อย่าฮือฮาแค่รูปลักษณ์ภายนอก เพราะ "% Arabica ICONSIAM" ไม่ได้มีดีแค่บรรยากาศ แบบ Open Space 360 องศา และดีไซน์สะดุดตาด้วยสีขาวสว่างทั้งร้านเท่านั้น แต่ในฐานะ Flagship Store สาขาแรกและสาขาเดียวในประเทศไทย และสาขาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน เรื่องฮือฮาต้องมีอีก แต่ว่า เรื่องราวความเป็นมาของ % Arabica มีหลายคนเคยเขียนถึงกันเยอะแล้ว ดังนั้นวันนี้เราจะไม่เขียนซ้ำอีก เพราะนี่คือครั้งแรกของการรีวิวเมนูเครื่องดื่ม 5 ชนิดที่ต้องห้ามพลาด ที่ร้านแห่งนี้ 1. ลาเต้ (ร้อนและเย็น) เมนูลาเต้ทั้งร้อนและเย็นเป็นซิกเนอเจอร์ของ % Arabica ด้วยเมล็ดกาแฟเนเชอรัลโปรดักส์ ที่การคั่วปรับเปลี่ยนไปทุกวันเพื่อรสชาติที่มาตรฐาน เมล็ดกาแฟอะราบิก้าเบลนด์ของร้าน จะมีเอกลักษณ์ที่รสชาติฟินิชที่เป็นรสชาติช็อกโกแลต เมื่อผสมเข้ากับนมแล้วจะแมชกันได้ดีมาก มีรสชาติหวานในตอนท้าย เมล็ดกาแฟก็คั่วสดและสามารถเลือกคั่วได้ % Arabica มีเมล็ดกาแฟหลายชนิด ไฮไลต์คือ Hawaii Kona % Farm เป็นฟาร์มของ % Arabica เอง รสชาติจะคล้ายกับช็อกโกแลต และนม และมีกลิ่นของมะนาวและเลมอน ส่วนเมล็ดกาแฟ % Arabica Decaf ก็ควรลองเพราะเป็นเมล็ดกาแฟออแกนิกทุกกระบวนการ ไม่มีการใช้เคมี จึงมีรสชาติเฉพาะที่ต่างจากเมล็ดชนิดอื่น เมล็ดกาแฟทุกชนิดเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาทางเรือ เพื่อคงคุณภาพเอาไว้ เนื่องจากการขนส่งเมล็ดกาแฟทางเครื่องบิน จะทำให้รสชาติเมล็ดกาแฟเปลี่ยน เพราะความกดอากาศ พูดถึงเครื่องคั่วกาแฟก็เป็นเอกลักษณ์เช่นกัน เป็นเครื่องของ Chemex Classic Design เฉพาะสำหรับ % Arabica ส่วนเครื่อง Slayer Espresso ก็สเปเชี่ยลเฉพาะ % Arabica เท่านั้น พรีเมี่ยมตั้งแต่ดีไซน์ไปจนถึงคุณภาพ 2. Ice Americano มีคนบอกว่านักดื่มกาแฟเลเวลสูงสุด มักจะชอบดื่มอเมริกาโน่ กาแฟดำไม่ใส่นมไม่ใส่น้ำตาล เพื่อลิ้มรสชาติกาแฟจริงๆ เมนูแก้วนี้ของ % Arabica ก็มีรสชาติระดับท็อป เพราะความพิถีพิถันตั้งแต่เมล็ดกาแฟ อย่างที่บอกไป รวมไปถึงการควบคุมคุณภาพของน้ำ เพื่อให้ทุกๆ แก้วออกมาคุณภาพดีเท่ากัน อย่าลืมไปเลือกเมล็ดกาแฟที่ชอบกันด้วย 3. Ice Spanish Latte เมนูกาแฟผสมนมและนมข้นหวาน เอกลักษณ์เฉพาะของ % Arabica รสชาติตอนดื่มจะไม่ได้รู้สึกว่าหวานแหลมมาก ออกไปทางหวานมันมากกว่า เพราะนมข้นที่ใช้ก็คัดพิเศษ เพื่อให้เข้ากับกาแฟของร้าน ดังนั้น คนที่ไม่ชอบเครื่องดื่มแบบหวานก็ชอบเช่นกัน 4. Lemon Sparkling แก้วนี้คือเครื่องดื่ม Non-Coffee ที่เป็นซิกเนเจอร์ของ % Arabica ความแตกต่างก็คือ การเป็นน้ำมะนาวผสม Sparkling Water ไม่ใช่โซดา ซึ่งมันทำให้รสชาตินวล ไม่เปรี้ยวซ่าแหลมบาดคอเหมือนน้ำมะนาวโซดาที่เคยชิน ความแตกต่างของ Sparkling Water คือการซ่าแบบไม่มีรสชาติ ดังนั้น มันจึงจะไม่ทำลายรสชาติของมะนาว แต่ยังซ่าเปรี้ยวสดชื่น 5. Matcha Latte เรียกง่ายๆ ก็คือชาเขียวเย็นนั่นแหละ แต่ชาเขียวเย็นที่ % Arabica สั่งตรงใบชามาจากประเทศญี่ปุ่น ความหอม ความเข้มข้นนั้นต้องบอกว่าระดับพรีเมี่ยม ผสมนมในสัดส่วนกำลังดี ไม่เลี่ยนจนเกินไป เหมาะสำหรับสายชานมทั้งหลาย เรื่องประทับใจจากการรีวิว 1. มีโอกาสได้คุยกับน้องบาริสต้า "น้องเจมส์" ซึ่งน้องเล่าเรื่องราวก่อนที่จะเข้ามาทำงานที่ % Arabica น้องเจมส์บอกว่าการคัดเลือกบาริสต้านั้นมาจาก HQ สาขาใหญ่ เมื่อถูกเลือกจะส่งไปอบรมที่สิงคโปร์ 4 เดือนเต็ม พัฒนาทักษะทางกาแฟให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้น้องๆ สามารถทำกาแฟคุณภาพเยี่ยมเท่ากันทุกแก้วได้แบบรวดเร็ว รวมถึงเป็นการเวิร์กช็อปที่ทำให้บาริสต้าทุกคนใกล้ชิดสนิทสนมกันมากขึ้น เพื่อทีมเวิร์กที่ดีในการทำงาน *ข้อมูลเพิ่มเติม - เมล็ดกาแฟซื้อกลับบ้านได้ - มีของพรีเมี่ยมของร้านให้เลือกช็อปได้ ใครอยากมาลอง 5 เมนูต้องห้ามพลาดนี้ ก็มาได้ทุกวันตามเวลาทำการปกติ ที่ % Arabica โลเคชั่นสุดโดดเด่น ชั้น 1 ไอคอนสยาม เปิดบริการทุกวัน ภาพและเรื่องโดย : Sandtar & Jackie