เครดิต : ปก โดย pixabay สวัสดีค่า กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่ เพื่อน ๆ เคยได้ยินคำพูดสำนวนนี้มาก่อนบ้างรึเปล่าคะ ? แล้วเหตุใดถึงมีโวหารแบบนี้บัญญ้ติออกมาให้เราได้พูดกัน เฉลยค่า สมัยก่อน น้ำตาลเป็นเครื่องปรุงรสราคาสูง คนธรรมดาที่ไม่ใช่เจ้าขุนมูลนายไม่สามารถหาซื้อมาประกอบอาหารได้ มีเพียงชนชั้นสูงในรั้วในวังเท่านั้นที่สามารถใช้น้ำตาลทำอาหารคาวตลอดจนขนมหวานสารพัดเมนูต่าง ๆ ได้จ้า เครดิต : ภาพประกอบ pixabay วันนี้ไรเตอร์ขออาสาพาเพื่อน ๆ มาเที่ยวเมืองภูเก็ตกันค่ะ เมืองแฟชั่นย่าหยาอันแสนงดงามกับตึกเก๋ ๆ สไตล์ชิโนโปรตุเกส รอบนี้พามาดูของกินหายากของจังหวัดนี้กันค่ะ ถ้าพูดถึง “หาบโถ่วโซว้ “ คนส่วนใหญ่คงงงและไม่รู้จักแต่ถ้าบอกว่า ขนมหน้าแตก คนภูเก็ตคงร้อง อ๋อ ขึ้นมาทันที สำหรับเรา ๆ ต้องใช้คำว่าคุกกี้จีนสูตรโบราณเท่านั้นถึงจะนึกภาพกันออกจ้าพี่จ๋า มีลักษณะคล้ายคุกกี้แต่ไม่มีส่วนผสมของนมและเนยอันมีไขมันทรานส์ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายเรานะจ๊ะ ใครที่ชอบงาขาว สามารถโรยงาลงบนหน้าขนมเพื่อเพิ่มคุณค่าได้เลยจ้ะ เครดิต : ภาพประกอบ pixabay ส่วนผสมนั้นง่ายนิดเดียวจ้า แป้งสาลีเอนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง ไข่ไก่ 2 ฟอง น้ำตาลทรายมากน้อยตามชอบ ถ้าหวานน้อยใช้ 6 ชต.ค่ะ น้ำมันพืช ¼ ถ้วยตวง ผงฟูครึ่งช้อนชา เกลือป่นเล็กน้อย เบกกิ้งโซดา ⅛ ช้อนชา เครดิต : ภาพประกอบ โดยผู้เขียน วิธีทำ ร่อนแป้ง ผงฟู เบกกิ้งโซดา ประมาณ 2 ครั้งจ้า ทำหลุมตรงกลางแป้ง ให้ตอกไข่ 1 ใบใส่ลงไป ตามด้วยน้ำตาล น้ำมันพืชและเกลือ เคล้าแป้งและส่วนผสมดังกล่าวเบา ๆ ให้เข้ากันพอที่จะปั้นแป้งได้ ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้ววางในถาด กดแป้งให้แบน ในระหว่างนั้นตอกไข่อีกใบ เอาแต่ไข่แดง ตีไข่ให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำไปทาบนหน้าขนมได้เลยจ้า อย่าลืมโรยงาขาวให้ทั่ว นำเข้าเตาอบ ๆ ที่อุณหภูมิ 400 องศาฟาเรนไฮต์นาน 20 นาทีนะจ๊ะ เวลารับประทาน ให้นำมากินคู่กับชาร้อน ๆ สไตล์จีนกวางตุ้งแบบคนภูเก็ตในช่วงเช้าได้เลยค่า ลักษณะของขนมเวลาเคี้ยวจะดังกรุบ ๆ กรอบอร่อย เหมาะเป็นของฝาก ของเซ่นไหว้ตามเทศกาลต่าง ๆ จ้า เพื่อน ๆ ถ้าลงมาท่องเที่ยวภาคใต้แล้วอย่าลืมแวะเที่ยวภูเก็ตกันนะคะ เป็นเมืองที่มีสีสันทางวัฒนธรรมเมืองหนึ่งเลยทีเดียวนับตั้งแต่เชื้อชาติ เสื้อผ้าหน้าผม ตลอดจนอาหารการกินของคนที่นี่ ไว้คราวหน้า ไรเตอร์จะนำเสนอเรื่องราวดี ๆ ในภูเก็ตให้รับรู้กันผ่านเนื้อหาตลอดจนรูปภาพสวย ๆ จ้า