มะเขือพวก อีสานเรียกหมากแข้ง คำว่าหมากแข้งนี้ผมว่าคนอุดรฯคงจะคุ้น ๆ หูกันดี เพราะมันเป็นชื่อของถนนสายหนึ่งในตัวเมืองอุดรฯ ชื่อว่า "ถนนหมากแข้ง” ถนนสายนี้มีเรื่องเล่าในคนรุ่นเก่า ๆ ว่าที่ถนนสายนี้ได้ชื่อว่า หมากแข้ง ก็เพราะว่า เริ่มแรกบริเวณถนนสายนี้ ก่อนนั้นเป็นป่าหมากแข้ง พร้อมกับมีเรื่องเล่าต่อไปอีกว่า ที่นี่มีต้นหมากแข้งขนาดลำต้นใหญ่มาก ขนาดคนโอบได้รอบเลย แต่มันก็เป็นเพียงคำร่ำลือเกี่ยวกับถนนสายนี้ที่เราจะได้ฟัง่อย ๆ พร้อม ๆ กับเรื่องที่มีขวยจิ๊โป่ม(ภาษาอีสานหมายถึงรูจิ้งหรีด) ขนาดมหึมา ชนิดที่ว่าช้างลงไปได้ มันเป็นเรื่องที่เราได้ฟังกันบ่อย ๆ สำหรับคนรุ่นก่อน ๆ วันนี้ผมเลยนำมาเล่าเสริมบทความนี้บ้าง เพราะนานไปเราอาจหลงลืมกันได้ ต้นมะเขือพวงหรือหมากแข้งนี้ เรามักพบเห็นอยู่ตามเรือกสวนไร่นา หรือตามภาพนี้ปลูกอยู่ข้างรั้วบ้าน หมากแข้งนี้จัดเป็นสมุนไพรไทยอย่างหนึ่ง เป็นไม้พุ่มเตี้ยขนาดเล็ก ออกดอกและผลเป็นพวง ในทางภาคกลางเลยเรียกตามลักษณะนี้ว่า มะเขือพวง บางภาคเรียก มะแว้ง เป็นที่นิยมในการนำมารับประทานเป็นผัก หรือนำไปเป็นส่วนประกอบในการทำอาหาร เช่นภาคกลางมักนำเอาผลมะเขือพวงอ่อน ๆ นี้ไปเป็นส่วนประกอบในการทำอาหารประเภทแกงเผ็ด เช่นแกงเผ็ดใส่เนื้อ ทางภาคอิสานที่เราเคยกินบ่อย ๆ จะใช้วิธีลวกให้สุกแล้วนำมากินเป็นผักลวก กินกับป่นกับแจ่ว มันจะวางใกล้ ๆ กันกับพวกที่ไม่ลวก ซึ่งมันขึ้นอยู่กับความชอบว่า ใครชอบกินแบบสด ๆ หรือจะกินแบบลวกสุกแล้ว ฝ่ายภาคเหนือที่ผมเคยมีเพื่อนคนภาคเหนือ เขาจะนำเอามะเขือพวงนี้ไปทำซุบมะเขือพวง คล้าย ๆ ซุบมะเขือนั่นล่ะ คือการต้มใส่น้ำปลาร้าให้สุกแล้วนำไปโขลกร่วมกับพริกจี่ หัวหอมจี่ กระเทียมเผา จากนั้นก็ปรุงรสให้อร่อยด้วยเครื่องปรุงรส เสร็จเป็นซุบมะเขือพวง หรือมะแว้งซุบ ก็นำไปกินกับข้าวจ้าวหุงสุกร้อน ๆ คนเหนือบอก ซุบมะแว้ง รำแต๊เจ๊า...ฮา คนอีสานก็มีบ้างที่ชอบ ๆ ป่นหมากแข้ง หมากแข้งหรือมะเขือพวงนี้นอกจากจะให้คุณค่าทางโภชนาการแล้ว พืชพันธ์ชนิดนี้ยังมีสรรพคุณทางยาด้วย เช่น ช่วยบำรุงตับ บำรุงไต ใบสดใช้แก้ปวด ปวดข้อ ช่วยแก้อาการฟกช้ำ ช่วยแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย อีกเยอะแยะ เรียกว่าต้นหมากแข้งนี้นอกจากจะกินอร่อยแล้วยังเป็นยาอีกด้วย ใครที่มีอาการซะเงาะซะแงะ(ภาษาอีสาน แปลว่า คนอมโรค) ผมแนะนำว่าควรบริโภคหมากแข้งนี้เป็นประจำ แล้วคุณจะหายจากอาการอมโรค หรืออาการซะเงาะซะแงะครับผม เรื่องและภาพโดยผู้เขียน J A I W