สวัสดีจ้าสาว ๆ เป็นยังไงกันบ้างคะ กายใจยังแข็งแรงกันดีไหมเอ่ย หมู่นี้ร้านอาหารประจำของหลาย ๆ คนคงปิดตัวลงหรือให้บริการแบบเดลิเวอรี่อ่ะเนอะ รู้สึกไหมคะว่าบางร้านก็ไม่อร่อยเหมือนเดิม อาจจะด้วยบรรยากาศหรือการเปลี่ยนแปลงภายในครัวทำให้รสชาติไม่ฟินเท่าเก่า พอเป็นอย่างนั้นแล้วก็แอบนอยปนหงอยเหมือนกันนะคะเพราะบางทีเราก็ตั้งความหวังไว้ว่าต้องเหมือนเดิมอะไรอย่างงี้ เพราะอย่างนั้น....หมีก็เลยคิดว่าเราต้องสูงสุดคืนสู่สามัญด้วยการทำอาหารทานเองที่บ้าน อาหารทำเอง ฟังเหมือนง่ายเนอะแต่ความจริงแล้วการทำอาหารเป็นศาสตร์ที่ซับซ้อนพอตัว แต่ก็อย่ากระนั้นเลย สาว ๆ อย่างเราอาจจะไม่ค่อยมีเวลาทำอาหารกันสักเท่าไหร่ หมีก็เลยอยากแนะนำเมนูที่ทำง่ายมาก ๆ แถมเหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมันเพราะเมนูนี้แทบจะไม่มีน้ำมันเลยจ้า ชาบูน้ำดำ เจ้าชาบูเป็นชื่อที่คนไทยเรียกกันนะคะ ถ้าเป็นประเทศต้นตำรับอย่างญี่ปุ่นเขาจะเรียกซ้ำกันสองครั้งว่า ชาบูชาบู หรือ しゃぶしゃぶ เจ้าชาบูเป็นอาหารประเภทหม้อไฟที่มีส่วนผสมของผัก เนื้อสัตว์ เส้นต่าง ๆ ใด ๆ โดยการนำเนื้อสัตว์ไปจุ่มแช่นี่ล่ะค่ะที่เป็นที่เกิดเสียงซู่ซ่าจึงเป็นที่มาของชื่อชาบูชาบูนั่นเอง โดยอาหารประเภทชาบูจริง ๆ แล้วคนญี่ปุ่นจะกินกับน้ำพอนซึแต่สำหรับคนไทยที่ชอบความจัดจ้านก็กินกับน้ำจิ้มสุกี้ก็ไม่ผิดค่ะ ที่จริงแล้วการกินชาบูให้อร่อย ได้รสของเนื้อเน้น ๆ ต้องใช้ตะเกียบคีบแกว่งในน้ำซุป แต่สำรับของเราเอาง่ายเข้าว่า หมีเลยใช้วิธีใส่ทุกอย่างลงไปในหม้อเพื่อความรวดเร็วและเรียบง่าย วัตถุดิบ - เนื้อหมูที่ชอบ ลูกชิ้นที่ชอบ เอาตามที่เรากิน - ผักที่อยากกินเช่น กะหล่ำ ปักกาดขาว แครอท เห็ดเข็มทอง - น้ำมัน กระเทียมเล็กน้อย - ซีอิ๊วขาว - น้ำตาล - น้ำมันเล็กน้อย - ผงปรุงรส -ซอสสุกี้น้ำดำยี่ห้อ Yamamori รู้ส่วนประกอบแล้วเรามาลงมือทำกันเลยค่า ตั้งเตาด้วยกระทะก้นลึก(เพราะเราจะมีซุปดำด้วย) ใส่น้ำมันนี้ดดดนึง พอน้ำมันร้อนก็โยนกระเทียมลงไปคั่ว ๆ พอให้เหลือง ใส่เนื้อหมูลงไปผัด ๆๆๆๆ ตามด้วยน้ำซุปสุกี้ญี่ปุ่นยามาโมริ ใส่ซุปสุกี้สีดำเป็นเบสไปผัดกับเนื้อให้พอสุกนิด ๆ เติมน้ำสะอาดลงไปเพื่อทำเป็นซุป ตอนนี้หมูของเราจะเริ่มสุกแล้วออกสีขาว ๆ ต้มไปพักนึงก็ใส่ผงปรุงรส สำหรับผงปรุงรสหรือพวกซุปไก่ซุปหมูก้อนนั้นจะเป็นเครื่องปรุงสุดแสนวิเศษที่ทำให้อาหารกลมกล่อมได้อย่างไม่น่าเชื่อ หมีเคยไปเรียนทำอาหาร อาจารย์คนสอนบอกเองว่าถ้าเราปรุงเท่าไหร่ก็รู้สึกว่าไม่อร่อยให้โยนซุปก้อนลงไป รับรองอร่อยชัวร์นัวจริง 5555 พอน้ำเดือดเราก็ใส่ผักลงไปได้ ข้อควรระวังคือน้ำอย่าให้มากเกินเพราะน้ำในผักจะออกมาอีก พอใส่ผักแล้วก็เหยาะซีอิ๊วขาว น้ำตาลลงไปเพื่อปรุงรส ชิมให้ออกหวาน ๆ เค็ม ๆ เป็นใช้ได้ สีของน้องเขาก็จะออกประมานนี้ น้ำตาลอ่อน ไม่เข้มจัดเหมือนสุกี้ญี่ปุ่น เน้นเอาแบบซุปซดคล่องคอได้ไม่หวานเค็มแหลมไป หั่นเห็ดเข็มทอง แยกเป็นเส้น ๆ กะว่ากินง่าย ๆ ใส่น้องเห็ด ใส่เต้าหู้ปลาที่หั่นไว้ลงไป สองอย่างนี้เราใส่ตอนใกล้เสร็จ ใส่ลงไปแป๊บเดียวก็ปิดไฟได้เลยเพราะสุกง่ายมาก เต้าหู้ปลาก็สุกมาแล้ว แต่นแต๊น----- เสร็จแล้วค่า ชาบูน้ำดำแบบบ้าน ๆ ไม่ง้อร้านก็ทำเองได้เด้อ ต้มไข่สักห้านาทีแล้วแกะวางออนท็อปยิ่งนัว ที่จริงแล้วคนญี่ปุ่นจะจิ้มกินกับไข่สดแต่ในระยะที่เชื้อโรคกำลังแพร่ระบาดเราต้องเซฟตัวเองนิดนึงเลยใช้เป็นไข่ต้มหยุ่น ๆ แทนกันได้ อร่อยเลิศเหมือนกัน ส่วนอันนี้เป็นอีกสูตรที่แนะนำ สำหรับสาว ๆ ที่อยากได้ความเผ็ดติดปลายลิ้นและอิ่มได้ไม่ง้อข้าว หมีทำกินเองส่วนตัว (หม้อแรกของที่บ้าน) อันนี้ใส่พริก 7 รสของญี่ปุ่น เหยาะไปหน่อยจะได้รสเผ็ด สูตรนี้หมีจะใส่เส้นชิราทากิหรือเส้นบุกลงไปด้วยเพื่อความอยู่ท้อง อิ่มทนอิ่มนาน เส้นชิราทากิใส่ตอนต้มกับผักได้เลยนะคะเพราะว่าใช้เวลาต้มนานหน่อย มันจะมาเป็นถุง ๆ มีน้ำข้างใน ให้เอาออกมาล้างสัก2-3น้ำก่อนค่อยใส่ลงในหม้อนะจ๊ะ แล้วทุกขั้นตอนก็เหมือนเดิมเลย วันนี้สาว ๆ คงได้สูตรชาบูน้ำดำแบบประยุกต์ ทำง่ายวัตถุดิบหาซื้อได้ทั่วไปแถมยังอิ่มอร่อยสะอาด ที่สำคัญคือปลอดโควิด 100% เมนูนี้ทำให้เราทานผักได้มากขึ้นเหมาะกับทุกเพศทุกวัยที่สำคัญสำหรับชะนีไซส์หมีคือไม่อ้วนจ้า ทานได้ทานดีไม่มีเบื่อ ใครที่คิดถึงชาบูน้ำดำหรือสุกี้ญี่ปุ่นก็เอาเมนูนี้แก้ขัดไปก่อนนะคะ อย่าลืมทำมาอวดกันนะ รื่นรมย์สวัสดี หมี CREDIT : ภาพถ่ายโดยผู้เขียน