บ้านฉันเรียก “กุ้งต้มน้ำผึ้ง” บ้านเธอเรียกอะไร?? ... สวัสดีค่า กลับมาพบกันอีกแล้ว และก็อีกเช่นเคย หนีไม่พ้นเรื่องกิน วันนี้เรากลับมาเพื่อจะแนะนำเมนูอาหารกันอีกแล้ว สำหรับวันนี้เป็นเมนูที่ชื่อว่า “กุ้งต้มน้ำผึ้ง” หรือที่บางบ้านเรียกกันว่า “กุ้งหวาน” นั่นแหละค่ะ ที่สงขลาบ้านเราเรียกอาหารชนิดนี้ว่า กุ้งต้มน้ำผึ้ง เนื่องจากส่วนผสมหลักที่ใช้ในเมนูนี้คือน้ำผึ้งหรือน้ำตาลแว่นนั่นเอง วันนี้จะมาบอกสูตรที่แม่เราทำเป็นประจำ สืบเนื่องมาจากวันนี้เป็นวันพระแม่เราก็เลยทำกุ้งต้มน้ำผึ้งเพื่อถวายพระ เพราะเมนูกุ้งต้มน้ำผึ้งเป็นเมนูโปรดของคุณย่า และคุณตาทวดเราตอนสมัยท่านยังมีชีวิตอยู่ แม่เลยทำเมนูนี้ในวันพระ สำหรับเมนูกุ้งต้มน้ำผึ้งนี้เป็นอีกเมนูที่มีขั้นตอนการทำที่ง่าย ๆ แต่รสชาติออกมาอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ แค่กุ้งต้มกับเกลือ และน้ำตาลแว่นก็ออกมาอร่อยได้ กับข้าวฝีมือแม่นี่อร่อยทุกอย่างจริง ๆ สำหรับส่วนผสม และวิธีการทำจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ ส่วนผสมในการทำกุ้งต้มน้ำผึ้ง มีดังนี้ค่ะ 1. กุ้งตัวเล็ก ๆ ไม่ต้องแกะเปลือก 2. น้ำตาลแว่น 3. เกลือ 4.หอมแดง วิธีการทำ 1. นำน้ำตาลแว่น เกลือ และหอมแดงใส่ในหม้อโดยไม่ต้องเติมน้ำ ตั้งไฟให้น้ำตาลละลาย 2. ใส่กุ้งลงไป รอให้เดือดและน้ำเริ่มงวด คลุกเคล้ากุ้งให้เข้ากับเครื่องปรุง เป็นอันใช้ได้ค่ะ ตักเสิร์ฟได้เลยค่ะ แค่นี้เลยจริง ๆ ค่ะ เป็นเมนูอาหารที่ทำง่าย ๆ มาก ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ได้กับข้าวหนึ่งจานแล้ว ส่วนรสชาติก็จะหวานมาก ติดเค็มหน่อย ๆ แต่น้ำตาลกับเกลือมันช่างเข้ากับกุ้งมาก ๆ เลย เปลือกกุ้งจะกรอบ ๆ เวลากัดเข้าไปจะรู้สึกถึงความกรอบ และรสชาติหวานทั้งของน้ำตาล และความหวานจากตัวกุ้ง กินเพลินมากค่ะ ไม่ต้องกินกับข้าวก็ได้ กินเปล่า ๆ ก็อร่อยแล้ว หรือจะทำเป็นเครื่องเคียงเอาไว้ทานกับข้าวคลุกกะปิก็ได้เช่นกันค่ะ เมนูกุ้งต้มน้ำผึ้งถือเป็นเมนูในความทรงจำในวัยเด็กของเราเลยเพราะเมื่อก่อนย่าจะชอบทำเมนูนี้ให้กินและเป็นเมนูโปรดของย่าด้วย ซึ่งตอนนี้ย่าเสียไปหลายปีแล้ว ถ้าเห็นเมนูนี้เมื่อไหร่ก็จะทำให้คิดถึงย่าทุกที และทุกวันพระพ่อก็จะให้แม่ทำเมนูนี้ถวายพระเพื่อทำบุญไปให้ย่าด้วย เคล็ดลับความอร่อย : สำหรับเมนูกุ้งต้มน้ำผึ้งนั้นจำเป็นจะต้องใช้กุ้งตัวเล็กและไม่ต้องปอกเปลือกเนื่องจากกุ้งตัวเล็กจะทำให้เครื่องปรุงซึมเข้าตัวกุ้งได้ดีกว่า และการที่ไม่ปอกเปลือกก็เพื่อให้น้ำของเครื่องปรุงขังอยู่ในเปลือกกุ้งเวลาทานจะได้รสชาติมากยิ่งขึ้น สุดท้ายสำหรับการต้มกุ้งเมื่อน้ำเริ่มงวดและตัวกุ้งหดตัวเนื้อกับเปลือกแยกกันเล็กน้อยก็ให้ปิดไฟได้เลยค่ะ เพราะเมื่อเราปิดไฟแล้วความร้อนก็ยังคงอยู่กุ้งจะสุกพอดี ๆ ไม่เหนียวจนเกินไป เวลาทานจะได้อร่อยยิ่งขึ้นนะคะ ภาพประกอบทั้งหมดโดย : ผู้เขียน