หอยขัว คืออะไร ทำไมต้องแช่น้ำ รสชาติแบบไหน | บทความโดย Pchalisa หลายคนไม่เคยเห็นหอยขัวมาก่อน ที่พอได้ยินคำว่า “หอยขัว” ก็งงมากและเดาทางยากว่ามันคืออะไรกัน จริงไหมคะ? และคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า? หอยขัวเป็นคำที่คนไทยภาคอีสานใช้เรียกหอยที่กำลังจำศีลอยู่ใต้ดินค่ะ โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้งหรือช่วงที่แหล่งน้ำแห้งขอด ที่หอยหลายชนิดจะฝังตัวลงในดินเพื่อรอให้สภาพแวดล้อมกลับมาเหมาะสมอีกครั้ง การขุดหอยขัวจึงเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ชาวบ้านนิยมทำในช่วงฤดูแล้ง เพราะหอยขัวจะมีรสชาติอร่อยและเป็นอาหารที่หาได้ง่ายในช่วงเวลานี้ค่ะ หอยขัวเป็นคำที่นำมาเหมารวมเรียกหอยที่พบได้บ่อยในระหว่างจำศีล เช่น หอยขม หอยปัง หอยเซอร์รี่ เป็นต้น คือถ้าหอยเหล่านี้จำศีลคนจะเรียกหอยขัวหมดค่ะ ส่วนจะเป็นหอยขมขัวหรือหอยปังขัวก็แล้วแต่คนชอบ แต่โดยมากคนจะใช้คำสั้นๆ ว่าหอยขัว เพื่อง่ายในสถานการณ์จริงนะคะ ซึ่งหอยขมขัวคือสิ่งที่ผู้เขียนได้เจอบ่อยที่สุดที่ตลาดนะคะโดยสถานที่ที่พบหอยขัวได้ ได้แก่ ตามทุ่งนา หนอง บึง หรือบริเวณที่เคยมีน้ำขังมาก่อนค่ะ ที่เรามีวิธีการขุดชนิดนี้ด้วยการใช้เสียมหรือเครื่องมืออื่นๆ ขุดตามร่องรอยที่พบหรือขุดตามประสบการณ์เดิมค่ะ และเหตุผลที่คนนิยมขุดหอยขัวก็เพราะว่า นำหอยขัวมาเป็นอาหาร เพราะมีรสชาติอร่อย และหาได้ง่ายในช่วงหน้าแล้งค่ะ หอยขัวเป็นแหล่งของรายได้เสริมนะคะ เนื่องจากการขุดหอยขัวสามารถนำไปขายได้และทำให้มีรายได้ในครัวเรือนค่ะ ดังนั้นการขุดหอยขัวจึงเป็นวิถีชีวิตของใครบางคนไปแล้ว จากที่การขุดหอยขัวเป็นกิจกรรมที่สืบทอดกันมาในชุมชน เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมในท้องถิ่นค่ะ ทำไมหอยขมต้องจำศีล? การพบเจอหอยขมจำศีลนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติค่ะ ที่เป็นกลไกการเอาตัวรอดตามปกติที่น่าสนใจของหอย โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนและแห้งแล้ง หอยขมจะเข้าสู่ภาวะจำศีลเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ได้ และเหตุผลที่ทำให้หอยชนิดนี้ทำแบบนี้ก็เพราะว่า เพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม: เนื่องจากในช่วงฤดูร้อน แหล่งน้ำที่หอยขมอาศัยอยู่มักจะแห้งขอด ทำให้หาอาหารได้ยากขึ้น ประกอบกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นและความชื้นที่ลดลง จึงส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของหอยขม หอยขมจึงจำเป็นต้องจำศีลเพื่อรอจนกว่าสภาพแวดล้อมกลับมาเหมาะสมอีกครั้งในช่วงที่มีน้ำค่ะ เพื่อลดการใช้พลังงาน: ในช่วงที่จำศีล หอยขมจะลดการทำงานของอวัยวะต่างๆ ลงอย่างมาก เพื่อประหยัดพลังงานที่สะสมไว้ในร่างกาย ทำให้สามารถอยู่รอดได้นานขึ้นในช่วงที่ขาดแคลนอาหารนะคะ เพื่อป้องกันตัวเองจากอันตราย: คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า? การฝังตัวอยู่ในดินหรือโคลน ช่วยปกป้องหอยขมจากสัตว์นักล่าและสภาพอากาศที่แปรปรวนได้เป็นอย่างดี และกระบวนการจำศีลของหอยขมเป็นแบบนี้ค่ะ ลองนึกภาพตามนะคะ เมื่อสภาพแวดล้อมเริ่มเปลี่ยนแปลง หอยขมจะเริ่มเตรียมตัวเข้าสู่ภาวะจำศีล โดยจะหาที่หลบซ่อนที่เหมาะสม เช่น ในดินหรือใต้ก้อนหิน จากนั้นจะปิดฝาเปลือกให้สนิท และลดการเคลื่อนไหวลงอย่างมาก กระบวนการนี้จะทำให้ร่างกายของหอยขมเข้าสู่ภาวะพักตัว และสามารถอยู่รอดได้นานหลายเดือนค่ะ สภาพแวดล้อมที่หอยชอบจำศีล ก็ได้รู้แล้วนะคะว่าหอยจำศีลเพื่อเอาตัวรอดในช่วงที่สภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย เพื่อรักษาพลังงานและรอคอยสภาวะแวดล้อมที่ดีขึ้น และสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้หอยจำศีล ได้แก่ ความแห้งแล้ง: เมื่อแหล่งน้ำแห้งขอด หอยจะขาดแคลนน้ำและอาหาร จึงจำเป็นต้องจำศีล อุณหภูมิสูง: อุณหภูมิที่สูงเกินไปจะทำให้ร่างกายของหอยสูญเสียน้ำมากขึ้น หอยจึงจำเป็นต้องลดการทำงานของร่างกาย อาหารขาดแคลน: เมื่ออาหารในแหล่งน้ำลดลง หอยจะไม่มีพลังงานเพียงพอในการดำรงชีวิต จึงจำศีลเพื่อรอคอยช่วงที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ค่ะ ความเปลี่ยนแปลงของแสง: การเปลี่ยนแปลงของความยาวคลื่นแสงในแต่ละวันและแต่ละฤดูกาล สามารถส่งสัญญาณให้หอยรู้ว่าถึงเวลาจำศีล และสถานที่ที่หอยมักจะจำศีล เช่น ในดิน: หอยหลายชนิดจะฝังตัวลงในดินเพื่อหลบซ่อนจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม และเพื่อรักษาความชื้นในร่างกาย ใต้ก้อนหิน: หอยบางชนิดจะเลือกซ่อนตัวใต้ก้อนหินหรือวัตถุอื่นๆ เพื่อป้องกันอันตรายจากสัตว์นักล่า ในเปลือก: หอยจะปิดเปลือกให้สนิทเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำและรักษาความชื้นภายใน จากข้อมูลข้างต้นทำให้คนในท้องถิ่นมีวิธีการสังเกตหอยขัวจากประสบการณ์ค่ะ พูดง่ายๆ คือ คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีหอยจำศีล มักจะมีประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการขุดหอยชนิดนี้นั่นเอง และโดยส่วนมากมักสังเกตจากตำแหน่งที่เคยขุดได้ คือเขาจะรู้ทราบตำแหน่งที่เคยขุดหอยได้ในปีที่ผ่านมา และเอามาเป็นข้อมูลในการกลับไปสังเกตบริเวณนั้นอีกครั้งค่ะ หากคุณผู้อ่านสนใจทานหอยขัว ต้องลองนำวิธีเลือกหอยขัวดีๆ ที่ผู้เขียนจะได้แนะนำต่อไปนี้ไปใช้ดูค่ะ ที่การเลือกหอยขัวที่ดีนั้นสำคัญมาก เพราะจะส่งผลต่อรสชาติและความอร่อยของอาหารที่ทำออกมานะคะ และเคล็ดลับในการเลือกหอยขัวมีดังนี้ค่ะ 1. สังเกตจากภายนอก เปลือก: ควรเลือกหอยที่มีเปลือกปิดสนิท ไม่แตกหัก หรือมีรอยร้าว เพราะอาจบ่งบอกว่าหอยตายแล้ว น้ำหนัก: หอยที่มีน้ำหนักดี จะรู้สึกหนักแน่นเมื่อถือ ขนาด: หากต้องการหอยเนื้อแน่น ควรเลือกหอยที่มีขนาดใหญ่ ความสด: หอยสดจะมีกลิ่นคาวหอยเล็กน้อย ไม่เหม็นเน่า 2. วิธีทดสอบความสด เคาะเปลือก: ลองเคาะเปลือกเบาๆ หากเสียงดังกังวาน แสดงว่าหอยยังมีชีวิตอยู่ กดเปลือก: ลองกดเปลือกเบาๆ หากเปลือกปิดสนิทและไม่ยุบ แสดงว่าหอยสด ดมกลิ่น: หอยสดจะมีกลิ่นคาวหอยเล็กน้อย หากมีกลิ่นเหม็นเน่า แสดงว่าหอยเสีย ซึ่งมีเคล็ดลับเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยว่า ให้เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ควรเลือกซื้อหอยจากตลาดสดที่สะอาด หรือจากแม่ค้าที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้หอยที่มีคุณภาพนะคะ สังเกตความสะอาด โดยต้องตรวจสอบดูว่าสถานที่ที่ขายหอยมีความสะอาดหรือไม่ หอยถูกจัดวางอย่างถูกสุขลักษณะหรือเปล่าด้วยนะคะ หลายคนอาจยังไม่มีประสบการณ์ว่าเวลานำหอนมาทำอาหาร และอาจสงสัยว่าทำไมต้องแช่น้ำก่อน ที่ต้องแช่น้ำเนื่องจากการแช่หอยขัวในน้ำก่อนนำไปปรุงอาหารนั้นเป็นขั้นตอนสำคัญ โดยมีเหตุผลหลักๆ ดังนี้ค่ะ เพื่อให้หอยคายดินออก จากที่หอยขัวที่ขุดมาจากดินจะมีดินทรายปนอยู่ภายในตัว การแช่น้ำจะช่วยให้หอยคายดินและสิ่งสกปรกต่างๆ ออกมา ทำให้หอยสะอาดและพร้อมนำไปปรุงอาหารได้ เพื่อให้หอยสดชื่น การแช่น้ำจะช่วยให้หอยได้รับออกซิเจน ทำให้เนื้อหอยสดชื่นและมีคุณภาพดีขึ้น เพื่อลดกลิ่นคาว การแช่น้ำจะช่วยลดกลิ่นคาวของหอย ทำให้อาหารมีรสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้นค่ะ วิธีการแช่หอยขัว 1. เตรียมอ่าง: เตรียมอ่างที่สะอาดและมีขนาดใหญ่พอที่จะใส่หอยขัวได้ 2. ใส่น้ำ: เติมน้ำสะอาดลงในอ่างให้ท่วมตัวหอย 3. แช่หอย: นำหอยขัวใส่ลงในอ่าง 4. เปลี่ยนน้ำ: เปลี่ยนน้ำทุกๆ 30 นาที – 1 ชั่วโมง หรือจนกว่าน้ำจะใส 5. ขัดถู: หลังจากแช่น้ำแล้ว ควรนำหอยมาขัดถูเบาๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ การใส่เกลือเล็กน้อยลงไปในน้ำแช่ จะช่วยให้หอยคายดินได้เร็วขึ้น ซึ่งมีข้อควรระวังเพิ่มเติมว่า อย่าแช่นานเกินไป เพราะการแช่นานเกินไปอาจทำให้หอยตายได้ ให้เลือกน้ำสะอาดในการแช่หอย และต้องเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ เพื่อให้ได้หอยที่สะอาดค่ะ รสชาติของหอยขัวนั้นมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยนะคะ เพราะถึงแม้จะเรียกว่าหอยขัว แต่ก็ถ้าเป็นหอยชนิดไม่เหมือนกัน ก็ทำให้มีรสชาติแตกต่างกันไปค่ะ ที่หอยตัวเล็กมักจะมีรสชาติหวานกรอบ ส่วนหอยตัวใหญ่จะมีเนื้อแน่นและรสชาติเข้มข้นขึ้น อีกทั้งการปรุงอาหารก็ส่งผลต่อรสชาติของหอยอย่างมาก เช่น การต้ม ย่าง หรือผัด ก็จะให้รสชาติที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่โดยทั่วไปแล้วหอยขัวจะมีรสชาติประมาณนี้ค่ะ คือ เนื้อหอยจะมีความหวานธรรมชาติ อาจมีความเค็มจากน้ำเค็มที่หอยอาศัยอยู่ เนื้อสัมผัสจะกรอบมัน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของหอยชนิดนั้น และที่สำคัญนะคะหอยขมไม่ได้มีรสขมอย่างชื่อเรียกค่ะ ชื่อ "หอยขม" ค่ะ โดยเมนูอาหารยอดนิยมจากหอยขัว ได้แก่ หอยขมลวกจิ้ม: เป็นเมนูที่นิยมที่สุด เพราะได้รสชาติที่สดใหม่ของหอย แกงอ่อมหอยขม: รสชาติจัดจ้าน เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ผัดเผ็ดหอยขม: รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม หอยขมผัดฉ่า: รสชาติจัดจ้าน มีกลิ่นหอมของเครื่องเทศ และจากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา ต้องบอกว่าผู้เขียนทำอาหารอย่างอื่นจากหอยขัวด้วยค่ะ เช่น ลาบหอย ผัดกะเพราหอย นำหอยไปใส่ส้มตำ เป็นต้น จะเห็นได้ว่าหอยขัวสามารถทำหลากหลายเมนูและทุกอย่างอร่อยล้นจานค่ะ ที่ปัจจุบันผู้เขียนยังมีโอกาสได้ลิ้มลองหอยขัวบ้าง แต่ต้องไปได้ไปที่ตลาดขายของพื้นบ้านเท่านั้นค่ะ ที่นี่คนไม่ได้ขุดหอยขัวเลยค่ะ แต่ผู้เขียนเคยไปบ้านน้องเขยที่นครพนม แถวนั้นมีหอยขัวเยอะมากค่ะ และคนรุ่นเก่าที่นั่นรู้และเข้าใจการขุดหอยขัวเป็นอย่างนี้ หากมีโอกาสได้ไปเที่ยวแถวสกลนคร นครพนมและบึงกาฬ ลองมองหาหอยขัวมาทานกันค่ะ เพราะอร่อยมาก เดี๋ยวจะหาว่าทำไมไม่บอกตั้งนานแล้ว อย่างไรก็ตามผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://food.trueid.net/detail/1X3pz1KA845M https://food.trueid.net/detail/BXbPWy4aqBNZ https://food.trueid.net/detail/6aY9Q8kpp8ya หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !