9 ทริคดูปอเปี๊ยะทอด ทำแบบสดใหม่ ไม่ได้ค้างคืน อร่อยและสะอาด มารู้กันเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ปอเปี๊ยะทอดเป็นอาหารทานเล่นยอดนิยมที่หลายคนชอบ เพราะกรอบ อร่อย และทานง่าย แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นอาหารที่มีความเสี่ยงด้านสุขอนามัยสูง หากไม่ได้รับการเตรียมและเก็บรักษาอย่างถูกวิธี เนื่องจากวัตถุดิบของไส้มักมีทั้งผักดิบ เนื้อสัตว์ และวุ้นเส้น ซึ่งถ้าล้างหรือปรุงไม่สะอาดอาจมีการปนเปื้อนได้ง่าย อีกทั้งกระบวนการทอดใช้น้ำมันร้อนจัดซ้ำๆ หากไม่เปลี่ยนใหม่หรือตักเศษอาหารออก น้ำมันจะเสื่อมคุณภาพ ทำให้ปอเปี๊ยะอมน้ำมันและอาจเกิดสารไม่พึงประสงค์ ตลอดจนหลังทอดเสร็จแล้ว ปอเปี๊ยะเป็นอาหารที่สูญเสียความร้อนและความกรอบเร็ว หากวางทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องนานเกิน 2 ชั่วโมง ที่จะช่องว่างและเปิดโอกาสให้จุลินทรีย์เจริญเติบโตได้ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบไทย อีกทั้งการเก็บในภาชนะปิดจนเกิดไอน้ำสะสม ยังทำให้แป้งนิ่มและรสชาติเปลี่ยน นอกจากนี้ร้านค้าบางแห่งอาจวางขายใกล้ถนนโดยไม่มีฝาครอบ ทำให้เสี่ยงต่อฝุ่นและแมลงพาหะ ดังนั้นการรู้วิธีสังเกตปอเปี๊ยะที่สะอาดและทอดใหม่จึงเป็นเรื่องสำคัญค่ะ เพื่อให้เราได้อาหารที่ทั้งอร่อยและปลอดภัยต่อสุขนามัยนะคะ ซึ่งต่อไปนี้คือเคล็ดลับในการเลือกค่ะ 1. สังเกตสีของแป้งปอเปี๊ยะ การสังเกตสีของแป้งปอเปี๊ยะเป็นขั้นตอนแรก ที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดในการบอกความสดใหม่ค่ะ ปกติปอเปี๊ยะที่ทอดเสร็จใหม่ๆ จะมีสีเหลืองทองสม่ำเสมอทั่วทั้งชิ้น แป้งดูเงานิดๆ และชวนให้อยากกิน เมื่อยกขึ้นมาแสงจะสะท้อนให้เห็นความกรอบอย่างชัดเจน สีไม่ซีดเกินไปและไม่คล้ำจนออกน้ำตาลเข้มเพราะน้ำมันเก่า ถ้าแป้งดูหม่นหรือมีรอยไหม้ดำๆ แสดงว่าทอดทิ้งไว้นานหรือใช้น้ำมันที่ทอดซ้ำหลายครั้ง ซึ่งอาจทำให้รสชาติขมนะคะ ดังนั้นการใช้สายตาดูสีให้ละเอียดช่วยให้เราเลือกได้แม่นยำมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดหรือตามร้านอาหารที่ทอดทิ้งไว้ตั้งแต่เช้า ถ้าเป็นการสั่งออนไลน์ ควรดูภาพรีวิวของลูกค้าเพื่อดูว่า สีปอเปี๊ยะสวยสม่ำเสมอหรือไม่ ภาพจริงจากลูกค้าคนก่อนจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีกว่าดูจากภาพโฆษณาที่ร้านโพสต์เองค่ะ นอกจากสีที่สวยแล้ว ควรสังเกตว่ามีคราบน้ำมันเกาะจนหนาเกินไปหรือไม่ ปอเปี๊ยะที่ดีจะมีน้ำมันเคลือบบางๆ ให้แป้งดูฉ่ำเล็กน้อยแต่ไม่แฉะ หากเห็นน้ำมันซึมออกมาจนเปื้อนกระดาษรอง แสดงว่าอมน้ำมันมากและอาจทอดทิ้งไว้นานจนความกรอบหายไป สีที่เหมาะสมจะทำให้เนื้อแป้งกรอบนานและไม่มีกลิ่นหืน การฝึกสังเกตสีบ่อยๆ จะช่วยให้เราจำแนกปอเปี๊ยะที่ทอดใหม่กับที่ค้างคืนได้เก่งขึ้น เมื่อใช้เทคนิคนี้ร่วมกับเทคนิคอื่น จะทำให้เราได้ปอเปี๊ยะที่สดใหม่ อร่อย และปลอดภัยทุกครั้งที่ซื้อค่ะ 2. สังเกตน้ำมันในกระทะ รู้ไหมคะว่า น้ำมันในกระทะคือด่านสำคัญที่บอกคุณภาพของปอเปี๊ยะได้ชัดเจน ร้านที่ใส่ใจจะใช้น้ำมันที่ยังใส ไม่มีกลิ่นหืน และไม่ข้นเหนียว น้ำมันที่ดีจะมีสีเหลืองใสๆ ไม่ดำคล้ำ หากน้ำมันเริ่มมีฟองมากหรือมีเศษแป้งลอยเต็มไปหมด นั่นแปลว่าน้ำมันถูกใช้ซ้ำหลายรอบจนเสื่อมสภาพแล้วนะคะ ที่จะทำให้ปอเปี๊ยะอมน้ำมันง่ายขึ้นและสีคล้ำกว่าปกติ แถมยังเสี่ยงสารไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการทอดซ้ำ การสังเกตทำได้ง่ายๆ เพียงมองกระทะระหว่างที่คนขายทอด ถ้าเห็นว่าน้ำมันโปร่งใส มีการตักเศษอาหารออกบ่อยๆ แสดงว่าร้านดูแลคุณภาพน้ำมันดี เราจะได้ปอเปี๊ยะที่กรอบ หอม และไม่เลี่ยนจนเกินไป นอกจากความใสของน้ำมันแล้ว ยังควรสังเกตพฤติกรรมของคนทอดว่าควบคุมความร้อนได้ดีหรือไม่ น้ำมันที่ร้อนพอดีจะทำให้ปอเปี๊ยะสุกกรอบสวยโดยไม่อมน้ำมันมาก แต่ถ้าน้ำมันเย็นเกินไป ปอเปี๊ยะจะนิ่มและมันเยิ้ม ส่วนถ้าน้ำมันร้อนจัดจนเกิดควันมาก อาจทำให้แป้งไหม้เร็วและขม การดูว่าคนขายทอดทีละพอดี ไม่ใส่ของลงกระทะจนเยอะเกินไป ก็ช่วยรักษาคุณภาพน้ำมันให้ดีตลอดทั้งวัน การเลือกซื้อจากร้านที่รักษาน้ำมันและควบคุมความร้อนดี ไม่เพียงทำให้เราได้ปอเปี๊ยะที่อร่อยกรอบ แต่ยังลดความเสี่ยงจากน้ำมันเสื่อมสภาพที่อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขอนามัยระยะยาว ซึ่งเป็นการดูแลตัวเองตั้งแต่ขั้นตอนเลือกซื้ออาหาร 3. สังเกตไส้ด้านใน การดูไส้ด้านในคืออีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้มั่นใจว่าปอเปี๊ยะสดใหม่ค่ะ ไส้ปอเปี๊ยะที่ดีควรมีสีผักและเนื้อที่ชัดเจน ไม่คล้ำหรือดูหมอง ไส้ผักควรยังมีความชุ่มฉ่ำเล็กน้อย ไม่เหี่ยวหรือแห้งกรอบจนเกินไป กลิ่นที่ออกมาควรหอมกลมกล่อมตามธรรมชาติของเครื่องปรุง ถ้าไส้เริ่มมีกลิ่นเปรี้ยว กลิ่นหมัก หรือมีสีคล้ำจนออกน้ำตาลเข้ม นั่นคือสัญญาณว่าเป็นของเก่าหรือเก็บไว้นานเกินไป ซึ่งวิธีสังเกตทำได้โดยขอให้คนขายตัดปอเปี๊ยะครึ่งหนึ่งให้ดู หรือเลือกชิ้นที่แตกอยู่แล้วเพื่อให้เห็นด้านในอย่างชัดเจน หากสั่งออนไลน์ลองสังเกตจากภาพรีวิวของลูกค้าที่เคยสั่งมาก่อนว่าไส้มีสีสดหรือไม่ การสังเกตไส้เป็นวิธีที่ช่วยกรองความเสี่ยงด้านสุขอนามัยได้มาก เพราะของทอดที่ไส้ไม่สดมักเป็นสาเหตุของอาการเจ็บป่วยในหลายรูปแบบได้ง่ายนะคะ 4. ตรวจดูความร้อนของปอเปี๊ยะ หลายคนยังไม่รู้ว่า การตรวจดูความร้อนเป็นวิธีที่ช่วยยืนยันได้ว่า ปอเปี๊ยะเพิ่งทอดเสร็จและยังคงรสชาติที่ดีที่สุด ซึ่งปอเปี๊ยะที่ทอดใหม่ควรมีความร้อนทั่วทั้งชิ้น ไม่ใช่เพียงผิวด้านนอก หากลองใช้มือสัมผัสเบาๆ ผ่านถุงหรือกล่อง ถ้ารู้สึกอุ่นจัดจนเกือบร้อนมือ นั่นคือสัญญาณดีว่าเพิ่งยกออกจากกระทะไม่นานค่ะ ในทางกลับกันถ้าปอเปี๊ยะเย็นสนิทหรืออุ่นเพียงเล็กน้อย อาจเป็นของที่ทอดทิ้งไว้ตั้งแต่ก่อนหน้า หรือถูกนำมาอุ่นซ้ำด้วยเตาไมโครเวฟ ซึ่งมักทำให้แป้งนิ่มและไม่กรอบ การเลือกช่วงเวลาที่ร้านเพิ่งทอดเสร็จหรือสั่งให้ทอดใหม่ตามออเดอร์ จึงเป็นเทคนิคที่ช่วยให้ได้ของอร่อยที่สุด นอกจากช่วยเรื่องรสชาติแล้ว ความร้อนยังมีส่วนสำคัญในการลดความเสี่ยงของการปนเปื้อน ปอเปี๊ยะที่ยังร้อนอยู่บ่งบอกว่าผ่านกระบวนการทำอาหารที่อุณหภูมิสูงพอ การกินของที่ยังอุ่นจึงปลอดภัยกว่าของที่ปล่อยไว้จนเย็นนะคะ ยิ่งถ้าเราซื้อกลับบ้านหรือสั่งเดลิเวอรี ควรรีบรับประทานขณะที่ยังอุ่น เพื่อรักษาความกรอบและป้องกันปัญหาด้านสุขอนามัย การใส่ใจความร้อนจึงไม่ใช่แค่เรื่องความอร่อย แต่ยังเกี่ยวข้องกับสุขอนามัยโดยตรงด้วยค่ะ 5. สังเกตการวางขาย การวางขายที่ดีเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่า ร้านให้ความใส่ใจกับความกรอบและความสะอาดของปอเปี๊ยะหรือไม่ ร้านที่ใส่ใจมักจะวางปอเปี๊ยะบนตะแกรงโปร่งให้สะเด็ดน้ำมันก่อน และจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบเพื่อให้ความร้อนกระจายออกได้ดี ทำให้แป้งยังคงกรอบนาน สีของปอเปี๊ยะจะสวยสม่ำเสมอ ไม่ชื้นและไม่เละ ในทางกลับกันหากร้านวางกองปอเปี๊ยะทับซ้อนกันในถาดปิด หรือคลุมด้วยพลาสติกจนเกิดไอน้ำสะสม ความกรอบจะหายไปอย่างรวดเร็วและแป้งจะนิ่มเหนียว การสังเกตสภาพแวดล้อมรอบๆ จุดวางขาย ก็ช่วยบอกคุณภาพได้ดีค่ะ ถ้าพื้นที่วางขายสะอาด ไม่มีฝุ่นหรือเศษอาหารตกเกลื่อน โต๊ะสะอาด และใช้ที่คีบหยิบแทนมือเปล่า แสดงว่าร้านมีมาตรฐานด้านสุขอนามัยที่ดี การวางขายที่ถูกสุขลักษณะไม่เพียงแต่ทำให้ปอเปี๊ยะดูน่ากิน แต่ยังลดโอกาสการปนเปื้อนของสิ่งสกปรก ทำให้เรามั่นใจได้ว่าของที่เลือกซื้อนั้นทั้งอร่อยและปลอดภัยนะคะ 6. สังเกตความสะอาดโดยรอบ การสังเกตความสะอาดของพื้นที่ขายเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนมองข้าม แต่จริงๆ แล้วเป็นตัวชี้วัดสุขอนามัยของร้านได้ชัดเจน ร้านที่สะอาดจะมีโต๊ะเคาน์เตอร์ที่เช็ดเรียบร้อย ไม่มีเศษอาหารตกเกลื่อน กระทะและตะแกรงสะเด็ดน้ำมันถูกล้างบ่อยและไม่มีกลิ่นหืนแรง พื้นที่รอบร้านควรดูเป็นระเบียบ ไม่วางของปนกับขยะหรือของใช้ส่วนตัว การที่คนขายสวมผ้ากันเปื้อนสะอาด ใส่หมวกคลุมผม และใช้ที่คีบหยิบปอเปี๊ยะแทนการใช้มือเปล่า เป็นสิ่งที่สร้างความมั่นใจว่าปอเปี๊ยะที่เราซื้อมาจะปลอดภัย นอกจากนี้ควรสังเกตบริเวณใกล้ร้านว่า ปราศจากฝุ่นควันและแมลงวันรบกวนหรือไม่ ร้านที่อยู่ติดถนนใหญ่โดยไม่มีการป้องกันฝุ่น ควรมีการใช้ตะแกรงหรือพลาสติกใสปิดอาหารไว้เพื่อป้องกันการปนเปื้อน การใส่ใจดูความสะอาดรอบร้านช่วยให้เราหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากจุลินทรีย์และสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็น ทำให้ปอเปี๊ยะที่ได้มานอกจากจะอร่อยแล้วยังปลอดภัยต่อสุขอนามัยของเราและทุกคนในครอบครัว 7. เลือกการแพ็คที่เหมาะสม คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การแพ็คมีผลโดยตรงต่อความกรอบและรสชาติของปอเปี๊ยะทอด ร้านที่ใส่ใจมักจะแพ็คปอเปี๊ยะแยกจากน้ำจิ้มในกล่องที่มีช่องระบายอากาศ ทำให้ไอน้ำที่ออกมาหลังทอดไม่สะสมจนทำให้แป้งนิ่มและเหนียว เพราะกล่องกระดาษโปร่งหรือกล่องที่มีรูเล็กๆ สำหรับระบายความร้อน ช่วยรักษาความกรอบของแป้งได้ดีกว่าถุงพลาสติกปิดสนิทที่ทำให้เกิดไอน้ำขัง การจัดเรียงปอเปี๊ยะแบบไม่ซ้อนทับกันจนแน่นเกินไป ก็ช่วยให้คงรูปสวยและไม่แตกเละตอนถึงมือผู้ซื้อ นอกจากนี้ควรเลือกแพ็คที่แยกน้ำจิ้มใส่ถ้วยปิดสนิท ไม่ให้ซึมเลอะตัวปอเปี๊ยะก่อนถึงมือเรา เพราะความชื้นจากน้ำจิ้มจะทำให้แป้งกรอบเสียสภาพเร็ว การแพ็คที่ดีสะท้อนความใส่ใจของร้านต่อคุณภาพอาหาร และช่วยให้เราได้ปอเปี๊ยะที่ยังกรอบน่ากินแม้จะสั่งผ่านเดลิเวอรีหรือซื้อกลับบ้าน การสังเกตวิธีแพ็คจึงเป็นด่านสำคัญที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าของทอดที่เราสั่งมานั้นยังคงความอร่อยเหมือนเพิ่งยกออกจากกระทะ 8. ดูรูปภาพจากลูกค้าคนก่อน ปัจจุบันปอเปี๊ยะทอดมีการทำขายออนไลน์ การดูรูปภาพที่ลูกค้าคนก่อนๆ ลงรีวิวไว้เป็นอีกหนึ่งในวิธีที่แม่นยำที่สุดในการประเมินคุณภาพปอเปี๊ยะค่ะ เพราะเราจะได้เห็นของจริงที่ส่งถึงมือ ไม่ใช่แค่ภาพโฆษณาที่ร้านจัดฉาก รูปที่ถ่ายจริงจะแสดงสีของแป้งว่าทอดออกมาสีเหลืองทองหรือคล้ำจนออกน้ำตาลเข้ม และยังช่วยให้สังเกตได้ว่าปอเปี๊ยะดูกรอบหรือแฉะจากการแพ็ค เมื่อเห็นภาพที่แป้งยังสวยและไม่เละ เราจะมั่นใจได้ว่าร้านใส่ใจขั้นตอนการทอดและการส่ง นอกจากสภาพแป้งแล้ว รูปรีวิวยังทำให้เห็นวิธีแพ็คของร้านว่าแยกน้ำจิ้มหรือไม่ ใช้กล่องระบายอากาศหรือถุงปิดสนิท และปริมาณที่ให้สมเหตุสมผลหรือเปล่า ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้เราตัดสินใจก่อนสั่งได้ และลดความเสี่ยงที่จะได้รับปอเปี๊ยะที่ไม่ตรงปกหรือไม่สดใหม่ และเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ อีกอย่างคือเลือกดูรีวิวที่โพสต์ล่าสุด เพื่อให้แน่ใจว่าคุณภาพของร้านยังคงมาตรฐานเดิม เพราะบางร้านคุณภาพอาจเปลี่ยนไปตามเวลา หรือช่วงคนงานเยอะหรือน้อย ภาพล่าสุดช่วยสะท้อนคุณภาพปัจจุบันได้ดีกว่ารูปเมื่อหลายเดือนก่อน นอกจากนี้ยังควรดูหลายๆ รีวิวเพื่อไม่ให้ข้อมูลเอนเอียงจากรีวิวใดรีวิวหนึ่งที่อาจเป็นข้อยกเว้น เมื่อใช้เทคนิคการดูรูปรีวิวประกอบกับการอ่านคอมเมนต์สั้นๆ ที่พูดถึงความกรอบและความร้อน เราจะมั่นใจได้มากขึ้นว่าปอเปี๊ยะที่เราสั่งมาจะสดใหม่และน่ากิน เหมือนที่เราคาดหวังไว้นะคะ 9. เลือกร้านที่มีเวลาเตรียมอาหารสั้น หลายคนยังไม่รู้ว่า เวลาที่ร้านใช้เตรียมอาหารในแอปเดลิเวอรี เป็นตัวบ่งชี้สำคัญว่าปอเปี๊ยะที่เราจะได้สดใหม่แค่ไหน ร้านที่มีเวลาเตรียมอาหารสั้น เช่น 10-20 นาที มักเป็นร้านที่ทอดตามออเดอร์หรือมีการทอดหมุนเวียนต่อเนื่อง ทำให้ปอเปี๊ยะยังร้อนกรอบเมื่อถึงมือเรา ซึ่งจะต่างจากร้านที่ใช้เวลานานเกิน 40-50 นาที ซึ่งบางครั้งอาจหมายถึงทอดเสร็จแล้วรอรวมออเดอร์ก่อนส่ง ทำให้ของเย็นและนิ่ม ดังนั้นการเลือกช่วงเวลาสั่งก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ หากสั่งในช่วงร้านขายดี เช่น เที่ยงหรือเย็น ร้านมักจะทอดต่อเนื่องทำให้เราได้ของที่เพิ่งออกจากกระทะ ไม่ใช่ของค้างตั้งแต่เช้า ซึ่งวิธีนี้เพิ่มโอกาสได้ปอเปี๊ยะร้อนกรอบและลดความเสี่ยงจากการอุ่นซ้ำนะคะ การใช้เทคนิคนี้ไม่เพียงช่วยให้ได้ของอร่อย แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงด้านสุขอนามัย เพราะอาหารที่เก็บไว้นานที่อุณหภูมิห้องมีโอกาสปนเปื้อนได้ การเลือกร้านที่ทำอาหารเร็วและส่งเร็ว จึงเป็นวิธีป้องกันทั้งความผิดหวังและปัญหาสุขอนามัยไปพร้อมกันค่ะ จบแล้วค่ะ พอจะมองภาพออกแล้วใช่ไหมคะ? ซึ่งการเลือกปอเปี๊ยะก่อนซื้อมีหลายเทคนิคด้วยกัน แต่ในสถานการณ์จริงนั้นเมื่อเลือกปอเปี๊ยะทอด เราก็ไม่จำเป็นต้องจำทุกข้อที่กล่าวมาค่ะ แต่ควรโฟกัสที่ 3 วิธีการสังเกตที่สำคัญ คือ สังเกตสีของแป้ง สังเกตความร้อน และดูรีวิวหรือรูปภาพจากลูกค้าคนก่อน (กรณีสั่งออนไลน์) เพราะนี่คือปัจจัยที่บอกได้ชัดที่สุดว่าปอเปี๊ยะสดใหม่และสะอาด ซึ่งสีของแป้งที่เหลืองทองสม่ำเสมอ เพราะสามารถช่วยการันตีว่าทอดไม่นานเกินไป ความร้อนที่ยังอุ่นหรือร้อนอยู่บ่งบอกว่าของเพิ่งทำเสร็จ และรีวิวภาพจริงยังช่วยยืนยันคุณภาพจากประสบการณ์คนที่เคยซื้อ ซึ่งแนวทางอื่นๆ เช่น การดูน้ำมันในกระทะ วิธีแพ็ค หรือการวางขาย สิ่งเหล่านี้สามารถใช้เสริมเพื่อเพิ่มความมั่นใจได้ แต่ไม่จำเป็นต้องทำครบทุกข้อทุกครั้ง โดยเฉพาะถ้าเราซื้อจากร้านประจำที่ไว้ใจได้หรือมีรีวิวที่ดีสม่ำเสมอ การใช้ทริคหลักเพียง 2-3 ข้อก็เพียงพอที่จะช่วยลดความเสี่ยงได้แล้วค่ะ เคล็ดลับเสริมเหมาะในกรณีที่เราลองร้านใหม่ หรือสั่งจากที่ไม่เคยลองมาก่อน เพื่อช่วยคัดกรองคุณภาพเพิ่มนะคะ เพราะผู้เขียนก็ใช้วิธีการข้างต้นในลักษณะพลิกแพลงเหมือนกันค่ะ ถ้าเจอเจ้าใหม่และขายออนไลน์ แบบนี้ผู้เขียนจะดูรูปภาพประกอบ แต่ถ้าเป็นการซื้อจากหน้าร้าน ผู้เขียนมักเลือกปอเปี๊ยะที่ไม่อมน้ำมัน มีการจัดการในระหว่างทอดและขายเป็นอย่างดี ไม่มีแมลงวันตอม คนขายผ่านด้านสุขอนามัยและเลือกปอเปี๊ยะที่น้ำจิ้มไม่กวานจนเกินไปค่ะ เพราะโดยส่วนตัวแล้วไม่ชอบอาหารที่หวานจัด ยังไงนั้นหกคุณผู้อ่านต้องการซื้อปอเปี๊ยะทอด ก็อย่าลืมนำเคล็ดลับต่างๆ ในบทความนี้ไปใช้นะคะ เพราะอาหารสามารถเป็นสื่อที่นำความเจ็บป่วยมาสู่คนเราได้ การเลือกปอเปี๊ยะจึงต้องให้ความสำคัญค่ะ และด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากคุณผู้อ่านชื่นชอบเนื้อหาแนวนี้ อย่าลืมกดติดตามหรือบันทึกโปรไฟล์ไว้ เพื่อจะได้ไม่พลาดข้อมูลใหม่ๆ ในบทความถัดไป หากสนใจอ่านบทความทั้งหมดของผู้เขียน ก็สามารถกดเข้าไปดูได้จากโปรไฟล์เช่นกันค่ะ #ปอเปี๊ยะทอด #อาหารไทย #อาหารพร้อมทาน #ความปลอดภัยของอาหาร #FoodSafety เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 9 เคล็ดลับเลือกสลัดโรล แบบไหนดี มีคุณภาพสดใหม่ สะอาดน่าซื้อ 9 ทริคเลือกขนมถั่วแปบ ทำใหม่มาขาย ไม่ค้างคืน เป็นแบบไหน 9 วิธีเลือกแซนด์วิช ไส้ทูน่าปูอัด แบบไหนดี มีคุณภาพน่าซื้อ หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !