ถ้าว่ากันตามความเป็นจริงแบบไม่โลกสวยเกินไป ในฤดูร้อนแบบนี้ หากอยู่ในสถานการณ์ปกติเหมือนปีที่ผ่าน ๆ มา กิจกรรมยามว่างอย่างหนึ่งที่สร้างบรรยากาศบาย ๆ ในช่วงเวลาพักผ่อนของคนวัยทำงานหลาย ๆ คนก็คงเป็นหามุมร่มรื่น จิบเบียร์เย็น ๆ หรือเครื่องดื่มมีดีกรีผสมโซดาให้ซู่ซ่าดับร้อน (แต่สำหรับน้อง ๆ หนู ๆ ขอแนะนำว่าดื่มพวกน้ำอัดลมจะดีกว่า สดชื่นไม่ต่างกัน แถมประหยัดเงินในกระเป๋าที่คุณพ่อคุณแม่ให้มาอีกนะครับ 😊) หากแต่เดือนเมษายนปีนี้ไม่เหมือนเดิม เพราะผลพวงจากการประกาศใช้ พ.รก.ฉุกเฉินฯ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้มีการห้ามจำหน่ายสุราทั่วประเทศตั้งแต่ก่อนวันมหาสงกรานต์ ทำเอานักดื่มหลายคนออกอาการเซ็ง เพราะแม้หลายคนจะไหวตัวทันด้วยการแห่ไปซื้อเหล้าเบียร์มากักตุนไว้ก่อน แต่ด้วยข้อจำกัดดังกล่าวทำให้บรรยากาศไม่เอื้อต่อการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สักเท่าไหร่ ซึ่งแม้บางจังหวัดจะกำหนดช่วงเวลาเพียงไม่กี่วัน แต่ก็มีหลายจังหวัดที่กำหนดช่วงเวลาไว้ค่อนข้างยาว อย่างเช่นจังหวัดสระบุรีที่ผมพักอยู่ในขณะนี้ก็มีประกาศปิดร้านจำหน่ายสุรายาวไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายนกันเลยทีเดียว ปกติผมเองไม่ใช่นักดื่ม จะมีดื่มบ้างเฉพาะในบางโอกาสหรือบางอารมณ์ แต่ก็พอจะเข้าใจที่นักดื่มหลายคนอาจจะรู้สึกว่า การห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะระยะยาวหรือสั้นก็คงเป็นเรื่องไม่น่าอภิรมย์นัก หากแต่ก็อยากให้เข้าใจถึงเจตนาของการออกมาตรการดังกล่าวว่า เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส เพราะหากปล่อยให้ยังมีการจำหน่ายเครื่องดื่มดังกล่าวเหมือนปกติ ก็เป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัส หรือการติดต่อกันในระหว่างการรวมกลุ่มสังสรรค์ และยังรวมไปถึงอาจก่อให้เกิดการละเมิดมาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาเพื่อควบคุมสถานการณ์ในปัจจุบัน เช่น อาจมีคนเมาแล้วละเมิดการเคอร์ฟิว เป็นต้น ซึ่งหากทำความเข้าใจและปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว ก็จะเป็นหนทางหนึ่งในการรักษาเนื้อรักษาตัวในสถานการณ์ปัจจุบัน ด้วยการไม่ดื้อไม่รั้น ดังที่ผมเคยกล่าวไว้ในบทความ "เปิดประสบการณ์ 3 หนทางรักษาตัวรอดในสถานการณ์ฉุกเฉินจากพิษ covid-19" เพราะหากยังคงดื้อรั้นฝ่าฝืนข้อห้าม ผลที่เกิดขึ้นจะมิใช่แค่เพียงการเพิ่มความเสี่ยงดังที่กล่าวมาเท่านั้น หากแต่ยังถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งต้องระวางโทษทางอาญาที่มีทั้งโทษจำคุกและโทษปรับ เพราะการออกข้อห้ามดังกล่าวได้อาศัยอำนาจทั้งตามพระราชบัญญัติควบคุมโรคติดต่อ และอำนาจในการออกข้อกำหนดที่ระบุไว้ในพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) ซึ่งกำหนดโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนไว้ แต่ทั้งนี้ การปฏิบัติตามกรอบมาตรการที่กำหนดก็อาจไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไรเสมอไป ถ้าเรารู้จักปรับตัวรับมือกับสถานการณ์และอยู่ร่วมกับมันได้โดยไม่ต้องฝืนตัวเองมากนัก อย่างคนที่อาจจะเคยชินกับการมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้ดับกระหาย ผ่อนคลายอารมณ์หลังเลิกงานหรือช่วงเวลาพักผ่อน เมื่อต้องอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่อาจซื้อขายกันได้เหมือนปกติ ก็อาจเครื่องดื่มชนิดอื่นมาทดแทนกันได้ /ภาพโดย 31singha/ อย่างเช่น เครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ ไฮเนเก้น 0.0 (Heineken 0.0) ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เป็นตัวช่วยชดเชยกันได้ เพราะเป็นเครื่องดื่มที่ปราศจากส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ดื่มได้ทุกที่เพราะไม่ทำให้มึนเมา และยังคงหาซื้อได้ที่เซเว่นอิเลฟเว่นทั่วไป ซึ่งยังคงวางได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเพราะไม่ใช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ถูกห้ามจำหน่าย /ภาพโดย 31singha/ ผมเองก็ยังแวะซื้อมาติดตู้เย็นไว้ (หมายถึงซื้อมาแช่เก็บไว้ในตู้เย็นนะครับ คงไม่มีใครเข้าใจไปว่าขวดเครื่องดื่มเป็นแม่เหล็กติดตู้เย็นได้หรอกนะ 😁) ยามว่าง ๆ ระหว่างพักผ่อนอยู่ที่ห้อง คอแห้งหรือรู้สึกร้อนอบอ้าวขึ้นมาก็หยิบมาดื่มเติมความสดชื่น ด้วยกลิ่นและรสชาติของข้าวมอลต์บาร์เลย์ที่หมักด้วยกระบวนการเดียวกับเบียร์แต่ได้ดูดเอาแอลกอฮอล์ออกไปหมด เหลือแต่กลิ่นและรสชาติความเป็นเครื่องดื่มมอลต์และฟองนุ่ม ๆ ดื่มกี่ขวดก็ไม่เมา (แต่ก็ขอให้ดื่มแต่พอดีนะครับ 😄) /ภาพโดย 31singha/ อ่านมาถึงตรงนี้ รู้สึกเปรี้ยวปาก เอ๊ย! คอแห้งขึ้นมาแล้วละสิ ถ้าสนใจก็ลองแวะไปดูที่ตู้เครื่องดื่มในเซเว่นอิเลฟเว่น เครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ในขวดแก้วสีเขียว ฉลากโลโก้ดาวแดงที่คงคุ้นตากันดีน่าจะหาไม่ยาก ขวดเล็ก ๆ ขนาด 330 ลูกบาศก์เซนติเมตร ราคาเพียง 38 บาทเท่านั้น แบบกระป๋องก็มีนะ ราคาเท่ากันเลย ช่วงนี้อาจจะซื้อมาสำหรับดื่มคนเดียวไปก่อน ยังไม่ต้องไปสังสรรค์กับใครจะดีกว่าเน้อะ 😄 และอีกอย่างที่อยากบอกกันไว้ก่อน คือ สำหรับน้อง ๆ หนู ๆ อายุไม่ถึง 20 ปี พี่ไม่สนับสนุนให้ซื้อมาดื่มนะครับ แม้จะไม่มีแอลกอฮอล์ก็เหอะ เพราะดื่มแล้วอาจจะติดกับรสชาติและเดี๋ยวจะกลายเป็นอยากไปลองเวอร์ชั่นที่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งพี่ว่ายังไม่เหมาะไม่ควรกับวัยของน้อง ๆ นะครับ 😊 /ภาพโดย 31singha/ อ้อ ! และสำหรับใครที่จะออกไปหาซื้อในยามค่ำคืน ก็อย่าลืมดูเวลากันด้วยนะครับ ไม่งั้นหากหิ้วไฮเนเก้นสูตรนี้เดินเชิดมาอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องว่าไม่ได้ฝ่าฝืนข้อห้าม แต่ดันเผลอไปละเมิดข้อห้ามเคอร์ฟิวนี่โทษไม่ได้เบากว่ากันเลยนะครับ เดี๋ยวจะหาว่า 31singha ไม่เตือนไม่ได้นะ...😙 ภาพปกบทความโดย 31singha