สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ถึงแม้ว่าช่วงนี้เนื้อหมูจะมีราคาแพง แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังมีความนิยมรับประทานเนื้อหมูอยู่ดี เนื่องจากเมนูหมูๆนั้นค่อนข้างที่จะหลากหลาย สามารถนำมารังสรรค์เมนูได้มากมาย และหนึ่งในเมนูที่คนส่วนใหญ่ชื่นชอบก็คือ เนื้อหมูที่ค่อนข้างติดมันอย่าง “หมูชาชู” ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนรักการรับประทานหมูชาชูเป็นชีวิตจิตใจวันนี้เราจะมาขอนำเสนอวิธีการในการทําหมูชาชูให้คุณได้รู้กันว่า...กว่าจะเป็นหมูชาชูนั้นยากเย็นมากขนาดไหน ต้องมีวัตถุดินและส่วนผสมอะไรบ้าง รวมไปถึงวิธีการทำจะต้องใส่ใจในขั้นตแนไหน อย่างไร ถ้าพร้อมแล้วมาหาความรู้กันได้เลยวัตถุดิบหมูสามชั้นแผ่นแป้งมันสำปะหลังเบกกิ้งโซดาขิงต้นหอมญี่ปุ่นน้ำมันงาน้ำซอสถั่วเหลืองปรุงรส ฝาเขียวมิรินซอสหอยนางรมน้ำตาลทรายโชยุเกลือป่นต้นหอมซอยและงาขาวคั่ว (โรยหน้า) วิธีทำ1 ล้างหมูให้สะอาด ทาแป้งมันสำปะหลังและเบคกิ้งโซดาเป็นชั้นบางๆ เฉพาะด้านเนื้อหมู จากนั้นม้วนหมูสามชั้นเป็นวงกลม และใช้เชือกรัดให้แน่น ซึ่งแป้งมันสำปะหลังจะเป็นตัวเชื่อมให้ชั้นของเนื้อหมูติดกันนั่นเอง2 เอาหมูลงไปจี่ในกระทะให้หนังพอมีสีเหลืองทั่วทั้งก้อน3 ตั้งหม้อเพื่อต้มน้ำให้เดือด ใส่ต้นหอมญี่ปุ่น ขิง และเกลือลงไป4 รอให้น้ำเดือดอีกครั้งจึงใส่เนื้อหมูที่มัดไว้ ลงต้มประมาณ 1 ชั่วโมง5 เติมน้ำซอสถั่วเหลืองปรุงรสฝาเขียว 1.5 ส่วน ซอสหอยนางรม 2 ส่วน มิริน 2 ส่วน โชยุ 2 ส่วน และน้ำตาลทราย 0.5 ส่วน ลงในหม้อ ชิมรสชาติตามชอบ จากนั้นตุ๋นหมูต่อด้วยไฟอ่อนๆประมาณ 3-4 ชั่วโมงเคล็ดลับต้องจำ : ต้มหมูให้นิ่มก่อนประมาณ 1 ชัวโมง แล้วจึงค่อยปรุงรส ก่อนจะตุ๋นต่อให้หมูนุ่มอีก 3-4 ชั่วโมง4 เมื่อต้มจนครบเวลา พักเนื้อหมูให้เย็นก่อนนำไปแช่แข็ง เพื่อให้สะดวกต่อการหั่นเป็นชิ้นบางๆ5 สไลด์เนื้อหมูเป็นชิ้นบางๆ ให้มีความหนาประมาณ 1-2 มิลลิเมตร นำไปอุ่นให้ร้อนก่อนรับประทาน โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและงาขาวคั่วเป็นอันเสร็จพิธี ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ กับไข่ต้มสักใบ ราดด้วยน้ำซอสที่ได้จากการเคี่ยวหมูจนข้น รับรองว่าอร่อยจนหยุดไม่ได้แน่ๆ จะเห็นได้ว่าหมูชาชูต้องใช้เวลาในการต้มและตุ๋นค่อนข้างนาน เพื่อที่จะให้เนื้อหมูนั้นมีความนิ่มละลายในปาก บวกกับต้องใช้เทคนิคหลายๆอย่างที่จะช่วยทำให้การม้วนหมูนั้นสวยงามและน่ารับประทานมากที่สุดถ้าใครมีเวลาว่าง และอยากจะลองเพิ่มทักษะในการทำอาหาร ก็ลองเอาเมนูหมูชาชูนี้ไปลองฝึกทำกันดูนะคะ รับรองว่าต้นทุนโดยรวมจะต้องถูกกว่าเวลาที่คุณไปซื้อหมูชาชูสำเร็จรูปมาทานอย่างแน่นอน เครดิตภาพ : ภาพปกและภาพประกอบโดยผู้เขียน (TIPSTER)