หากกล่าวถึงอาหารที่นับว่าอร่อย ๆ และมากด้วยคุณค่าที่ลงตัว มีทั้งความเปรี้ยว ความเผ็ด ที่ลงตัวแล้ว คงหนีไม่พ้น แกงปลา บางคนก็แกงในหม้อดิน บางคนก็แกงในหม้ออลูมิเนียม แล้วแต่ความชอบและสถานที่ น่าทานหน่อยก็อาจจะเป็นหม้อดิน บริเวณร้านอาหารภัตตาคาร เป็นต้น วันนี้ผู้เขียนจะมารีวิวการทำ "แกงปลาความลงตัวในหม้อแกง" ให้ท่านผู้อ่านได้ชิมทะลุจอกันไปเลยครับ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับกับที่มาของชื่อ "แกงปลาความลงตัวในหม้อแกง" เหตุผลข้อเดียวไม่มีไรมากครับท่านผู้อ่าน คือ มันอร่อยลงตัวไปทุก ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นน้ำแกง ตัวปลา แบบหาที่ไหนเปรียบยากเลยครับ ความจริงก็เป็นแกงปลาพื้นบ้านธรรมดานี่แหละครับ แต่ว่าวันนี้ผู้เขียนได้เห็นคุณแม่ซื้อปลากด ปลาหลาด ปลาตะเพียนมา ชาวบ้านเขาเอามาขายมารวม ๆ กัน เดินเข้ามาขายในบ้านเลย ชาวบ้านแถวบ้านแหละครับ ไม่ต้องเดินทางไปซื้อที่ตลาด ขายถุงล่ะ 20 บาท แม่บอกว่าปลาพวกนี้แพงที่ตลาด ราคาขายแบบนี้ น่าจะถุงสัก 50 บาท ซึ่งขณะนี้ปลาหลาด กับปลากดนั้นหายากหน่อย หลังจากนั้นคุณแม่ก็คิดไอเดียปลา ๆ เช่นเคยไว้สำหรับเย็นนี้ ปล.ทุกทีจะรับประทานปลาหลิม (ปลาช่อน) ปลาเล็ก ๆ ใส่ผักกาด หรือผักบุ้ง แล้วแต่เลยครับว่าอยากทานแกงปลาไหม แต่วันนี้ปลาหายาก ราคาถูกมาถึงที่ก็จัดซ่ะเลย ผู้เขียนก็เป็นลูกมือในการทำอาหารเช่นเคยกันต่อไปครับ.. เมื่อถึงตอนเย็นก็ช่วยคุณแม่เตรียมกับข้าวเหมือนอย่างเช่นเคยครับ ส่วนผสมพริกแกงจะคล้าย ๆ กับ แอ็บปลาหน้อยเลยครับ รีวิวครั้งนั้นก็อยู่ในชุด "แอ็บปลาหน้อยของกิ๋นบ้านเฮา" เชิญติดตามรับชมได้แล้วครับ อ้าว ๆ คนละเรื่อง 55 มีแอบโฆษณา เอาล่ะเรามาเตรียมพร้อมในการทำได้ล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นพริก (ให้พอเหมาะกับคนรับประทานเดี๋ยวจะเผ็ดให้พอดีน่ะครับ) ตะไคร้ ขมิ้น หอมแดง สิ่งที่ช่วยในการปรุงแต่งและเพิ่มความอร่อยให้มากยิ่งขึ้นไปอีก กะปิ และ ถั่วเน่าเลยครับ ขาดไม่ได้เลย ไม่งั้นจะเหมือนกับ ทานข้าวไม่ได้ทานน้ำ อะไร ๆ ประมาณนั้นเลยล่ะครับ ของมันคู่กันแหละน่ะ เมื่อพร้อมแล้วเรามาลงมือหั่นตะไคร้กันเถอะ หั่น ๆ ๆ อย่าให้เป็นชิ้นใหญ่มากนักน่ะครับ เพราะจะละเอียดช้าขณะที่โขรกในครก นำกระเทียมลงก่อนเลยครับ ตามด้วยตะไคร้ ขมิ้น ใส่ลงไปในครกได้เลยครับ ตามด้วยพริกใส่ตามชอบเลยเผ็ดน้อยเผ็ดมากหรือปานกลาง ขึ้นอยู่กับขนาดของหม้อแกงและน้ำที่เราจะทำแกงปลาด้วยน่ะครับว่ามากหรือน้อย น้ำมากไปก็จะไม่ค่อยเผ็ดเท่าไหร่ อ้อ ที่สำคัญอยู่ที่ท่านผู้อ่านด้วยน่ะครับว่า โขรกละเอียดหรือเปล่า ละเอียดมากก็เผ็ดมากครับ อย่าลืมหอมแดงน่ะครับ ขณะโขรกอย่าร้องไห้ล่ะขั้นตอนนี้ อาจเสียน้ำตากันบ้างล่ะครับท่านผู้อ่าน 555 ละเอียดได้ที่แล้วตามด้วยขั้นตอนสุดท้ายในการทำพริกแกงสำหรับทำแกงปลา นั่นก็คือ ถั่วเน่ากับกะปินั่นเอง กอดคอกันลงครกเลยครับ หอมรัญจวนเชียวล่ะ เตรียมมะเขือผ่ามะเขือเป็นซีก ๆ ลงในหม้อตามด้วยปลาที่เตรียมไว้แล้วใส่ลงไปในหม้อแกงได้เลยครับ ความอร่อยที่ลงตัวที่ขาดไม่ได้อีกอย่างหนึ่งของแกงปลาคือรสชาติที่เปรี้ยว จะเป็นมนต์เสน่ห์ให้กับแกงจำพวกนี้จริง ๆ ครับ แต่จะให้ดีต้องรสเปรี้ยวที่ได้จากมะนาวไม่ใช่น้ำส้มน่ะครับ ยิ่งเป็นมะนาวแป็นจะอร่อยมากกว่า มะนาวไร้เมล็ด แม้ลูกจะเล็กและมีเมล็ดข้างในแต่ความหอมของมันจะมากกว่าและเปรี้ยวถึงใจไปเลย เตรียมหั่นหอมป้อมและหอมยาวไว้เลยครับ แถวบ้านเรียกแบบนี้เลยครับ แต่ทั่วไปจะเรียกว่าผักชี เมื่อแกงปลาทำเสร็จแล้วโรยลงในหม้อแกงได้เลยครับ หรือบางคนจะตักแกงมาแล้วเอาโรยบนถ้วยแกงของเราเพื่อตกแต่งก็ได้ครับ พร้อมรับประทานกันบ้างหรือยังครับท่านผู้อ่าน ถ้าพร้อมแล้วเตรียมถ้วยแกงมาวางไว้รอเลยครับ จะตักตัวโต ๆ ให้เลย ตัวนี้อร่อยมากเนื้อแน่น ๆ เรียกว่าปลาสลาดครับ แพงหน่อยแต่อร่อย ๆ เลยล่ะครับท่านผู้อ่าน กล้องถ่ายรูปจะไม่ค่อยสวยแต่บอกได้เลยแบบไม่มโนว่า แจ่มมาก ๆ หรือ แหล่มจริง ๆ ก็ได้ครับ หอมรัญจวนของจริง รสชาติออกเปรี้ยวนำเลย อร่อยมากเลยล่ะครับ หรือแล้วแต่สูตรใครสูตรมัน รสชาติที่ชอบก็คงจะไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเป็นแกงปลาแล้วส่วนใหญ่จะมีเปรี้ยวนำครับ เนื้อปลาก้อร่อย ๆ น้ำแกงออกสีเหลืองหน่อยด้วยสีขมิ้น รสชาติที่มีทุกอย่างในแกงหม้อนี้ครับ ขอแนะนำว่าให้รับประทานขณะแกงเสร็จใหม่ ๆ น่ะครับจะอร่อยจนผู้อ่านไม่กล่าที่จะปฏิเสธเลยล่ะครับ อาหารประเภทปลานอกจากจะมีการทำด้วยขั้นตอนหลากหลายให้ได้รับประทานขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นการ นึ่ง ทอด ปิ้ง ฯลฯ แต่การนำมารับประทานด้วยการแกงจะได้สมุนไพรที่หลากหลายและสามารถได้ลิ้มรสน้ำแกงที่อร่อยด้วยครับ อยากให้ท่านผู้อ่านที่ไม่เคยได้รับประทานได้ทดลองทำกันดูครับ ไม่แน่อาจจะเป็นเมนูมื้อเด็ดอีกเมนูในจำพวกแกงที่ท่านผู้อ่านพลาดไม่ได้เลยก็อาจเป็นไปได้ครับ... ภาพโดย : สันติ แสนใจบาล