"น้ำกะทิแตงไทยใส่ข้าวโพด" ขอเกริ่นก่อนนะครับว่า ในการทำครั้งนี้ วัตถุดิบทุกอย่าง ผมปลูกและเก็บผลผลิตเองทั้งหมด ซึ่งผมเองเป็นเด็กต่างจังหวัด จึงพอมีพื้นที่ไว้ให้ปลูกผัก ผลไม้ ไว้ทานเองที่บ้านได้ ในช่วงเศรษฐกิจยุคนี้ สามารถช่วยประหยัดเงินในการซื้อของหวานทานได้เยอะเลยครับ ในการทำน้ำกะทิแตงไทย ให้มีกลิ่นหอมและรสชาติที่น่าทานนั้น ปัจจัยหลักเลยคือกะทิ และใบเตย กะทิที่ผมใช้จึงเป็นกะทิที่ขูดและคั้นเองสด ๆ ส่วนใบเตย ก็เก็บเอาที่ปลูกไว้ข้างบ้าน ส่วนใครที่อยากทำตามนั้น สามารถหาซื้อวัตถุดิบ ตามท้องตลาด และลองทำตามผมได้เลยครับ น้ำกะทิแตงไทย ถือเป็นหนึ่งในของหวาน ที่ร้านขายของหวานในตลาดทุกตลาดต้องมีขายกัน ซึ่งผู้คนก็นิยมซื้อทานกันมาก ทานแบบเย็น ๆ ยิ่งอร่อย ในหน้าร้อนแบบนี้ สดชื่นมาก ๆ ถ้าพร้อมแล้วเราไปเริ่มทำกันเลยครับ วัตถุดิบ 1. แตงไทย 1 ลูก หรือมากกว่านั้นตามชอบ 2. ข้าวโพดต้มสีเหลือง 2 ฝัก 3. มะพร้าวสำหรับขูดทำกะทิ 2 ลูก 4. น้ำตาล 4 ช้อนโต๊ะ 5. เกลือ ครึ่งช้อนชา 6. น้ำเปล่าสำหรับคั้นกะทิ 2 ลิตร 7. ใบเตย 2-3 ใบ วิธีการทำ 1. นำแตงไทยมาปอกเปลือก และหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ และแกะข้าวโพดต้มที่เตรียมไว้ 2. นำมะพร้าวมาขูดทั้ง 2 ลูก และคั้นน้ำกะทิ ซึ่งวิธีคั้นน้ำกะทินั้น เทน้ำลงไปในมะพร้าวที่ขูดเสร็จแล้ว 0.50 ลิตร และใส่ถุงมือ ขยำน้ำกับมะพร้าว จนได้น้ำกะทิมา และเทใส่ถ้วยแยกไว้ ส่วนนี้เรียกว่าหัวกะทิ และเทน้ำที่เหลือลงไป และทำเหมือนเดิมพอได้น้ำกะทิมาก็ใส่หม้อแยกไว้ ส่วนนี้เรียกว่าหางกะทิ 3. นำใบเตยที่เตรียมไว้ หั่นเป็นท่อน ๆ และนำไปขยำในน้ำหางกะทิ ให้ในน้ำกะทิมีกลิ่นหอมของใบเตยอยู่ด้วย 4. ใส่น้ำตาลและเกลือที่เตรียมไว้ลงไปคนให้น้ำตาลและเกลือละลายเข้ากัน จากนั้นชิมรสชาติ ให้ออกหวานแต่ไม่ต้องให้หวานจนแสบคอ (สำหรับใครที่คิดว่าอยากเก็บไว้ทานวันต่อไปด้วย แนะนำให้นำน้ำกะทิที่ทำไปต้มเพื่อที่น้ำกะทิจะได้ไม่บูดและอยู่ได้นานขึ้น) 5. ตักแตงไทยใส่จาน และนำน้ำกะทิที่ได้เทราดลงบนแตงไทย โรยด้วยข้าวโพด ราดหัวกะทิที่เราแบ่งไว้ และใส่น้ำแข็งเล็กน้อย แค่นี้น้ำกะทิแตงไทยข้าวโพด หวาน ๆ เย็น ๆ ก็พร้อมทานแล้วครับ (เครดิตภาพ : ภาพนี้เป็นภาพที่ผู้เขียนถ่ายเองไม่ได้อ้างอิงมาจากผู้ใด)