ชา และประโยชน์ของการดื่มชา ชา มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนมานานมากกว่า 4,000 ปี มีตำนานกล่าวว่า จักรพรรดินามว่า เสินหนิง ได้กำลังนั่งอ่านหนังสือพักผ่อนอยู่ใต้ต้นชาแล้วใบไม้ปลิวตกลงมาใส่ในถ้วยน้ำต้มสุกที่จักรพรรดิใช้ดื่ม แล้วน้ำเปลี่ยนสี แล้วเมื่อเขาลองดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า และชาจึงได้ถูกพัฒนามาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา (ฮานะจำไม่ค่อยได้นะคะหากผิดพลาดขออภัยในตำนาน) นอกจากนี้ ใบชา ยังถือว่าเป็นเครื่องบรรณาการ เป็นยาอีกด้วย การดื่มชาถูกแบ่งออกเป็น 3 วิถีหลัก ๆ นั้นคือ 1. แบบจีนที่เป็นแหล่งกำเนิดของชาเป็นวิถีที่เรียบง่าย ชาที่เราคุ้นหูคือ ใบชาอู่หลง ที่เรียกได้ว่าแพร่หลายและกระจ่ายไปทั่วโลก 2. แบบญี่ปุ่นที่มีความละเมียดละมัย ในวิธีการชง เชื่อว่าการดื่มชาของญี่ปุ่นนั้นได้ถูกแพร่หลายโดยพระชาวญี่ปุ่นได้เป็นผู้นำการดื่มชาเข้ามาจากประเทศจีนที่ได้ไปสอนศาสนาที่จีน แล้วนำชากลับมาดื่มยังประเทศญี่ปุ่น จนเป็นเป็นที่นิยมในหมูพระสงค์ และขยายไปสู่ประชาชนทั่วไป 3.แบบผู้ดีชาวอังกฤษ ซึ่งความนิยมดื่มชาของชาวอังกฤษนั้นถือว่าเป็นอันดับ 1 โลก มากกว่าประเทศต้นกำเนิดเสียอีกค่ะ สืบเนื่องมาจากที่ฮานะได้ไปเดินงานเกษตรที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ แล้วฮานะได้เดินไปเจอร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ใบชา และได้ลองชิมชาทุกแบบที่ทางร้านจำหน่าย จนต้องหอบชากลับบ้าน (อย่างที่เคยบอกว่าฮานะชอบดื่มชา)บทความนี้ฮานะเลยจะมาพูดถึงชา ประโยชน์ของการดื่มชา และวิธีการชงชาแบบจีน จริง ๆ อยากจะสาธิตวิธีแบบญี่ปุ่นนะแต่ฮานะไม่มีอุปกรณ์แบบญี่ปุ่นจึงจะมาสาธิตแบบจีนให้เพื่อน ๆ ที่ชอบดื่มชาแบบฮานะได้ทราบกันค่ะ จากบทนำด้านบนฮานะได้กล่าวถึงที่มาเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับชาทีนี้เรามาทราบถึงประโยชน์ของชากันบ้างดีกว่าค่ะ ประโยชน์ของการดื่มชา ช่วยกระตุ้นให้เกิดความสดชื่น ทำให้สมองแจ่มใส ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยแก้อาการกระหาย ช่วยในระบบย่อยอาหาร ช่วยลดการอักเสบ ช่วยสมานแผล ต่อต้านโรคบิด โรคอหิวาต์ ปอดบวม ฝีและหนอง ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย ช่วยขับปัสสาวะ ขยายหลอดลม ลดอาการหอบหืด ช่วยให้หัวใจแข็งแรง (ใครอกหักน่าจะลองดื่ม ล้อเล่น) ช่วยลดไขมัน ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ในบางงานวิจัยบอกว่ามีสารที่มีฤทธิ์จำกัดปฏิกิริยาของเชื้อไวรัสและป้องกันเชื้อ HIV เข้าไปเกาะติดกับเซลล์เนื้อเยื่อที่มีสุขภาพดี ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในเรื่องความอ่อนเยาว์ได้ และประโยชน์อีกมากมายค่ะ และชาที่ฮานะได้ติดมือมาจากงานเกษตร ก็มี ชาเขียว ชามะลิ และ ชาอู่หลงค่ะและในบทความนี้ฮานะจะมาสาธิตวิธีชงชาแบบจีนนะคะ แต่ชงชาเขียวนะ เพราะ ฮานะรักชาเขียวที่สุดค่ะ วิธีการชงชาในวิถีแบบชาวจีน 1 อันดับแรกค่ะเราไปต้มน้ำให้เดือดก่อนเลยนะคะ 2 นำน้ำเดือดมาลวกภาชนะ กาชงชา ถ้วยชา เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกก่อนค่ะ 3 ตักใบชาลงในกาชงชาที่ทำการลวกล้างแล้ว ใช้ปริมาณชาจำนวน 1ใน 4 ของกาชงชาค่ะ 4 เทนำเดือดลงไปที่ใบชา 5 เทน้ำที่ลวกใบชาทิ้งไปก่อน เพื่อล้างฝุ่นจากใบชา และเป็นการปลุกใบชาค่ะ (คือใบชามันเหี่ยวเราเลยต้องปลุกค่ะ) 6 เทน้ำร้องลงลวดใบชาอีกครั้ง ครั้งนี้ลวดใบชาทิ้งไว้ 3-5 นาที แล้วค่อยกรองเทดื่มค่ะ เกล็ดความรู้เล็กน้อย การเทน้ำชาเพื่อเสิร์ฟนั้นเราจะไม่เทเต็มถ้วยดื่มนะคะ การเทเต็มถ้วยในประเพณีจะถือเป็นการไล่แขกค่ะ แต่เราจะเทเพียง 3 ใน 4 ของถ้วยชาเท่านั้น เนื่องจากชามีความร้อน การเทเพียง 3 ใน 4 ของถ้วยชา จะทำให้ผู้ดื่มสามารถจับขอบถ้วยเพื่อยกดื่มได้นั้นเองค่ะ สุดท้ายนี้ ฮานะ อยากช่วยเพื่อน ๆ มาลองดื่มชาร้อนกันนะคะ เพราะ ความสดชื่นที่ได้จากชาจะต่างจากกาแฟค่ะ กาแฟจะกระตุ้นความสดชื่นให้เราแบบเร่งด่วน เลยอาจทำให้บางท่านที่ดื่มมีอาการใจสั่น ปวดหัว แต่ชาจะค่อย ๆ กระตุ้นให้เราสดชื่นแบบช้า ๆ เราจึงไม่มีอาการใจสั่นเหมือนดื่มกาแฟนั้นเองค่ะ แถมประโยชน์เยอะด้วยนะ ลองหามาดื่มกันนะคะ สำหรับบทความนี้ขอลาไปเพียงเท่านี้ หากมีข้อมูลไหนผิดพลาด ฮานะ ต้องขออภัยมา ณที่นี้ และหากใครที่ต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กับ ฮานะ ก็ทักมาที่แฟนเพจของ ฮานะ ได้เลย คลิก ๆ ฮานะ