คุณผู้อ่านครับด้วยความที่ยุคนี้สมัยนี้ค่าอยู่ค่ากินนั้นแพงเหลือเกิน มาม่ายังขึ้นราคาน้ำมันเติมรถก็ขึ้น เรียกได้ว่าข้าวของอาหารสำเร็จรูปนั้นยากเหลือเกินที่จะจับจ่ายไหว ผมก็เลยมีความคิดที่จะทำอาหารกินเองขึ้นมา "เอ็งอยากแพงก็แพงไป ข้าไม่ซื้อสักอย่างของแพงจะทำอะไรข้าได้" ผมคิดของผมแบบนั้น.และด้วยความอยากประหยัดค่าแก๊สหุงต้ม ผมก็เลยเกิดความคิดขึ้นมาอีกว่าเราควรจะต้องหาเตาแม่เหล็กไฟฟ้ามาใช้ เช็คคุณสมบัติดูแล้วเจ้าเตาพวกนี้สามารถทำได้หมดทั้งต้ม , ผัด , แกง , ทอด กินไฟก็น้อยให้ความร้อนที่รวดเร็วแถมก้นหม้อยังไม่ดำและไม่สร้างมลภาวะใดๆให้แก่โลก เรียกได้ว่าเป็นของดีที่ซื้อครั้งเดียวก็น่าจะคุ้ม ซึ่งพอได้มาแล้วก็ดีครับใช้ได้ดีทีเดียว แต่ปัญหามันก็เกิด! นั่นก็คือเจ้าหม้อที่เตาเขาแถมมานั้นมันช่างเล็กซะเหลือเกิน! ผมต้องการหม้อที่กว้างกว่านี้ แล้วก็ต้องการกระทะที่จะเอาไว้ทอดด้วย.กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างจึงเกิดขึ้น ด้วยความขาดเขลาเบาปัญญาครับคุณผู้อ่าน ผมคิดเอาเองว่าภาชนะวัสดุใดๆก็น่าจะวางบนเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้ ขอแค่มันเป็นโลหะหรือเป็นอลูมีเนียมสีเงินๆ ใสๆ แวววับๆ ก็น่าจะใช้ได้หมด แต่ไม่ใช่เลย!. นี่คือภาพของกระทะเทฟร่อนใหม่เอี่ยมที่ผมลงทุนซื้อมาถึง 299 บาท ผลคือเงียบสนิทครับ! พอวางลงบนเตาแม่เหล็กปุ๊บมันกลับไม่มีสัญญาณใดๆเกิดขึ้น ไม่ร้อนไม่หือไม่อืออะไรเลย! นับว่าเป็นอะไรที่รู้สึกเสียดายเงินสุดๆ เหมือนซื้อมาแล้วต้องวางไว้เฉยๆ ไร้ค่าไร้ราคามาก.แต่ผมก็ยังไม่ยอมแพ้ครับ ลองตั้งธงเอาไว้แล้วยังไงก็ต้องเอาให้ได้ คราวนี้ผมลองพิจารณาเปรียบเทียบกับหม้อต้มที่เขาแถมมาดู ผมคิดว่าวัสดุมันต้องบางๆ สักหน่อย ต้องเป็นอลูมีเนียมบางๆ มันถึงจะวางลงบนเตาแม่เหล็กได้ หวยก็เลยมาออกที่การซื้อหม้อต้มยำมาเพิ่มอีกหนึ่งใบครับผลก็คือเงียบกริบเหมือนเดิม! ไม่มีปฏิกิริยาใดๆเกิดขึ้น! เป็นอันว่าต้องเสียเงินไปฟรีๆอีก 150 บาท .เฮ้อ..!ไม่ได้การณ์แล้วครับคุณผู้อ่าน คำคมโบราณกล่าวไว้ว่า "จะฉลาดจำเป็นต้องโง่ซะก่อน" ผมรู้ได้โดยพลันครับว่าผมต้องย้อนกลับไปดูคู่มือที่เขาแถมมาอีกครั้ง ในนั้นระบุไว้ว่าเครื่องจะทำปฏิกิริยากับวัสดุที่เป็นเหล็กเท่านั้น กล่าวคือถ้าหม้อหรือกระทะไม่มีส่วนผสมของเหล็กเตามันก็จะไม่ติด .ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นทำให้ผมรู้ว่าสายตาของมนุษย์ไม่มีทางจำแนกออกได้หรอก ว่าหม้อใบไหนทำมาจากวัสดุอะไร ทุกใบที่วางขายอยู่บนชั้นล้วนหน้าตาเหมือนกันหมด อันไหนทำมาจากอลูมีเนียม , ทำมาจากแสตนเลส , ทำมาจากสังกะสี ไม่มีทางรู้เลย ถ้าซื้อมั่วแบบนี้ต่อไปมีแต่เจ้งกับเจ้ง.แต่คราวนี้ผมมีเจ้านี่ไปด้วยครับ! มันก็คือแม่เหล็กติดตู้เย็นธรรมดาๆ นี่เอง แม่เหล็กย่อมดูดเหล็กได้ตามธรรมชาติ เพราะฉะนั้นถ้าเราจะซื้อหม้อหรือกระทะที่ทำจากเหล็ก เราก็แค่ต้องเอาเจ้านี่ไปลองแตะๆดู ถ้ามันดูดตัวหม้อได้โดยไม่หล่น ก็ฟันธงได้เลยครับว่าหม้อใบนั้นทำมาจากเหล็กแน่ๆ และมันจะใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้อย่างแน่นอน ซึ่งดีกว่าการคาดเดาด้วยสายตาของเราเองเป็นไหนๆ.และนี่คือตัวอย่างที่ผมทำให้ดูครับ จะเห็นว่าหม้อใบล่าสุดของผมโดนแม่เหล็กดูดซะแน่นเลย แล้วพอเอาไปตั้งบนเตาแม่เหล็กไฟฟ้าก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างที่คาด เครื่องทำงานเต็มประสิทธิภาพ ไม่ต้องเสียเงินทิ้งแบบสองเคสที่ผ่านมาอีกแล้วครับ บทความนี้ก็เลยจบลงแต่เพียงเท่านี้ สาระของเรื่องก็คือ "เวลาที่เราจะซื้อหม้อหรือกระทะไว้ใช้กับเตาแม่เหล็ก เราควรจะเอาแม่เหล็กไปดูดเช็คดูก่อน" ลองทำดูได้ครับ ผมทำแล้วออกมาเวิร์คเลยอยากเล่าสู่กันฟังครับ..เครดิตรูปภาพภาพหน้าปก : cottonbro studio / pexels.comภาพที่ 1 - 6 : ผู้เขียนถ่ายเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !