เมื่อพูดถึงแกงหน่ออ้อย หลายคนอาจจะทำหน้างงกันเลยทีเดียวว่าสามารถนำมันมาทำเป็นอาหารได้ด้วยเหรอ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าเมนูนี้แม่ของผู้เขียนได้นำมาทำเป็นอาหารให้กินตั้งแต่ผู้เขียนยังเด็ก จนถึงปัจจุบันแม่ก็ยังนำมาทำกินอยู่ โดยจะเอาเสียมไปขุดเอาหน่ออ้อยในไร่ที่กำลังแตกยอดโผล่พ้นขึ้นมาจากตออ้อยที่โดนตัดเอาไปขายแล้วเมื่อปีก่อน หรือที่เรียกกันว่าอ้อยตอที่ 2 ซึ่งหน่ออ้อยนี้สามารถนำมาแกงรวมกันกับทั้งเนื้อสัตว์และเห็ด และที่ผู้เขียนจะมาแนะนำในวันนี้ก็คือการเอาหน่ออ้อยมาแกงรวมกับยอดลำเท็งและกระดูกหมู จะเป็นยังไงนั้นตามมาอ่านกันได้เลยครับ วัตถุดิบ หน่ออ่อนของอ้อย น้ำใบย่านาง ข้าวเบือ (ข้าวสารเหนียวแช่น้ำจนนิ่ม) ลำเท็ง (ผักกูดแดง) กระดูกหมู พริกแห้ง ใบแมงลัก ปลาร้า เกลือ ผงปรุงรส วิธีทำ เริ่มแรกนำหน่ออ้อยทั้งหมดมาแกะเปลือกด้านนอกออกจนเห็นหน่ออ่อนข้างใน ใช้มีดตัดส่วนที่ไม่ต้องการทิ้งไป แล้วล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นนำไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 15 นาทีให้หน่ออ้อยมีรสจืด เพราะหน่ออ่อนของอ้อยที่ตัดมาจะมีรสออกเปรี้ยวนิด ๆ อยู่ด้วย เมื่อต้มจนครบเวลาแล้วก็ยกลงเทน้ำทิ้งไปแล้วพักเอาไว้ ต่อมาในส่วนของยอดลำเท็งที่ผู้เขียนเก็บมาได้จากบึง ก็จะนำมาล้างน้ำให้สะอาด ทำการเด็ดคัดเอาแต่ยอดอ่อนส่วนก้านที่แข็งก็ทิ้งไป จากนั้นพักเอาไว้เตรียมมาทำขั้นตอนต่อไปกันเลย มาทำการตำข้าวเบือกับพริกแห้งให้แหลกละเอียดจนเป็นเนื้อเดียวกัน นำข้าวเบือใส่ลงไปในหม้อน้ำใบย่านางที่เราได้คั้นไว้เรียบร้อยแล้วและยกหม้อเครื่องแกงขึ้นตั้งไฟให้เดือด แล้วใส่กระดูกหมูลงไปและรอจนกระดูกหมูสุก ใส่หน่ออ้อยที่ต้มแล้วลงไป ตามด้วยยอดลำเท็ง แล้วรอจนยอดลําเท็งสุก โดยสังเกตได้ง่าย ๆ คือยอดลำเท็งจะเปลี่ยนจากสีเขียวปนแดงเป็นสีเขียวปนเหลือง ระหว่างนี้ก็คอยช้อนฟองในน้ำแกงออกด้วยนะครับ เสร็จแล้วให้ทำการปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า เกลือ และผงปรุงรส ชิมให้ได้รสกลมกล่อม แล้วใส่ใบแมงลักลงไปปิดท้ายเพื่อให้แกงมีกลิ่นหอม เท่านี้ก็ถือว่าเสร็จเรียบร้อยแล้วสำหรับแกงหน่ออ้อยตามสูตรของแม่ผู้เขียน สำหรับใครหลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าเป็นเมนูอาหารที่แปลกนะครับ แต่ผู้เขียนชอบกินเมนูนี้มากเพราะเป็นคนชอบกินผักอยู่เป็นทุนเดิม รสหวานเปรี้ยวนิด ๆ และความกรอบของหน่ออ้อยที่อยู่ในน้ำแกงที่มียอดลำเท็งและกระดูกหมูเป็นวัตถุดิบร่วม สามารถนำมากินกับข้าวเหนียวร้อน ๆ ได้อย่างเข้ากัน ถ้าเกิดใครมีโอกาสไปเจอหน่ออ้อย ก็อย่าลืมนำมาลองทำกินกันดูนะครับ หรือจะเอามาต้มกินกับน้ำพริกก็ได้ อร่อยไม่แพ้หน่อไม้ต้มเลยล่ะ รูปภาพทั้งหมดเป็นของผู้เขียน