ส้มแขก สาว ๆ อาจรู้จักชื่อนี้ในนามของสารสกัด หรืออาหารเสริมสำหรับควบคุมน้ำหนัก ผลิตภัณฑ์ทางด้านสุขภาพความงาม เนื่องจากมันมีกรดไฮดรอกซีซิตริก (HCA) ขุนพลผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนัก ลดไขมันส่วนเกินของร่างกาย ขอบอกว่าส้มแขกนั้นนิยมนำมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม รสเปรี้ยวหวาน ทานแล้วถ่ายท้องคล่องเชียว (คุณสมบัตินี้ลองมากับตัวเองแล้ว ยืนยัน) คนทั่วไปรู้จักส้มแขกในด้านประโยชน์เรื่องทรวดทรงองค์เอว แต่ผู้เขียนรู้จักส้มแขกในฐานะเครื่องปรุงรสส้มในแกงเกือบทุกชนิดที่ต้องการความเปรี้ยว มารู้ว่าส้มแขกเป็นที่นิมยมในการสกัด และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ด้านความงามก็ต่อเมื่อได้เข้ามาทำงานเมืองกรุงนั่นเอง ในทางเดียวกัน คนกรุง หรือภูมิภาคนอกเหนือดินแดนด้ามขวานทองของไทย ก็ไม่รู้ว่า ส้มแขก เป็นเครื่องชูรส ภาพโดย Bishnu Sarangi จาก Pixabay ส้มแขก มีชื่อสามัญว่า Garcinia (การ์ซิเนีย) ถิ่นกำเนิดเดิม คือ ศรีลังกา เพราะมาจากแถวนั้น มันจึงถูกเรียกว่า ส้มแขก นิยมปลูกในภาคใต้ กว่าจะให้ผลผลิตใช้เวลาหลายปี ต้นก็ใหญ่โต ไม่แปลกที่ภาคอื่นไม่รู้จัก เพราะถ้าใช้เวลาน้อยคงกระจายไปทั่ว คนใต้เองเรียกส้มแขกต่างกัน จ.ตรัง เรียก ส้มควาย, ทางชายแดนใต้เรียก อาแซอะลูโก ภาษาเจ๊ะเห (ภาษาถิ่นที่ใช้เฉพาะ จ.นราธิวาส และปัตตานีบางส่วน จึงเรียกว่า “ส้มโก”) อื่น ๆ มีเรียก มะขามแขก, ส้มมะอ้น เป็นต้น ส้มแขก เรียกได้ว่า ให้รสเปรี้ยวทั้งต้น ใบเปรี้ยว ดอกเปรี้ยว ผลยิ่งเปรี้ยว สมัยเด็ก ๆ ผู้เขียนชอบเก็บดอกส้มแขก ซึ่งเป็นแฉก ๆ สีแดงสวยมากินเล่น แย่งกันกับน้อง ๆ สนุกดี ยอดอ่อนบ่อยครั้งที่เด็ดมากิน เพราะสมัยนั้น ไม่มีร้านสะดวกซื้อที่หิวเมื่อไหร่ก็แวะมาอยู่ใกล้บ้าน (ราว พ.ศ. 2534 เอ้งงงง) ภาพโดย Bishnu Sarangi จาก Pixabay เมนูใต้อย่างแกงส้ม (หรือแกงเหลือง), ต้มยำ, ต้มส้ม ฯลฯ เป็นต้องใช้ส้มแขกนำรส วิธีใช้ คือ นำผลสุกของส้มแขกมาฝานเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วตากแดดจนดำ / ตากจนดำ ยิ่งย้ำชื่อให้คำว่าส้มแขกเข้าไปให้ ผู้อ่านลองนึกภาพ กล้วยตากสิ! นั่นก็เรียกกล้วยแขก ทางภาษาถิ่นนราธิวาส เราเรียกส้มแขกที่ยังไม่ตากแดดว่า “ลูกโก” ทว่า หากหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วตากแดดจนดำ เราจะเรียกว่า “ส้มแขก” ฉะนั้นหากใครได้ยินว่า “ไปเก็บลูกโก” นั่นมันถึงผลสด ส่วนไปเก็บส้มแขก นั่นหมายถึงแบบตากแห้ง กลับมาที่วิธีใช้ส้มแขกในการนำรส โดยทั่วไปแม่ครัวจะใส่ลงไปพร้อมน้ำต้มแกงตอนตั้งหม้อ เมื่อใส่วัตถุดิบต่าง ๆ แล้ว ปรุงรสจนกลมกล่อมแล้ว ค่อยตักส้มแขกออก เพราะหากแช่ไว้นาน ๆ น้ำจะยิ่งเปรี้ยว (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของแกงด้วย อย่างต้มส้มที่เน้นรสเปรี้ยวจี๊ด ๆ ส่วนมากก็ไม่ค่อยเอาออก) ภาพโดยผู้เขียน จะรู้ได้อย่างไรว่าควรใส่กี่ชิ้น เรื่องนี้ไม่มีสูตรตายตัว แต่โดยประมาณ คือ ขนาดหม้อเบอร์ 22 ใช้ 3 – 4 ชิ้น หมั่นชิม หากเปรี้ยวได้ที่แล้ว ตักออกสัก 2 ชิ้น เป็นต้น สองสามปีก่อนผู้เขียนตัดสินใจซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ อาศัยอยู่ย่านชานเมืองกรุงเทพฯ แม่ซึ่งอยู่ จ.นราธิวาส เป็นฝ่ายจัดแจงหาฤกษ์ยามอันเป็นมงคลให้ โดยการไปสอบถามเกจิอาจารย์ที่นับถือ วันดีที่ว่าไม่ใช่วันขึ้นบ้านใหม่ แต่เป็นวันเหมาะที่จะเข้าไปนอนเอาชัย นอนก่อน 3 คืน นำพระพุทธรูปเข้าไปตั้ง สวดมนต์ไหว้พระ หลังจากนั้นจะย้ายเข้าไปอยู่เต็มตัวเมื่อไหร่ก็ได้ นอกจากสิ่งมงคลที่กล่าวเมื่อครู่แล้ว แม่กำชับให้นำเครื่องครัว พร้อมเครื่องแกง ข้าวสาร อาหารแห้ง เข้าไปด้วย เป็นนัยว่าจะได้มีอยู่มีกินสุขสบาย หนึ่งในนั้นที่ขาดไม่ได้ คือ ส้มแขก ภาพโดยผู้เขียน ผู้เขียนอยู่ กทม. จะหาส้มแขก ไม่ใช่เรื่อง่าย แม่บอก ไม่ต้องกังวล ว่าแล้ว 3 วันผ่านไป ไปรษณีย์ก็มายืนแต้ มอบกล่องส้มแขกจากนราธิวาส ผลงานของแม่ผู้เขียนให้ ฉะนั้นส้มแขกที่กล่าวมานี้ ดีของมัน จึงไม่ใช่อยู่ที่ปากท้อง รูปร่าง รสโอษฐ์เท่านั้น ยังแฝงในความเชื่ออีกด้วย ภาพประกอบปก ถ่ายโดยผู้เขียน