12 วิธีป้องกันอาหารตกพื้น กินไม่ได้ และต้องทิ้งเป็นขยะเปียก กดอ่านเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ผู้เขียนเชื่อว่าเราหลายคนคงเคยมีประสบการณ์ทำอาหารตกพื้น ที่ก็รู้สึกเสียดายเพราะต้องทิ้งอาหารนั้นไป ที่ในบางครั้งบางคนก็สงสัยว่าทำไมเราชอบทำอาหารตกเรื่อยๆ โดยจากที่ผู้เขียนสังเกตมานั้น การที่เราทำอาหารตกพื้นบ่อยๆ แล้วต้องทิ้งอาหารไปเป็นขยะนั้น เกิดจากหลายส่วนค่ะ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับความเชื่ออะไรใดๆ ทั้งนั้น แต่การหล่นของอาหารจากทัพพี จากช้อน จากส้อมหรืออื่นๆ นั้น เกี่ยวข้องกับว่าเรามองไม่ออกว่า ในตอนนั้นมีสิ่งที่สามารถทำให้อาหารตกพื้นได้ ดังนั้นในบทความนี้มีเคล็ดลับที่สามารถเป็นตัวช่วยได้ค่ะ ที่จะทำให้เราจากคนที่เคยชอบทำอาหารตกพื้นเป็นประจำเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นได้ โดยอ่านจบแล้วคุณผู้อ่านจะได้ไอเดีย ที่เป็นเคล็ดลับนำไปปรับปรุงแก้ไขได้จากที่บ้านเลยนะคะ เพื่อไม่ให้ทำอาหารตกพื้นอีก และถ้าอยากรู้แล้วว่าต้องทำยังไงดี จะสามารถทำให้ตัวเราเองไม่ทำให้อาหารตกพื้นได้ ต้องอ่านต่อเลยค่ะ กับเนื้อหาที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ 1. เลือกขนาดภาชนะให้พอดี ลองนึกภาพตามง่ายๆ นะคะว่าเวลาเราตักแกงใส่ถ้วย ถ้าเราเลือกถ้วยที่เล็กเกินไปหรือใส่แกงจนล้น สิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอนคือแกงต้องหกเลอะเทอะเต็มพื้นใช่ไหมค่ะ แต่กลับกันถ้าเราเลือกถ้วยที่พอดีกับปริมาณแกง หรือใหญ่กว่านิดหน่อย แกงก็จะอยู่ในถ้วยได้พอดี ไม่หกเลอะเทอะ ไม่ต้องเสียเวลามาเช็ดทำความสะอาดค่ะ 2. ใช้ถาดรองหรือเขียงที่มีขอบ เวลาเราหั่นผัก หั่นเนื้อบนเขียง แล้วผักชิ้นเล็กๆ หรือเศษเนื้อชอบกระเด็นออกนอกเขียงไปตกพื้น สร้างความเลอะเทอะให้ต้องก้มเก็บหรือเช็ดถูอยู่บ่อยๆ น่าหงุดหงิดใช่ไหมล่ะคะ แต่ถ้าเราลองเปลี่ยนมาใช้เขียงที่มีขอบหรือถาดรองแทน ปัญหาพวกนี้ก็จะหมดไปทันที! เพราะขอบของเขียงจะช่วยกั้นไม่ให้อาหารที่หั่นกระเด็นออกไปนอกพื้นที่ทำงาน เหมือนมีกำแพงเล็กๆ มาช่วยปกป้อง ไม่ว่าจะเป็นผักชิ้นเล็กๆ เนื้อสัตว์ หรือแม้แต่น้ำจากวัตถุดิบต่างๆ ก็จะถูกกักเก็บอยู่บนถาดหรือเขียงค่ะ หมดปัญหาของตกพื้นสกปรกไปได้เลย ทำให้เราทำอาหารได้อย่างสบายใจมากขึ้นเยอะเลยค่ะ 3. ใช้ที่คีบหรือทัพพีที่ถนัดมือ รู้ไหมว่าการเลือกใช้ที่คีบหรือทัพพีที่ถนัดมือของเราจริง ๆ มีผลมากกว่าที่คิดนะคะ เวลาที่เราต้องคีบหรือตักอาหาร ไม่ว่าจะตอนผัด ทอด หรือแม้แต่ตักใส่จาน ถ้าอุปกรณ์ที่เราใช้มันไม่พอดีมือ จับแล้วลื่นหรือรู้สึกไม่มั่นคง โอกาสที่อาหารจะหลุดมือแล้วหล่นลงพื้นก็มีสูง ลองนึกภาพตอนกำลังคีบเส้นบะหมี่ลื่นๆ หรือตักแกงร้อนๆ แล้วที่คีบหรือทัพพีมันแกว่งไปมา ก็เสี่ยงที่อาหารจะหกเลอะเทอะ แถมยังอาจจะลวกมือเราได้อีกด้วย แต่ถ้าเราเลือกใช้ที่คีบหรือทัพพีที่จับแล้วรู้สึกกระชับมือ ควบคุมได้ง่าย มั่นใจได้เลยว่าทุกการตัก การคีบจะแม่นยำขึ้นเยอะ อาหารก็จะไม่หล่นลงพื้นให้เสียอารมณ์ แถมยังช่วยให้การทำอาหารของเราสนุกและปลอดภัยมากขึ้นอีกด้วยค่ะ 4. ระมัดระวังเมื่อยกของร้อน เคยไหมค่ะที่รีบยกอาหารร้อนๆ ออกจากเตาแล้วเผลอทำหก? เชื่อว่าหลายคนต้องเคยเจอสถานการณ์แบบนี้แน่นอน เพราะตอนที่อาหารร้อนจัดๆ ทั้งไอน้ำ ความร้อน และความลวกมือที่อาจเกิดขึ้น ทำให้เราตกใจและควบคุมการเคลื่อนไหวได้ไม่ดีเท่าที่ควร สุดท้ายก็จบลงที่อาหารหกกระจายเต็มพื้น นอกจากจะต้องเสียดายอาหารแล้ว ยังต้องมาเหนื่อยเก็บกวาดอีกด้วยนะคะ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือการระมัดระวังเมื่อยกอาหารที่ร้อนค่ะ อาจจะใช้ผ้าจับของร้อน ถุงมือ หรือรอให้ความร้อนลดลงสักนิดก่อนจะเคลื่อนย้าย ก็จะช่วยให้เราจับภาชนะได้มั่นคงขึ้น ไม่ต้องลนลานหรือกลัวร้อนจนมือสั่น พอเราเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจและควบคุมได้ดีขึ้น โอกาสที่อาหารจะตกพื้นก็ลดลงไปเยอะเลยค่ะ การระมัดระวังเล็กๆ น้อยๆ นี้จะช่วยให้เราทำอาหารได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยมากขึ้นเยอะเลยนะคะ 5. หั่นอาหารให้มั่นคง ปัญหาหนึ่งที่หลายคนเจอเวลาเข้าครัว คือ เวลาหั่นอาหารแล้ววัตถุดิบมันขยับไปมาจนหั่นยาก แถมยังเสี่ยงที่อาหารจะหล่นจากเขียงลงพื้นอีกด้วยใช่ไหมคะ? และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมการหั่นอาหารให้มั่นคง จึงสำคัญมากๆ ถ้าเราหั่นผักหรือเนื้อสัตว์โดยที่ยังกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเขียง ไม่ว่าจะหั่นยากแค่ไหนก็เสี่ยงที่จะพลาดพลั้งทำมันตกพื้นได้ง่ายๆ เลยล่ะค่ะ แต่ถ้าเราจัดวางอาหารให้มั่นคง ไม่ว่าจะเป็นการใช้มือจับให้แน่น หรือใช้เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เช่น การตัดฐานของผักให้แบนลงก่อนหั่น ก็จะช่วยให้อาหารไม่ไถลไปมา ทำให้เราหั่นได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัย ไม่ต้องกังวลว่าของจะหล่นกระจายให้ต้องเก็บกวาดให้เสียเวลาอีกต่อไปค่ะ การหั่นอย่างมั่นคงจะช่วยให้ครัวของเราสะอาดและเป็นระเบียบขึ้นเยอะเลยค่ะ 6. เลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับเด็ก การเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับเด็ก มีความสำคัญมากๆ ค่ะ ลองมองหาช้อนส้อมที่ด้ามจับถนัดมือ มีขนาดพอดีคำ จานชามที่มีขอบสูง หรืออาจจะเป็นแบบที่มีฐานกันลื่น ก็จะช่วยให้เด็กๆ ตักอาหารได้ง่ายขึ้น มั่นคงขึ้น และอาหารก็จะไม่หล่นจากจานหรือจากช้อนไปเลอะเทอะให้คุณพ่อคุณแม่ต้องเหนื่อยเก็บกวาดบ่อยๆ อีกต่อไปค่ะ เพราะจานที่มีขอบยกสูงขึ้นมาเล็กน้อย หรืออาจจะเป็นชามก้นลึก จะช่วยเป็นเหมือนกำแพงกั้น ไม่ให้อาหารที่หนูๆ ตักกระเด็นออกนอกจานไปง่ายๆ ค่ะ ทำให้หนูๆ ตักอาหารได้สะดวกขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าจะตักพลาดแล้วอาหารไหลออกจากจานค่ะ บางรุ่นยังมีฐานเป็นยางกันลื่น ช่วยให้จานไม่เลื่อนไปมาเวลาที่หนูๆ ตักอาหารแรงๆ ด้วยค่ะ 7. ระวังเมื่อเปิด-ปิดตู้เย็นหรือตู้กับข้าว เคยไหมค่ะที่เดินผ่านตู้เย็นหรือตู้กับข้าว แล้วเผลอไปชนประตูที่เปิดทิ้งไว้ จนของในนั้นหล่นกระจายลงพื้น? หรือบางทีก็รีบปิดตู้เย็นแรงไปหน่อย จนของที่วางอยู่ขอบๆ ร่วงลงมา? เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้มักจะทำให้เราต้องมานั่งเก็บกวาดให้เสียเวลา แถมบางทีอาหารที่เราหกก็ยังไม่ทันได้กินด้วยซ้ำ! เพราะฉะนั้นการระมัดระวังเมื่อเปิด-ปิดตู้เย็นหรือตู้กับข้าว จึงเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เลยค่ะ และการที่เราค่อยๆ เปิด ค่อยๆ ปิด ไม่กระชากแรงจนเกินไป จะช่วยลดแรงสั่นสะเทือนที่อาจทำให้ข้าวของที่จัดเก็บไว้ไม่ดี หรือวางอยู่ขอบๆ ตู้ หล่นลงมาได้ค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นการปิดประตูตู้เย็นให้สนิททุกครั้ง ยังช่วยให้อาหารสดใหม่นานขึ้น และประหยัดไฟอีกด้วยนะคะ แค่ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ ก็ช่วยให้ครัวของเราสะอาดเรียบร้อย ไม่ต้องทิ้งอาหารไปโดยเปล่าประโยชน์ และประหยัดเวลาในการเก็บกวาดได้เยอะเลยค่ะ 8. ตักทีละน้อย เวลาที่เราตักอาหาร ไม่ว่าจะตักใส่จาน ตักใส่หม้อ หรือตักใส่ชาม ถ้าเราตักเยอะเกินไปในครั้งเดียว โอกาสที่อาหารจะล้นช้อน ล้นทัพพี หรือหกหล่นลงพื้นก็มีสูงมากเลยใช่ไหมค่ะ? โดยเฉพาะอาหารที่เป็นของเหลวอย่างแกงหรือซุป หรืออาหารชิ้นเล็กๆ อย่างข้าวสวย ยิ่งตักเยอะยิ่งเสี่ยงจะหกง่ายมากๆ เลยล่ะค่ะ แต่ปัญหานี้แก้ได้ง่ายนิดเดียว แค่เราลองตักทีละน้อย เพราะการตักในปริมาณที่พอดีมือ พอดีกับขนาดของอุปกรณ์ที่เราใช้ จะช่วยให้เราควบคุมการตักได้ดีขึ้น อาหารไม่ล้น ไม่หนักเกินไป ทำให้เราเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นคงและแม่นยำมากขึ้นค่ะ พอตักทีละนิด อาหารก็จะไม่ค่อยหก ไม่เลอะเทอะให้ต้องมานั่งเช็ดถูบ่อยๆ แถมยังทำให้การทำอาหารและการกินอาหารของเราดูเรียบร้อยและง่ายขึ้นเยอะเลยนะคะ 9. เก็บอาหารบนโต๊ะให้ห่างจากขอบ เคยไหมค่ะที่เดินชนโต๊ะแล้วแก้วน้ำคว่ำ หรือหยิบของแล้วไปปัดโดนจานข้าวที่วางอยู่ริมๆ โต๊ะจนหล่นแตก? และสาเหตุหลักๆ เลยก็คือ การวางอาหารหรือสิ่งของใกล้ขอบโต๊ะมากเกินไป ลองนึกภาพดูสิครับว่า ถ้าจานข้าวหรือแก้วน้ำวางอยู่ชิดขอบโต๊ะแค่ไหน โอกาสที่จะโดนแขนเสื้อ เดินชน หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงกระโดดปัดให้ตกพื้นก็มีสูงมากเท่านั้นค่ะ เพราะฉะนั้นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยป้องกันปัญหานี้ คือ การเก็บอาหารบนโต๊ะให้ห่างจากขอบค่ะ แค่ขยับจาน ชาม หรือแก้วน้ำเข้ามาข้างในโต๊ะอีกนิด ให้พ้นจากแนวที่เราเดินผ่าน หรือบริเวณที่แขนเสื้อจะปัดโดนได้ง่ายๆ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงที่อาหารจะตกพื้นได้อย่างมาก นอกจากจะช่วยให้ครัวหรือบ้านของเราสะอาดอยู่เสมอแล้ว ยังช่วยให้เราไม่ต้องเสียดายอาหาร หรือเสียเวลาเก็บกวาดให้เหนื่อยอีกด้วยค่ะ 10. นั่งให้ถูกตำแหน่ง เวลาที่เรากำลังกินอาหาร ไม่ว่าจะอยู่บนโต๊ะหรือนั่งกับพื้น เคยสังเกตไหมคะว่าถ้าเรานั่งแบบไม่ค่อยสบายตัว หรือนั่งในท่าที่ต้องเอื้อมเยอะๆ โอกาสที่อาหารจะหกหล่นลงพื้นก็มีสูงมากเลยใช่ไหมคะ? ลองนึกภาพตอนนั่งเอนหลังมากไปแล้วต้องเอื้อมตัวไปตักอาหารไกลๆ หรือนั่งเบี้ยวๆ แล้วต้องคอยพยุงจานชามไปด้วย ทั้งไม่สะดวกและเสี่ยงต่อการทำอาหารหกเลอะเทอะ เพราะฉะนั้นการนั่งให้ถูกตำแหน่ง จึงสำคัญกว่าที่คิดค่ะ การนั่งในท่าที่มั่นคง สบายตัว และอยู่ใกล้กับอาหารพอดี จะช่วยให้เราเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องเกร็ง ไม่ต้องเอื้อมจนสุดแขน ทำให้เราตักอาหารได้นิ่งขึ้น แม่นยำขึ้น และไม่ต้องกังวลว่าของจะหล่นกระจายให้ต้องเก็บกวาดให้เสียเวลาอีกต่อไป การนั่งในท่าที่ถูกต้องไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันอาหารหก แต่ยังทำให้เรากินอาหารได้อย่างผ่อนคลายค่ะ 11. ใช้ช้อน ส้อม ตะเกียบอย่างระมัดระวัง คุณผู้อ่านเคยสังเกตไหมคะว่า เวลาที่เราใช้ช้อน ส้อม หรือตะเกียบในการกินอาหาร หลายครั้งที่เราอาจจะเผลอทำอาหารหกหล่นลงพื้น บางทีก็เป็นเพราะตักเยอะไปบ้าง ตะเกียบหนีบไม่แน่นบ้าง หรืออาจจะเผลอสะบัดมือแรงไปนิดเดียวเท่านั้นเอง ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้มักจะสร้างความหงุดหงิดใจให้เราได้ไม่น้อย เพราะนอกจากจะเสียดายอาหารแล้ว ยังต้องมาคอยเก็บกวาดอีกด้วย ดังนั้นการใช้ช้อน ส้อม ตะเกียบอย่างระมัดระวัง จึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ค่ะ แค่เราใส่ใจกับการตักแต่ละครั้ง ไม่ตักจนล้นเกินไป หนีบตะเกียบให้มั่นคง หรือเคลื่อนไหวช้าๆ อย่างตั้งใจ ก็จะช่วยให้เราควบคุมอุปกรณ์เหล่านี้ได้ดีขึ้นมาก อาหารก็จะไม่หล่นเรี่ยราดให้ต้องมาเสียอารมณ์ แถมยังทำให้เรากินอาหารได้อย่างเรียบร้อยและเพลิดเพลินมากขึ้นด้วยค่ะ 12. ไม่ทำกิจกรรมอื่นในระหว่างกินอาหาร เคยไหมคะที่กำลังกินข้าวอยู่ดีๆ แล้วก็หยิบมือถือขึ้นมาเล่น หรือดูทีวีไปด้วยจนเผลอทำอาหารหกเลอะเทอะ? เชื่อว่าหลายคนต้องเคยเจอประสบการณ์แบบนี้แน่ๆ ค่ะ เพราะเวลาที่เราทำกิจกรรมหลายอย่างพร้อมกัน โดยเฉพาะตอนกินข้าว สมาธิของเราจะถูกแบ่งออกไป ทำให้เราไม่ทันได้ระวังการเคลื่อนไหวของมือและปาก อาหารเลยมักจะหล่นจากช้อน ส้อม หรือแม้กระทั่งจากปากลงพื้นไปง่ายๆ ซึ่งปัญหานี้ทำให้เราเสียดายอาหาร แถมยังต้องมานั่งเก็บกวาดให้เหนื่อยอีกด้วย ดังนั้นการไม่ทำกิจกรรมอื่นในระหว่างกินอาหาร จึงเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยป้องกันเรื่องนี้ได้ดีที่สุดค่ะ แค่เราตั้งใจกินข้าวอย่างเดียว จดจ่ออยู่กับอาหารในจาน ช้อน ส้อม และปากของเรา สมาธิของเราก็จะอยู่กับการกินอย่างเต็มที่ ทำให้เราตักอาหารได้แม่นยำขึ้น เคี้ยวได้ระมัดระวังขึ้น และโอกาสที่อาหารจะหกหล่นก็ลดลงไปเยอะเลยค่ะ นอกจากจะช่วยให้ครัวของเราสะอาดแล้ว ยังทำให้เราได้ลิ้มรสอาหารได้อย่างเต็มที่ ก็จบแล้วค่ะ จากเนื้อหาข้างต้นจะเห็นได้ว่า ปัญหาอาหารหกตกพื้นเป็นเรื่องที่เราเจอได้บ่อยจนบางทีก็มองข้ามไปนั้น พอมาลองคิดดูดีๆ จะพบว่าแต่ละครั้งที่เราทำอาหารหก ไม่ได้แค่เลอะเทอะ ต้องเสียเวลาเก็บกวาดอย่างเดียว แต่บางทีก็หมายถึงอาหารดีๆ ที่ต้องเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ด้วย! การที่เรารู้ว่ามีวิธีช่วยป้องกันไม่ให้อาหารตกพื้นได้ จึงเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากเลยนะคะ เพราะล้วนแล้วแต่เป็นเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยให้ชีวิตประจำวันของเราง่ายขึ้นเยอะ ไม่ต้องคอยหงุดหงิดกับคราบอาหาร ไม่ต้องเสียดายของที่หก และยังช่วยให้ครัวของเราสะอาดน่าใช้งานอยู่เสมอด้วยค่ะ แล้วในสถานการณ์จริง จุดไหนที่บอกว่าเราได้ทำดีที่สุดแล้ว? คำตอบง่ายๆ คือเมื่อเราทำอาหารหกน้อยลงกว่าเดิมค่ะ ไม่จำเป็นต้องเป๊ะ 100% ไม่หกเลยสักนิด โดยถ้าเราเริ่มสังเกตตัวเอง และพยายามนำเคล็ดลับในบทความนี้ไปปรับใช้ แล้วพบว่าตัวเองทำอาหารหกน้อยลง หรือพื้นครัวไม่ต้องเช็ดบ่อยเท่าเมื่อก่อน นั่นแหละค่ะคือสัญญาณที่บอกว่าเรามาถูกทางแล้ว และให้ทำต่อไปจนติดเป็นนิสัย เพราะการเรียนรู้และปรับปรุงตัวเองทีละเล็กละน้อย คือ กุญแจสำคัญของการมีชีวิตที่ง่ายและสบายขึ้นในทุกๆ วัน ที่ไม่ต้องทำอาหารตกพื้นอีกค่ะ เพราะโดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนก็ได้นำเคล็ดลับต่างๆ ในบทความนี้ไปใช้เหมือนกัน ฝึกตัวเองทุกวันค่ะ มีสติตลอดตอนตักอาหาร ยกหม้อร้อนๆ และอื่นๆ ที่ไม่ดูโทรศัพท์หรือทำกิจกรรมอื่นตอนทานอาหารค่ะ ยังไงนั้นคุณผู้อ่านลองอ่านเนื้อหาและทำความเข้าใจดีๆ อีกสักรอบก่อนก็ได้ค่ะ ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไป และถ้าต้องการอ่านบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน ให้กดที่รูปโปรไฟล์ใต้ชื่อบทความนี้ได้เลยค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปก โดย Freepik จาก FREEPIK และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1-2 โดยผู้เขียน, ภาพที่ 3 และภาพที่ 4 โดย Freepik จาก FREEPIK เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 8 วิธีเลือกซื้อเขียง สำหรับหั่นอาหาร คุณภาพดี น่าซื้อ 12 ข้อดีของการสุขาภิบาลอาหาร ภายในบ้าน มีอะไรบัาง 12 สาเหตุที่ทำให้เนื้อวัวปนเปื้อน และไม่ถูกสุขลักษณะ หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !