ห่างหายจากอาหารอีสานไปนาน เริ่มคิดถึงแล้วล่ะค่ะ ว่าแล้ววันนี้เราพาทุกท่านไปร้านอาหารอีสานกันดีกว่า หากเอ่ยชื่อร้าน “บ้านเล็ก” กับชาวนครสวรรค์ล่ะก็ ร้องอ๋อกันเลยเลยทีเดียว ร้านนี้มีอยู่ด้วยกันสามสาขาค่ะ สาขาแรกจะอยู่ที่หลังตลาดบ่นไก่ ใกล้ ๆ กับปั๊ม ปตท. ส่วนสาขาที่ 2 นั้นจะอยู่ตรงข้ามกรมป่าไม้ บริเวณใกล้ ๆ กับสะพานเดชาติวงศ์ แต่วันนี้เราจะพามากันที่สาขา 3 ค่ะ เรียกว่าถนนสับไฟค่ะ ร้านบ้านเล็กเป็นร้านอาหารไทยที่มีรสชาติค่อนข้างจัดจ้าน ถูกใจสาว ๆ สายแซ่บกันแน่นอนค่ะ เมนูหลากหลายครอบจักรวาล ไม่ว่าจะเป็นต้ม ยำ ทำ แกง ร้านนี้เอาอยู่ทุกเมนู โดยเมนูอาหารอีสารของที่นี่นั้นขึ้นชื่อมาก ๆ เอาเป็นว่าหากเอ่ยว่าอยากทานส้มตำ เราและเพื่อนจะปักหมุดไว้ที่นี่เป็นอันดับแรกที่นึกถึงเลยล่ะค่ะ บริเวณร้านมีทั้งที่นั่งในโซนห้องแอร์และโซนด้านนอกค่ะ บรรยากาศสบาย ๆ หากอยากนั่งรับลมด้านนอก แต่กลัวร้อนไม่ต้องกังวล ทางร้านมีพัดลมไว้บริการอย่างดีค่ะ เอ่ยปากบอกคำเดียว เดี๋ยวทางร้านจัดให้ ที่นั่งภายในร้านมีประมาณ 20 โต๊ะค่ะ หลายคนเห็นภาพแล้วอาจตกใจ ไหนบอกร้านฮิตทำไมไม่มีคนเลยล่ะเธ๊อ!!! ออกตัวก่อนว่าวันนี้เรามาเร็วมาก ร้านยังไม่เปิดดี พนักงานยังเตรียมของกันอยู่เลยค่ะ คือข้าวเหนียวที่ควรจะมีพร้อมเสิร์ฟนั้น ยังนึ่งไม่ทันจะสุกเลยค่ะทุกคน 555+ ไม่เป็นไรค่ะเราไม่แคร์แค่ข้าวเหนียว สั่งแค่ที่ทางร้านพอจะทำให้ได้ก่อนก็ได้ค่ะ และเมนูที่เราเลือกในวันนี้ก็คือ ตำปูปลาร้า ลาบหมู ตำไทยปู และหมูทอดน้ำปลาค่ะ ที่นี่เป็นที่แรกที่ทำให้เราได้รู้จักกับส้มตำปลาร้าจากการคะยั้นคะยอของเพื่อน จากที่เราไม่เคยทานปลาร้าเลย ซึ่งปกติเราจะทานแต่ตำไทย แต่ร้านนี้ทำให้เราลืมตำไทยไปตลอดกาล แต่วันนี้พาเพื่อนมาด้วย นางยังไม่หลงกลลองชิมตำปลาร้ากับเราสักที นางยังยึดมั่นในตำไทย ก็เลยต้องสั่งตำไทยมาให้เพื่อนด้วยค่ะ แต่บอกเลยว่าตำไทยที่นี่นั้นก็เด็ดไม่แพ้กัน ไปค่ะ ไปชิมกันเลยยย นี่คือตำปลาร้าที่เราภูมิใจนำเสนอมาก ๆ ไปที่ไหนต่อที่ไหนจะเจอแต่ตำปลาร้าที่น้ำดำ ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เราไม่ค่อยกล้าทาน แต่ตำปลาร้าที่นี่นั้นถูกใจเรามาก เราอาจไม่ใส่สายตำปลาร้าแบบฮาร์ดคอร์มากนะคะ เราจะออกแนวน้ำปลาร้านวล ๆ เนียน ๆ ละมุนลิ้นทานเพลิน เผ็ดแซ่บประมาณนั้น ซึ่งสำหรับเรา ที่นี่เป็นร้านที่ถูกใจเราที่สุดค่ะ มาในส่วนของตำไทยจานนี้กันบ้างค่ะ จานนี้รสชาติเปรี้ยวนำ หวานตาม และเปรี้ยวแบบน้ำมะนาวแท้เนียน ๆ ตามด้วยความหวานละมุน เผ็ดไม่มาก(เพราะเพื่อนเราไม่ทานเผ็ด) มะละกอที่แก่พอดี ซอยแช่น้ำแข็งจึงทำให้มีความกรอบเคี้ยวเพลิน เอาตรง ๆ จานนี้เราตักทานไม่เยอะ เดี๋ยวเพื่อนตี 555+ จานต่อไปลาบหมูค่ะ จานนี้เผ็ดเปรี้ยวแซ่บตามที่ลาบหมูนั้นควรจะเป็นทุกประการ เพราะบางร้านที่เราไปทานนั้นบางทีก็หวานน้ำกระเทียมดองจนสุดโต่ง บางร้านน้ำมันเยิ้มมาเลย เราไม่ถูกจริตกับลาบหมูแนวนั้น พอมาเจอลาบหมูที่นี่ บอกเลยว่าจบ เราหากันจนเจอ ไม่ต้องตามหาร้านลาบที่ถูกใจแล้วล่ะค่ะ มาในส่วนของหมูทอดน้ำปลากันบ้าง จานนี้รสชาติถูกใจ หมูก็แห้งกรอบ แต่แอบหักคะแนนเรื่องการชุบแป้งทอดมานิดนึง ใจเราอยากได้หมูล้วน ๆ แบบไม่มีแป้ง แต่คือจริง ๆ ร้านเค้าก็คลุกบ๊างบางมากแล้วนะคะ งั้นหัก 1 คะแนนพอ เพราะยังไงก็อร่อยมากอยู่ดี อิอิ หากเพื่อน ๆ คนไหนมีโอกาสเดินทางมายังนครสวรรค์ ตามหาร้านส้มตำแซ่บ ๆ หรืออาหารไทยแบบรสชาติถึงเครื่องล่ะก็ อยากแนะนำให้มาที่ร้านนี้เลยค่ะ แต่หากอยากไปถึงต้นตำรับของร้านนี้ แนะนำให้ไปที่สาขา 1 หลังตลาดบ่นไก่ค่ะ บรรยากาศอาจไม่ดีเท่าที่นี่ แต่รับรองเรื่องความอร่อยค่ะ แซ่บลืมโลกแน่นอน สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้วนะคะ สวัสดีค่ะ ภาพและเนื้อเรื่องโดยผู้เขียน