ใครเป็นสายกินยกมือขึ้น มีคนนึงแล้วที่ยกคือ ตัวผู้เขียนเองนี่ล่ะค่ะ ^^ เพราะเรื่องกินเรื่องใหญ่จริงไหมคะ สายกินจะไม่ผิดหวังกับบทความนี้แน่นอน แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะคะว่าอาจจะอ่านไปหิวไปได้ค่ะ เพราะวันนี้เราจะมารีวิวขนมญี่ปุ่นถึง 10 อย่างด้วยกัน การันตีความอร่อยความฟินอย่างแน่นอน ใครไปเที่ยวจะซื้อกินที่ญี่ปุ่นหรือจะซื้อเป็นของฝากกลับมาฝากเพื่อน ๆ พี่น้องก็ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ มาค่ะไปหิวพร้อม ๆ กัน Let’s go (ท้ายบทความมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกนะคะ ^^) 1. Royce Chocolate ขนมช็อกโกแลตที่โด่งดังมากจากนักรีวิวหลายสำนัก Royce Chocolate เป็นแบรนด์ช็อกโกแลตจากฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ด้วยความที่เป็นช็อกโกแลตรสชาติเข้มข้น ที่พิเศษแตกต่างจากช็อกโกแลตแบรนด์อื่น ๆ คือ การใส่เหล้าผสมลงไป ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม แต่ไม่ต้องกลัวเมานะคะ เพราะเขาใส่ในปริมาณที่น้อยมาก ตัวผู้เขียนชอบทานมากและแม่ผู้เขียนเองก็ฝากซื้อทุกครั้งที่ไปญี่ปุ่น ด้วยรสชาติช็อกโกแลตที่อร่อยเข้มข้นไม่หวานจนเกินไป มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเหล้า รสชาติที่เป็นที่นิยมและตัวผู้เขียนเองชอบซื้อคือ กล่องสีน้ำเงิน (รส Au lait) แนะนำว่าถ้าซื้อกลับเป็นของฝากควรใส่ห่อฝอยที่ใส่น้ำแข็งแห้งเพื่อรักษาความเย็นไม่ให้ช็อกโกแลตละลายค่ะ ราคา 660 เยน (198 บาท) แหล่งซื้อ สนามบินนาริตะ , สนามบินคันไซ 2. ปังเมล่อน เรียกได้ว่าเป็นขนมที่ถ้าใครไม่ได้ทานเหมือนไปไม่ถึงประเทศญี่ปุ่น ปังเมล่อนเป็นขนมปังกลม ๆ ด้านนอกตัวขนมปังเคลือบด้วยเกล็ดน้ำตาลเล็กน้อย ไม่มีไส้เมล่อนนะคะ เราว่าที่ชื่อปังเมล่อนเพราะลักษณะตัวขนมกลมและใหญ่เหมือนเมล่อนมากกว่าค่ะ ^^ รสชาติอร่อยกรอบนอกนุ่มใน กลิ่นหอมมาก กัดเข้าไปหนึ่งคำคือนุ่มและหอมเตะจมูกมาก หยุดกินไม่ได้จริง ๆ ต้องซื้อเพิ่มค่ะ ใครที่ไปถึงญี่ปุ่นต้องไม่พลาดปังเมล่อนนะคะ ราคา 200 เยน (60 บาท) แหล่งซื้อ วัดเซ็นโซจิ โตเกียว 3. สตรอว์เบอรีเคลือบน้ำตาลเสียบไม้และสตรอว์เบอรีแพ็ค ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องผลไม้ โดยเฉพาะสตรอว์เบอรี เพราะลูกใหญ่ แดง สดได้คุณภาพ ตามตลาดปลา ตลาดสดจะมีร้านขายผลไม้เสียบไม้ให้เห็นค่อนข้างเยอะ อย่างเมนู สตรอว์เบอรีเคลือบน้ำตาล 1 ไม้มีประมาณ 5 ลูก (ปริมาณแล้วแต่ราคาค่ะ) ผู้เขียนไปเดินทีไรจะต้องซื้อกินทุกครั้ง กัดเข้าไปคำแรกจะเป็นรสชาติหวาน ๆ จากน้ำตาลที่เคลือบด้านนอก และเมื่อถึงเนื้อสตอรว์เบอรีจะเป็นรสเปรี้ยว ๆ อร่อยเพลินเลยค่ะ ส่วนสตรอว์เบอรีแพ็คจะขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตและตลาดสด ลูกใหญ่แดงและสดมาก รสชาติเปรี้ยวอมหวานเนื้อชุ่มฉ่ำค่ะ ไม่เพียงแต่สตอว์เบอรีแดงเท่านั้น ทีนี่มีขายสตรอว์เบอรีสีขาวด้วยค่ะ ความแตกต่างแค่สีค่ะ แต่ความอร่อยไม่แพ้กันเลย ราคา สตรอว์เบอรีเคลือบน้ำตาลไม้ละ 800 เยน (240 บาท) , สตรอว์เบอรีแพ็คละ 480 เยน (144 บาท) แหล่งซื้อ ตลาดปลาซึกิจิ , ตลาดสดอุเอโนะ , ซุปเปอร์มาร์เก็ตอิออน 4. ไอศกรีมน้ำแข็งใส รามูเนะ แค่เห็นซองไอศกรีมก็อยากกินแล้วค่ะ สีสันสดใสฟรุ้งฟริ้ง น่ากินสุด ๆ เป็นไอศกรีมน้ำแข็งใส รสโซดา กินแล้วรู้สึกเย็นสดชื่น ได้รสซาบซ่าของโซดา ตัดรสเปรี้ยว ๆ ด้วยลูกอมเม็ด ๆ ด้านใน และตอนนี้ไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่น เขามีขายในไทยด้วยนะคะที่ 7-11 ทุกสาขาค่ะ คือดีย์ต้องไปลองนะคะ ราคา 120 เยน (36 บาท) แหล่งซื้อ 7-11 5. ไอศกรีม Futaba Cookie & Vanilla Ice เป็นไอศกรีมที่หน้าตาหน้าซองน่ารับประทานและแปลกแหวกแนวที่ทำเป็นคุกกี้ไอศกรีม โดยเป็นไอศกรีมที่เป็นเนื้อขนมคุกกี้ สอดไส้ด้วยไอศกรีมวานิลลา รสสัมผัสของคุกกี้นุ่มไม่แข็งกระด้าง กัดพร้อมไอศกรีมวานิลลาหอมหวานเข้มข้นลงตัว มีขายในไทยด้วยเช่นกันค่ะ 7-11 ทุกสาขา ราคา 150 เยน (45 บาท) แหล่งซื้อ 7-11 6. ชีสทาร์ต Pablo ชีสทาร์ตที่เลี่ยงลือใครมาญี่ปุ่นจะต้องไปทานนั่นคือ Pablo ชีสทาร์ต ความฟินอยู่ที่เนื้อชีสทำออกมาได้เนียนละเอียดเด้งดึ๋งทานแล้วละลายในปาก รสชีสเข้มข้ม หวานน้อยละมุนลิ้น ตัดรสเปรี้ยวด้วยน้ำแอปริคอตที่ฉาบหน้าชีสทาร์ต เนื้อขนมด้านนอกแป้งบางกรอบ ทานแล้วเข้ากันได้ดี รสที่ผู้เขียนทานจะเป็นรส original นะคะ ยังมีรสอื่น ๆ ที่อร่อยไม่แพ้กัน เช่น ช็อกโกแลต , ชาเขียว ตอนนี้มาเปิดสาขาที่ไทยแล้วเหมือนกันค่ะ สามารถหาซื้อได้ที่สยามพารากอน ราคา 800 เยน (240 บาท) แหล่งซื้อ ห้างสรรพสินค้า ชิบูย่า , ฮาราจูกุ 7. มันหวานญี่ปุ่น Sweet Potato ใครที่ได้มาเที่ยวญี่ปุ่นต้องเคยเห็นร้านมันเผาอย่างแน่นอน เป็นเมนูที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง โดยแต่ละร้านจะมีเมนูมันเผาหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น มันหวานสีเหลือง , มันหวานสีม่วง , มันหวานผสมฟักทอง (เนื้อสีส้ม) ได้กินตอนร้อน ๆ ฟินมาก รสชาติมันจะออกหวานเนื้อนุ่มละเอียด กลิ่นหอมฉุย ยิ่งทานยิ่งมันค่ะ หาซื้อได้ตามตลาดนัดคนเดิน ตลาดปลา ราคา 500 เยน (150 บาท แล้วแต่น้ำหนักค่ะ) แหล่งซื้อ ตลาดนัดคนเดิน ตลาดปลา 8. Marion Crepes Patissirie เครปเย็น ย่านฮาราจูกุ อีกหนึ่งขนมหวานชื่อดังคงหนีไม่พ้น เครปเย็น ร้าน Marion Crepes Patissirie ย่านฮาราจูกุ เป็นร้านที่คนต่อคิวยาวมาก ภายนอกร้านตกแต่งน่ารักโทนสีน้ำเงินแดง จุดเด่นคือตู้กระจกที่โชว์เครปสอดไส้รสชาติต่าง ๆ น่าทานมาก ส่วนตัวผู้เขียนได้ลองเมนู เครปเย็นสตรอว์เบอรีครีมสด+ชีสเค้ก ราดซอสช็อกโกแลตและมีวิปปิ้งครีมสอดใส้ ทานเย็น ๆ อร่อยเข้ากัน รสชาติออกหวานแต่ตัดรสเปรี้ยวด้วยสตรอว์เบอรีค่ะ ราคา ประมาณ 500+ เยนค่ะ แล้วแต่รสชาติ (150 บาท) แหล่งซื้อ ฮาราจูกุ 9. ไดฟูกุ สตรอว์เบอรี ไดฟูกุ สตรอว์เบอรีถือเป็นขนมหวานที่นิยมที่ญี่ปุ่น โดยจะเป็นลักษณะแป้งกลม ๆ สอดไส้ผลสตรอว์เบอรี กัดเข้าไปเนื้อไดฟูกุจะเป็นเนื้อนุ่ม ๆ หนุบหนับ รสหวานกำลังดี ทานพร้อมสตรอเบอรีเนื้อชุ่มฉ่ำอร่อยลงตัวค่ะ ราคา 650 เยน ต่อ 2 ชิ้น (195 บาท) แหล่งซื้อ ห้างสรรพสินค้า ชิบูย่า , ฮาราจูกุ 10. ไอศกรีม Parfait @Family Mart สำหรับไอศกรีม Parfait รสสตรอว์เบอรีนี้ เพื่อน ๆ อาจไม่ค่อยรู้จัก เพราะตัวผู้เขียนได้ลองซื้อมาทานจาก Family Mart ตอนหยิบชอบตัวแพ็คเกจและตัวไอศกรีมดูน่ากิน มีให้เลือกรสช็อกโกแลตและสตรอว์เบอรี เลือกรสสตรอว์เบอรีมาทานดู สรุปคือปลื้มมาก เป็นไอศกรีมรสนมด้านบนราดด้วยซอสสตรอว์เบอรี ด้านในเป็นไอศกรีมสตรอว์เบอรีนมสด รสชาติหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ ครีมนมเข้มข้น ต้องไม่พลาดนะคะ มีขายที่ Family mart ค่ะ ราคา 250 เยน (75 บาท) แหล่งซื้อ Family Mart 10 ขนมญี่ปุ่นสุดฟิน ที่คุณไม่ควรพลาด! ที่ได้รวบรวมมานี้ก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกนึงของสายกินที่อยากไปลิ้มลองขนมที่ญี่ปุ่น รับรองว่าอร่อยฟินจนต้องซื้อกลับบ้านแน่นอน Photo by JiJi. เพื่อน ๆ อย่าพึ่งกด x ออกน้า เรามีกิจกรรมดี ๆ มาให้ร่วมเล่นกัน คำถามคือ จาก 10 ขนมญี่ปุ่นสุดฟิน ที่คุณไม่ควรพลาด! เพื่อน ๆ อยากลองทานขนมอะไรมากที่สุด เพราะอะไร ? ตอบคำถามโดยพิมพ์คอมเมนต์ใต้บทความนี้ได้เลยค่ะ คำตอบใครโดนใจมากที่สุด 3 อันดับแรก รับไปเลย โค้ดส่วนลดซื้อของใน Wemall มูลค่า 200 บาท (โค้ดหมดอายุ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 , สามารถใช้ลดได้ทุกอย่าง) สามารถร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 4 - 31 พ.ค. 2563 เวลา 12.00 น. และประกาศผลผู้ได้รับรางวัล 3 ท่านใต้คอมเมนต์ในวันที่ 31 พ.ค. 2563 เวลา 18.00 น. ใช้โค้ดได้ที่เว็บไซต์ https://www.wemall.com/ หรือแอปพลิเคชัน Wemall ดาวน์โหลดแอปได้ที่ > IOS , Android โดยมีกติกาและขั้นตอนดังนี้ 1. กดติดตาม ผู้เขียน https://creators.trueid.net/@8617 ก่อนกดติดตามต้อง Log in Account True ID สำหรับใครที่ยังไม่มีบัญชีสามารถกดลงทะเบียน True ID (ลงทะเบียนได้ทุกเครือข่ายมือถือ) ขั้นตอนการกด Follow ตามรูปด้านล่างเลยค่ะ 2. แชร์บทความนี้ลงเฟซบุ๊กพร้อมเปิดสาธารณะ 3. คอมเมนต์ตอบคำถามใต้บทความนี้ พร้อมระบุ ชื่อและอีเมล ของคุณที่ต้องการให้ทีมงานส่ง Code Wemall ให้ในคอมเมนต์ (กรณีที่ได้รับรางวัล ทางทีมงาน TrueID In-Trend จะทำการส่ง Code Wemall ไปยังอีเมลที่ระบุไว้) ค่ะ 4. ในการคัดเลือกผู้ชนะเป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความเท่านั้น TrueID In-Trend ไม่มีส่วนในการคัดเลือกผู้ชนะ 5. ทีมงาน TrueID In-Trend จะมีบทบาทในการช่วยแจกจ่ายของรางวัลดังกล่าวไปยังผู้ชนะ