“น้ำเต้าหู้” สุดยอดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่หลายๆ คนชื่นชอบกันอย่างแน่นอนเพราะน้ำเต้าหู้นั้นหาซื้อได้ง่าย ราคาประหยัดในราคาแค่เพียงไม่กี่สิบบาทแถมยังสามารถเพิ่มเครื่องต่างๆ เพื่อเสริมคุณประโยชน์ได้หลากหลายตามใจชอบ น้ำเต้าหู้เครื่องดื่มแสนโปรดของหลายๆ คนยังมีข้อมูลน่ารู้น่าสนใจให้เราได้ทำความรู้จักกันอีกเพียบจะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันได้เลยค่ะ1.น้ำเต้าหู้ทำมาจากถั่วเหลืองน้ำเต้าหู้ทำมาจากอะไร? หลายๆ คนอาจสงสัยว่าน้ำเต้าหู้นั้นชงมาจากผงถั่วเหลืองหรือผงนมหรือเปล่า แต่ความจริงแล้วนั้นเต้าหู้แท้ๆ จะทำมาจากเมล็ดถั่วเหลืองเลยค่ะ โดยเอาถั่วเหลืองไปแช่น้ำจนถั่วนิ่มดี (แช่ประมาณ 10 ชั่วโมงขึ้นไป) จากนั้นนำมาปั่นจนละเอียดแล้วกรองเอาแต่น้ำจะได้น้ำนมถั่วเหลืองแท้ๆ แล้วจึงนำไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อน-กลางๆ เป็นขั้นตอนสุดท้ายเพื่อให้น้ำนมถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้สุกดี นำมาดื่มได้อย่างเอร็ดอร่อยไม่เหม็นเขียว บางสูตรจะใช้แค่เมล็ดถั่วเหลืองหรือบางสูตรอาจผสมถั่วลิสง อัลมอนด์หรือถั่วชนิดอื่นๆ เข้าไปตามความชอบก็ได้เหมือนกันค่ะ 2.น้ำเต้าหู้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนเครื่องดื่มที่คั้นน้ำมาจากเมล็ดถั่วเหลืองนี้ว่ากันว่ามีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมถึงสันนิษฐานกันเช่นนี้เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่าประเทศจีนนั้นเต็มไปด้วยอาหารที่ช่วยเพิ่มพละกำลังและบำรุงร่างกายให้แข็งแรง ว่ากันว่าน้ำเต้าหู้เกิดขึ้นมาจากการพยายามหาเครื่องดื่มที่มีคุณประโยชน์ ดื่มง่าย รสหวานอร่อยเพื่อช่วยบำรุงร่างกายให้กับมารดาที่สูงวัยได้กลับมาแข็งแรงและสดชื่นอีกครั้งซึ่งก็ได้ผลค่อนข้างดี ก่อนที่เวลาต่อมาน้ำเต้าหู้จะได้รับความนิยมในผู้คนทุกหมู่เหล่าและถูกส่งต่อไปยังนานาประเทศ 3.น้ำเต้าหู้เป็นเครื่องดื่มสุขภาพตอบโจทย์คนที่แพ้นมวัว หลายๆ คนประสบปัญหาย่อยนมวัวไม่ได้ แพ้น้ำตาลแล็กโทส อย่างคนที่เรารู้จักหากดื่มนมวัวเมื่อไหร่มีอันต้องปวดท้อง ถ่ายท้อง ท้องเสียในระยะเวลาแค่เพียงไม่กี่ชั่วโมง ข่าวดีก็คือสามารถดื่มน้ำเต้าหู้เพื่อเติมโปรตีน กรดอะมิโนจำเป็นหลากหลายชนิด รวมถึงวิตามินและเกลือแร่จากน้ำเต้าหู้ได้ โดยปริมาณการดื่มที่แนะนำคือวันละ 1-2 แก้ว (240-480 ml.) จะได้โปรตีนประมาณ 12 กรัม โดยที่ไม่ทำให้รู้สึกไม่สบายท้อง มวนท้อง มีลมแน่นในท้อง 4.น้ำเต้าหู้ทำสดเมื่อเปิดถุงแล้วควรกินให้หมดในครั้งเดียว แบบที่ยังไม่เปิดสามารถแช่เก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 2-3 วัน เคยสงสัยไหมคะว่าน้ำเต้าหู้ต้มสดๆ ที่เราซื้อมาจากตลาดนัด ร้านขายทั่วไปสามารถเก็บเอาไว้ในตู้เย็นได้ประมาณกี่วัน จากการที่เราเคยสอบถามกับแม่ค้าน้ำเต้าหู้มาได้ความว่าสามารถเก็บเอาไว้ในตู้เย็นต่อได้อีกประมาณ 2-3 วันค่ะ (อย่าลืมวางน้ำเต้าหู้ให้หายร้อนแล้วค่อยนำไปแช่ตู้เย็น) แต่ถ้าเปิดถุงดื่มแล้วก็ควรดื่มให้หมดในครั้งเดียวจะดีกว่า ส่วนพวกเครื่องเคียงต่างๆ เช่น เส้นแป้ง ฟักทองต้ม มันต้ม พุทราเชื่อม ฯลฯ จากประสบการณ์ส่วนตัวแล้วยิ่งไม่ควรแช่เก็บไว้เลยค่ะผ่านไปแค่เพียง 1 คืนรสสัมผัสก็จะเริ่มเปลี่ยนหรืออาจเริ่มมีกลิ่นบูดเลยก็มี 5.ดื่มน้ำเต้าหู้มากเกินไปก็อาจส่งผลอันตรายต่อสุขภาพได้นะ เชื่อว่าที่หลายๆ คนหันมาดื่มน้ำเต้าหู้กันมากขึ้นเพราะต้องการเติมคุณประโยชน์ดีๆ จากธรรมชาติให้กับร่างกายแต่หากเราดื่มน้ำเต้าหู้มากเกินไปก็อาจกลายเป็นการสร้างภาระให้กับร่างกายของเราแทน น้ำเต้าหู้ 1 แก้ว (ประมาณ 240 ml.) ให้โปรตีนประมาณ 6 กรัม หากเราดื่มน้ำเต้าหู้วันละหลายแก้วก็อาจทำให้ร่างกายได้รับโปรตีนเกินความจำเป็นได้ (เพราะตลอดทั้งวันเราก็ต้องกินอาหารอื่นๆ ที่มีโปรตีนอยู่แล้ว) โดยเฉพาะในคุณผู้หญิงที่การดื่มน้ำเต้าหู้มากๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงทำให้เป็นโรคมะเร็งเต้านมได้ นอกจากนี้ยังรวมไปจนถึงผู้ป่วยโรคไทรอยด์ที่ไม่ควรดื่มน้ำเต้าหู้ในปริมาณมากเพราะจะสร้างผลกระทบต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ได้ พ่วงไปอีกนิดเรื่องน้ำตาลในน้ำเต้าหู้ก็เป็นอีกสาเหตุของโรคอ้วน น้ำตาลสูงหรือโรคเบาหวานได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นแนะนำว่าให้ดื่มน้ำเต้าหู้แค่วันละ 1-2 แก้ว เลือกระดับความหวานน้อย-ปานกลางเพื่อลดปริมาณน้ำตาล น้ำเชื่อมให้น้อยลง ระมัดระวังพวกเครื่องต่างๆ ที่เป็นของเชื่อม เท่านี้การดื่มน้ำเต้าหู้ก็จะปลอดภัยไม่เสียสุขภาพและนี่ก็เป็นข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับน้ำเต้าหู้ที่เรารวบรวมมาฝากเพื่อนๆ กัน น้ำเต้าหู้ที่มีต้นกำเนิดในประเทศจีนนั้นนับเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพโดยแท้ สามารถดื่มได้เป็นประจำในวันทั่วไปหรือจะเอามาดื่มตอนร้อนๆ ในวันที่รู้สึกหนาวสั่นไม่สบายตัวก็ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายได้อย่างดีเยี่ยมแถมยังได้รับคุณประโยชน์แบบจัดเต็มแบบสุดๆ บอกได้เลยว่าน้ำเต้าหู้เป็นเครื่องดื่มที่มีคุณประโยชน์ครบครันจริงๆ ค่ะภาพหน้าปก ภาพที่1 โดย jcomp จาก freepik แต่งด้วย canvaภาพในเนื้อหาทั้งหมด โดย ผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !