซึ่งการเก็บเกี่ยวในระยะนี้จะทำให้ผลมะเขือยังคงมีขนาดเล็กและมีเมล็ดข้างในน้อย หรือบางครั้งก็ยังไม่มีเมล็ดเลยด้วยซ้ำ หากสังเกตง่ายๆ มะเขือเปราะอ่อนจะมีผิวที่เรียบเนียนเป็นมันวาว สีเขียวอ่อนสดใสร่วมด้วย และเมื่อบีบเบาๆ จะรู้สึกได้ถึงความแน่นแต่ไม่แข็งกระด้าง ที่แสดงว่ายังอ่อนอยู่และน่ารับประทานค่ะ 4. ผิวไม่เป็นลายจุดหรือรอยเส้น ปกตินั้นมะเขือเปราะอ่อนๆ เรามักจะพบว่ามีผิวที่เรียบเนียนนะคะ และไม่ค่อยมีลายจุดหรือรอยเส้น ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะมะเขือเปราะที่ยังอ่อนอยู่นั้นจะยังไม่ผ่านการสัมผัสกับปัจจัยภายนอกมากนัก ไม่ว่าจะเป็นแสงแดดที่มากเกินไป แมลงศัตรูพืช หรือการเสียดสีกันเอง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวของมะเขือมีตำหนิหรือรอยด่างดำเมื่อแก่ขึ้นนั่นเองค่ะ และการสังเกตมะเขือเปราะอ่อนที่ผิวสวยๆ ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่มองหามะเขือที่มีผิวสีเขียวอ่อนสดใสทั่วทั้งผล ไม่มีรอยด่างดำ รอยช้ำหรือจุดสีน้ำตาล โดยผิวจะดูเต่งตึงและมีความมันวาวเล็กน้อย ที่แสดงว่าเป็นมะเขือที่สดใหม่และยังอ่อนอยู่ เหมาะแก่การนำไปประกอบอาหารมากๆ เลยค่ะ 5. ขั้วยังสดและเขียว เมื่อเราเลือกซื้อมะเขือเปราะอ่อน สิ่งที่เราจะต้องสังเกตคือขั้วของมะเขือค่ะ โดยมะเขือเปราอ่อนจริงๆ ขั้วจะยังคงสดและมีสีเขียว ที่เป็นแบบนั้นเพราะมะเขือเปราะที่เพิ่งเก็บเกี่ยวมาใหม่ๆ หรือยังอ่อนอยู่นั้น เซลล์ต่างๆ รวมถึงส่วนของขั้วจะยังไม่เสื่อมสภาพ ยังคงได้รับสารอาหารและความชุ่มชื้นจากต้นอยู่บ้าง ทำให้ขั้วยังคงมีชีวิตชีวา ไม่เหี่ยวเฉาหรือเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล การที่ขั้วยังสดและเขียวนี้เป็นสัญญาณบอกเราว่ามะเขือลูกนั้นเพิ่งถูกเก็บมาไม่นาน ที่ยังมีความสดใหม่มากๆ หากเราเจอขั้วมะเขือที่เริ่มเหี่ยว แห้งหรือเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ นั่นอาจหมายความว่ามะเขือลูกนั้นเริ่มจะไม่อ่อนแล้ว หรือถูกเก็บมานานแล้วนั่นเองค่ะ ดังนั้นเวลาเลือกซื้อมะเขือเปราะ อย่าลืมดูที่ขั้วเป็นอันดับแรกๆ นะคะ 6. เนื้อแน่นแต่ไม่แข็งกระด้าง คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า มะเขือเปราะอ่อนมักจะมีลักษณะพิเศษ คือ เนื้อจะแน่นแต่ไม่แข็งกระด้าง นั่นเป็นเพราะในระยะนี้มะเขือยังอ่อนอยู่ เซลล์ภายในผลยังคงเต็มไปด้วยน้ำและสารอาหารต่างๆ ทำให้ผลมีความเต่งตึงและอิ่มน้ำ แต่ผนังเซลล์ก็ยังไม่หนาตัวมากพอที่จะทำให้รู้สึกแข็งกระด้างเหมือนมะเขือที่แก่จัดนะคะ และวิธีสังเกตง่ายๆ คือ ให้ลองใช้ปลายนิ้วบีบเบาๆ ที่ผลมะเขือ เราจะรู้สึกได้ถึงความแน่นเฟิร์มแต่มีความยืดหยุ่นเล็กน้อย ไม่ยวบยาบเหมือนมะเขือที่ช้ำ หรือแข็งโป๊กจนกดไม่เข้า ถ้าเจอแบบนี้รับรองได้เลยว่ามะเขือลูกนั้นอ่อนกำลังดี เหมาะจะนำไปทำอาหารได้หลากหลายเมนู โดยเฉพาะทำแกงเขียวหวานแบบไทยๆ 7. ถ้าลองหั่นหรือกัดดูจะหักง่ายและมีเสียงดัง “เปาะ” เมื่อเราลองหั่นหรือกัดมะเขือเปราะอ่อน เรามักจะได้ยินเสียง "เปาะ" ดังออกมา นั่นเป็นเพราะว่ามะเขือเปราะที่ยังอ่อนอยู่นั้น ผนังเซลล์ภายในผลยังบางและเต็มไปด้วยน้ำ เมื่อถูกแรงกดจากการหั่นหรือกัด เซลล์เหล่านั้นจะแตกตัวออกอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดเสียงที่เป็นเอกลักษณ์นี้ขึ้นมาค่ะ ซึ่งต่างจากมะเขือแก่ที่ผนังเซลล์จะหนาและเหนียวขึ้น ทำให้เวลาหั่นหรือกัดจะรู้สึกเหนียวและไม่มีเสียง "เปาะ" ที่ชัดเจนแบบนี้ วิธีสังเกตง่ายๆ คือ ลองหั่นมะเขือด้วยมีดคมๆ หากได้ยินเสียง "เปาะ" พร้อมกับความรู้สึกที่คมมีดตัดผ่านได้ง่ายๆ แสดงว่ามะเขือลูกนั้นยังอ่อน สด และกรอบน่ารับประทานมากๆ เลยค่ะ 8. ผ่าดูแล้วเมล็ดเล็กและอ่อน เมื่อเราผ่ามะเขือเปราะอ่อนดูจะสังเกตเห็นว่า เมล็ดข้างในมีขนาดเล็กมาก หรือบางครั้งก็ยังอ่อนนุ่มจนเกือบมองไม่เห็นเป็นเม็ดชัดเจน นั่นเป็นเพราะมะเขือยังอยู่ในช่วงของการเจริญเติบโต ที่เมล็ดยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้มีขนาดเล็กและมีเนื้อสัมผัสที่อ่อนนุ่ม ซึ่งต่างจากมะเขือที่แก่จัดที่เมล็ดจะโตขึ้น แข็งขึ้น และมีสีเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การที่เมล็ดเล็กหรืออ่อนนี้เองที่เป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้สำคัญของมะเขือเปราะคุณภาพดี เพราะหมายความว่าเนื้อสัมผัสโดยรวมของมะเขือจะยังคงความกรอบและไม่เหนียว วิธีสังเกตง่ายๆ คือ ให้ลองผ่ามะเขือดู หากเจอเมล็ดเล็กจิ๋ว สีขาวอ่อน หรือแทบจะกลืนไปกับเนื้อ ก็มั่นใจได้เลยว่ามะเขือลูกนั้นอ่อนกำลังดี เหมาะสำหรับนำไปทำอาหารได้หลากหลายเมนู ที่ไม่ต้องกังวลเรื่องความขมของเมล็ดเลยค่ะ และนั่นคือ 8 จุดสังเกตง่ายๆ ที่ทำให้เราเลิกสงสัยสักทีว่า มะเขือเปราะอ่อนเป็นแบบไหนนะคะ พอจะมองภาพออกแล้วใช่ไหมคะ? ไม่ได้ยากจนเกินไปใช่ไหม? ปกติผู้เขียนก็นำเทคนิคต่างๆ ในบทความนี้มาใช้เหมือนกันค่ะ โดยพบว่าใช้ได้ทุกสถานการณ์และทุกที่ ทั้งการเก็บมะเขือเปราะอ่อนจากต้น ซื้อมะเขือเปราะอ่อนที่ตลาด เลือกมะเขือเปราะอ่อนที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือแม้แต่มะเขือเปราะที่คนแถวบ้านเดินมาขายค่ะ โดยการดูขนาดของมะเขือเปราะเป็นจุดที่ผู้เขียนนำมาใช้ก่อนเสมอ จากนั้นจะดูในเรื่องของสีผิว การจับดูความเต่งตึงและการดูขั้ว ตลอดจนตอนหั่นจะทำอาหารยังยืนยันอีกทีด้วยการฟังเสียงดังเปาะ และดูลักษณะของเมล็ดด้านในค่ะ โดยวิธีการสังเกตทั้งหมดข้างต้นทำให้งานง่ายขึ้นเยอะจริงๆ นะคะ หากคุณผู้อ่านกำลังจะไปซื้อมะเขือเปราะที่ตลาด แล้วเป้าหมายคือมะเขือแบบอ่อนๆ ก็ต้องนำเทคนิคในบทความนี้ไปใช้เลยค่ะ ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไปค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพหน้าปกและหน้าปก โดยผู้เขียน ออกแบบใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและจัดการสิ่งปฏิกูล 9 เคล็ดลับเลือกเท้าไก่ สดใหม่ สะอาด มาทำอาหาร วิธีเลือกพริกแกงเขียวหวาน แบบไหนดี ทำสดใหม่ มีคุณภาพน่าซื้อ วิธีเลือกเส้นขนมจีน ทำใหม่ แบบไหนสะอาด น่าทาน หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !