หรอยจังฮู้! 3 เมนูอาหารพื้นบ้านปักษ์ใต้บ้านเรา ที่ใครชิมแล้วต้องติดใจ หลายคนเมื่อพูดถึงสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มักมีภาพในหัวคือ ความรุนแรง ระเบิด หรือ เหตุการณ์ไม่สงบในหลาย ๆ พื้นที่ ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง แต่มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าหากมีโอกาสได้ลองไปสัมผัสยังพื้นที่ สามจังหวัดชายแดนใต้จริง ๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด กลับเป็นเมืองที่น่าอยู่ มีแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยศิลปวัฒนธรรมประเพณีที่ขึ้นชื่อ รวมถึงมี อาหารพื้นเมือง รสชาติอร่อย ซึ่งหาทานไม่ได้ตามจังหวัดอื่น ๆ อีกด้วย วันนี้เราขอนำเสนอ 3 เมนูติดดาวพร้อมสูตรอาหารในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ เรียกได้ว่าหากได้ลองชิมสักครั้ง จะติดใจไปตลอด และเป็นโอกาสที่ดีที่จะฝึกทำอาหารในช่วงที่เรากำลังกักตัวอยู่บ้านในสถานการณ์ของการระบาดโคโรน่าไวรัส มาดูกันเลยค่ะ เริ่มด้วยเมนูแรก คือ ข้าวยำ หรือภาษาท้องถิ่นเรียกว่า “นาซิกาบู’’ (นาซิ แปลว่า ข้าว และ กาบู แปลว่า ยำ) เป็นอาหารที่หาทานได้ง่าย ข้าวยำถือเป็นอาหารจานเดียวที่มีคุณค่าทางโภชนาการอาหารครบทั้ง 5 หมู่ มีทั้ง คาร์โบไฮเดรต โปรตีน เกลือแร่ วิตามิน และไขมัน อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย ส่วนผสม -ข้าวสวย 1 ถ้วย (ถ้าอยากกินข้าวแบบสีสามารถหาวัตถุดิบได้จากธรรมชาติ สีฟ้าจาก ดอกอัญชัน และ สีเหลือง จากขมิ้น) - กุ้งแห้งป่น -มะพร้าวหั่นฝอยคั่วจนเหลืองกรอบ -พริกขี้หนูคั่วป่น -ผักต่าง ๆ เช่น ถั่วงอกเด็ดหาง ตะไคร้หั่นฝอย แตงกวา แครอท มะม่วงดิบสับเป็นเส้น ถั่วฝักยาวหั่นฝอย มะนาว ดอกไม้พวงชมพูหรือดอกดาหลา หรือดอกชมพู่มะเหมี่ยว และพริกสด -น้ำบูดู สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป -ไข่ต้ม วิธีทำ >>> จัดเสิร์ฟ โดยตักข้าวใส่จาน ใส่มะพร้าวคั่ว กุ้งแห้งป่น พริกป่น และผักทั้งหมดใส่อย่างละน้อย พอคลุกรวมกันแล้วจะมากยิ่งขึ้น ราดน้ำบูดู ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว และสุดท้าย ไข่ต้มสุกกำลังดี เคล้าให้เข้ากันดีรับประทานได้เลย<<< เมนูถัดมาคือ ปลาหมึกยัดไส้ข้าวเหนียว หรือภาษาท้องถิ่นเรียกว่า “ตูปะซูตง” (ตูปะ แปลว่า ข้าวเหนียว และ ซูตง แปลว่า ปลาหมึก) จัดเป็นอาหารหวานหรือเป็นอาหารคาวก็ได้ ใช้รับประทานเป็นของหวาน หรือใช้รับประทานเป็นอาหารว่าง บางครั้งใช้รับประทานแทนอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งก็ได้ การทำตูปะซูตงต้องเลือกปลาหมึกสด ๆ และตัวสวย ๆ ยาว ๆ จึงจะน่ารับประทาน ส่วนผสม - ปลาหมึกสด ๆ - กะทิ -น้ำตาลแว่น -ข้าวเหนียว -ไม้กลัด - เกลือและน้ำตาลทราย วิธีทำ > นำข้าวเหนียวไปล้างน้ำให้สะอาดแล้วไปผสมกับกะทิคลุกเคล้าให้เข้ากัน และเติมเกลือให้ออกรสเค็มนิด ๆ > นำปลาหมึกไปล้างน้ำให้สะอาด > นำส่วนประกอบจากข้อแรกไปใส่ในตัวปลาหมึกที่ล้างน้ำสะอาดแล้วจนเต็ม แล้วใช้ไม้จิ้มฟันหรือไม้กลัดมากลัด ๆ หัวปลาหมึกกับปลาหมึกให้ติดกัน เพื่อจะกันไม่ให้ข้าวเหนียวล้นออกมา > เมื่อใส่ข้าวเหนียวในปลาหมึกแล้วก็นำไปต้มในน้ำกะทิ ใส่น้ำตาลหรือน้ำตาลแว่น เพื่อให้ออกรสหวานนำ ต้มจนสุก เสร็จแล้ว…เราจะได้ตูปะซูตงที่น่ารับประทาน พร้อมเสิร์ฟ :) ข้าวเกรียบ หรือภาษาท้องถิ่นจะเรียกว่า กรือโปะ ทำมาจากเนื้อปลาผสมแป้ง มีลักษณะหนึบ ๆ แต่พอนำไปทอดจะกรอบนอกนุ่มใน ใครได้กินแล้วจะวางจานไม่ลงเลยทีเดียว ข้าวเกรียบสามารถมาดัดแปลงเป็นอาหารได้หลากหลายรูปแบบ ทั้ง ต้ม ทอด หรือแม้แต่ทำเป็นลาบ ก็อร่อย สำหรับใครที่เบื่อลาบไก่ ลาบเนื้อ ลองเปลี่ยนมาทำลาบกรือโปะ จะฟินจนอยากกลับไปทำอีกรอบ ส่วนผสม -ข้าวเกรียบ (กรือโปะ) -หอมแดง -ผักชี -น้ำตาล -น้ำปลา -พริกป่น -ข้าวคั่ว -มะนาว วิธีทำ > หั่นข้าวเกรียบให้เป็นชิ้นขนาดพอดีคำ > ตามด้วยหั่น หอมแดง ผักชี > ทอดข้าวเกรียบให้เหลือง สุก > จากนั้นนำข้าวเกรียบมาพัก > ขั้นตอนต่อไปคือ ทำน้ำลาบ นำ น้ำปลา น้ำตาล พริกป่น ข้าวคั่ว(ยิ่งเยอะยิ่งอร่อย) คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตามด้วยหอมแดง ผักชี และสุดท้าย บีบมะนาว > ขั้นตอนสุดท้าย นำน้ำลาบไปคลุกกับข้าวเกรียบที่เราพักไว้ หลังจากนั้นความอร่อยจะบังเกิด ทั้ง 3 เมนูเป็นอาหารยอดฮิตในพื้นทีสามจังหวัดชายแดนใต้ สำหรับใครที่สนใจสามารถไปลองทำกันได้ รับรองไม่ผิดหวังค่ะ >< ภาพถ่ายโดยผู้เขียน