ขนมปัง เป็นเบเกอรี่อย่างนึงที่ใครๆก็อยากจะทำเป็นที่บ้าน โดยไม่ต้องออกไปซื้อข้างนอกเพราะไม่รู้ว่าใส่อะไรลงกันไปบ้าง ซึ่งการทำขนมปังก็มีหลายสูตร มากๆ เลยค่ะ แล้วแต่ความชอบ ความถนัดและองที่มีอยู่ ส่วนของผู้เขียนเองก็ลองทำมาหลายสูตร หลายคนอาจจะติดปัญหาหลายๆอย่างในการขนมปัง ใช่ค่ะ ผู้เขียนเองก็เจอปัญหามามาก กว่าจะทำขนมปังออกมาได้ ปาหัวหมาตกมั่ง ก็โยนให้ปลากินบ้างไก่กินบ้างไปหลายกิโลแล้วหล่ะค่ะ ิิส่วนของผู้เขียนเองก็ลองทำมาหลายสูตร จนมาลงตัวที่สูตรหลักที่ทำเป็นประจำ คือสูตร นามะปัง จะเป็นสูตรที่จะได้ขนมปังที่ขอบบาง แต่นุ่มมาก ละจะออกรสชาติหวานๆ สไตล์ญี่ปุ่น *ถ้าใครไม่มีหม้อนวด ก็ใช้มือนวดได้เลยนะคะ อาจจะใช้เวลามากกว่า แต่ถ้าได้ลองทำแล้วจะรู้ผิวสัมผัสของเนื้อแป้งได้ดีกว่าค่ะ ส่วนผสมแป้งขนมปัง 190 กรัมแป้งเค้ก 35 กรัมน้ำตาลทราย 35 กรัมเกลือป่น 5 กรัมหัวนมผง 5 กรัมยีสต์ 5 กรัมนมจืด (นมโรงเรียน) 150 กรัมเนยจืด 25 กรัม (จากภาพ แป้งขนมปังของผู้เขียนหมดพอดี จึงใช้แป้งอเนกประสงค์มาใช้แทนไปก่อนค่ะ อาจจะทำให้ขนมปังนุ่มน้อยกว่าใช้แป้งขนมปังค่ะ)ขั้นตอนการทำนามะปัง (สูตรที่ผู้เขียนทำวันนี้ใช้ 2 สูตรค่ะ)1. นำส่วนผสมที่ 1-ุุ6 ลงในชามผสมทั้งหมด แล้วผสมให้เข้ากัน 2. ค่อยๆ เทนมสดลงไปใส่โถผสม นวดไปเรื่อยๆ ให้เข้ากัน ประมาณ 5 นาที แล้วใส่เนยตามลงไป 3. ใช้มือนวดไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าแป้งไม่ติดมือ (ประมาณ 20-30 นาที (ไม่ควรเติมแป้งจะทำให้แห้งเกินไป) สำหรับหม้อนวด ผู้เขียนใช้เวลานวดที่ประมาณ 15 นาที 4. เมื่อนวดจนครบเวลา แป้งจะมีลักษณะนุ่ม ไม่ตดมือ ถ้านวดนานขึ้นจะสามารถขึงจนขึ้นฟิล์มได้ ก็จะทำให้ขนมังของเรานุ่มขึ้นอีก เนื่องจากยีสแข็งแรงเต็มที่ 5. นำแป้งออกมาคลึงให้กลมลงบนโต๊ะ 6. แป้งที่ได้จะค่อนข้างยืดหยุ่น นุ่มมือ นวดแล้วไม่ติดมือ 7. แบ่งแป้งออกมาตัด 30-40 กรัม 8. แล้วปั้นเป็นก้อนกลสม นำไปวางไว้ในถาด 9. เมื่อปั้นจนเต็มถาด 10. เอาผ้าหรือพลาสติกมาคลุมไว้ ให้พักแป้งให้ขึ้น 2 เท่า (ประมาณ 1 ชม) ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ 12. นำเข้าเตาอบ (บน150/ ล่าง 220) ทั้งนี้ั้งนั้น ขึ้นอยู่กับความร้อของเาแต่ละบ้านนะคะ อาจจะได้ไม่เท่ากัน ให้สังเกตที่ขนมปังของเราเอง (ประมาณ 15-20 นาที) 13. ทิ้งให้คลายความร้อนซักครู่แล้วนำใส่ภาชนะให้มิดชิด ขนมปังที่ได้จะนุ่มมาก สมาถ นำไปจิ้มซอส ต่างๆ ตามใจชอบได้เลยค่ะ หรือถ้าใครอยากใส่ไส้ก็นำไส้มาใส่ได้ตั้งแต่ตอนที่ปั้นึ้นรูปได้เลยนะคะข้อควรระวังเช็คยีสต์ทุกครั้งว่าใช้ได้หรือไม่ ด้วยการนำไปผสมกับนมอุ่นๆ และน้ำตาล ถ้ายีสต์ขึ้นฟูแสดงว่าใช้ได้ (ควรเก็บไว้ในตู้เย็น มิดชิด)ยีสต์ และเกลือ ไม่ควรสัมผัสกันโดยตรง จะทำให้ยีสต์ตายส่วนตัวจะค่อยเทนมสดใส่ลงไปเป็นสาย แล้วค่อยๆ นวดให้เข้ากันไม่ควรนวดแป้งนานเกินไป จะทำให้ยีสต์ตาย ตัวแป้งจะเริ่มมีลักษณะเละ กลิ่นแรงพักแป้งให้ขึ้นมากพอ ประมาณ 2 เท่าตัว แต่ไม่นานเกินไปคอยเช็คขนมปังว่าสุกหรือไม่ด้วยการวัดอุณภูมิด้านในสุดควรสูงกว่า 80 องศาหวังว่าสุตรนามะปัง จะทำให้เพื่อนๆ ได้ลองทำขนมปังแบบนุ่มๆ ละลายในปาก ไว้กินนะคะ ถ้าเคยทำได้แล้วต่อไปก็ทำอีกครั้งก็ไม่ยากแล้วหล่ะค่ะ แถมยังทำได้หลากหลายรูปแบบอีกนะคะ ภาพประกอบโดย ผู้เขียนห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป