ว่าด้วยเรื่องกาแฟ สำหรับคนที่หลงใหลในกลิ่นหอมและรสชาติที่กลมกล่อมนุ่มลิ้น ผู้เขียนก็เป็นคนหนึ่งที่หลงใหล ในการดื่มกาแฟ เป็นชีวิตจิตใจ ดื่มแล้วรู้สึกกระปรี้กระเปร่า เมื่อผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทาง ไปท่องเที่ยว ที่หมู่เกาะสุมาตราประเทศอินโดนีซีย ต้นกำเนิด ของกาแฟขี้ชะมด ก็ต้องขอไปเรียนรู้และเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆในการดื่ม กาแฟ ดูกระบวนการตั้งแต่ต้นจนถึงจบ แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว กาแฟขี้ชะมด ถือว่าเป็นกาแฟที่มีชื่อเสียงและโด่งดังที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง และยังมีราคาที่แสนจะแพง ผู้เขียนจะค่อย ๆ เล่าให้ฟัง กาแฟขี้ชะมด ตอนแรกผู้เขียนก็สงสัยว่ามันเป็นขี้จริง ๆ หรือเปล่า? จนเมื่อได้ไปเห็นด้วยตาตัวเอง ยังคิดในใจ เออ!มันขี้เก่งนะ ออกมาสวยเลย และที่สำคัญต้องเป็นชะมดพันธุ์ในเอเชียด้วยนะ ชื่อ Luwak ผู้เขียนฟังคนท้องถิ่นที่นั้นเล่าว่า เจ้าสัตว์ชะมดน้อย ต้องให้กินผลสุกของต้นกาแฟ แต่ก่อนที่จะกินต้องมีการปรับเรื่องลำไส้ของมันให้ใหญ่เสียก่อน จึงจะสามารถกินเมล็ดกาแฟสุกเข้าไปได้ หลังจากนั้นในกระเพาะมันก็จะมีเอนไซม์ออกมาย่อยผลกาแฟ ให้เหลือแต่กะลาด้านใน คล้ายกับสารกาแฟที่เราเห็น แล้วมันก็จะถ่ายออกมา หลังจากนั้นก็ทำความสะอาด แล้วก็นำไปบ่ม ยิ่งบ่มนานยิ่งมีผลกับคุณภาพของกาแฟ ราคาก็จะสูงตามระยะเวลาในการบ่ม หลังจากนั้นค่อยนำมาคั่ว และบดต่อไป ขอลองคั่วเองดูบ้าง มีวางขายด้วยนะถ้าใครสนใจ ได้เวลาที่รอคอยแล้ว กลิ่นหอม ๆ ของเจ้ากาแฟขี่ชะมด เมื่อยกขึ้นดื่ม ความรู้สึกสัมผัสได้ถึงความนุ่มละมุนในปาก อมไว้สักนิดก่อนที่กลืน ดื่มแล้วรู้สึกผ่อนคลาย ไม่แปลกใจทำไมมีผู้คนถึงหลงใหล ทั้งทีราคาแสนแพงแต่ด้วยราคาที่แพงก็ต้องเหตุผลของมันเพราะกระบวนการที่ทำค่อนข้างจะยุ่งยากและซับซ้อน ต้องอาศัยเจ้าตัวชะมดเป็นตัวแปรหลัก เจ้าตัวนี้จะกินอาหารค่อนข้างยากด้วย สำหรับการเดินทางบินลัดฟ้า มาเปิดประสบการณ์ถึงต้นกำเนิด ถือว่าคุ้มค่ากับผู้เขียนมาก ราคาแก้วกาแฟนี้เริ่มต้นที่ราคาแก้ว 500 บาท และยังได้เรียนรู้ตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บผลกาแฟสุกสีแดงเรียกว่า “ผลเชอร์รี่“ต่อไปมันจะคือความทรงจำอันมีค่า ไว้บอกเล่าเรื่องราวเรื่องการดื่มการแฟที่แพงสุดในชีวิต ได้ออกรสออกชาติมากยิ่งขึ้น ใครมีโอกาสก็ต้องลองไปหาดื่มสักครั้งนะ^. เรื่องและภาพ นิ้วเราไม่เท่ากัน