ปลากระบอก เป็นปลาทะเลยอดนิยมโดยเฉพาะทางใต้ เมนูยอดฮิตคงหนีไม่พ้นปลากระบอกต้มส้ม แกงส้ม หรือทอดขมิ้น ด้วยลักษณะเนื้อปลาที่มีความนุ่ม เนื้อมัน นำไปทำเมนูอะไรก็อร่อยเลยทำให้ปลาชนิดนี้เป็นปลาเศรษฐกิจเลยทีเดียว มีเมนูหนึ่งที่แม่มักทำให้ชิมบ่อย ๆ คือ ปลากระบอกแดดเดียวซึ่งทำง่าย ๆ แค่ซื้อปลากระบอกสด ๆ จากตลาด นำมาผ่าหลังเอาไส้ออกจากนั้นล้างทำความสะอาดแล้วหมักเกลือ จากนั้นนำไปตากแดดซึ่งควรเลือกทำในวันที่แดดจัดสักหน่อย ตากปลาแค่ครึ่งวันก็กลายเป็นปลากระบอกแดดเดียวแล้ว สามารถเก็บไว้รับประทานได้นานนอกจากจะนำไปทอดแล้วก็สามารถเอามาดัดแปลงเป็นแกงเหลืองรสจัดจ้านแบบปักษ์ใต้ได้อีกด้วย ที่จริงแล้วแกงเหลืองซึ่งคนภาคอื่น ๆ ส่วนใหญ่เรียกนั้นเป็นแกงส้มตามแบบของภาคใต้ และคนใต้เองก็ไม่ได้เรียกแกงชนิดนี้ว่าแกงเหลืองหากแต่ทุกบ้านเรียกเมนูนี้ว่าแกงส้ม ที่น้ำแกงมีสีเหลืองมากกว่าจะออกสีแดงแบบแกงส้มภาคกลางนั่นเพราะ ขมิ้น ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับภาคใต้ที่มีสภาพภูมิประเทศแวดล้อมด้วยทะเล นอกจากอาหารจะสีสวยแล้วขมิ้นยังเป็นเครื่องเทศอย่างดีที่ช่วยดับกลิ่นคาวได้ดี โดยเฉพาะหากมื้อนั้นเราปรุงอาหารทะเล นอกจากนี้ขมิ้นยังมีสรรพคุณด้านสมุนไพรช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้ดี สื่อถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษในการสร้างสรรค์เมนูอาหารแต่ล่ะอย่างนั้นล้วนมีที่มา ส่วนประกอบ เมนู แกงเหลืองปลากระบอกแดดเดียวกับผักรวม ปลากระบอกแดดเดียว จำนวน 3 - 4 ตัว มะละกอดิบ ผักกวางตุ้ง หรือจะปรับใส่ผักที่ชอบก็ได้ เช่น มะเขือเปราะ ผักบุุ้ง เป็นต้น น้ำพริกแกงเหลือง 3 - 4ช้อนโต๊ะ เครื่องปรุงรส เกลือ น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก กะปิ สูตรน้ำพริกแกงเหลือง พริกแห้งนำมาแช่น้ำไว้ก่อนประมาณ 15 เม็ด พริกขี้หนูสวน 15 เม็ด เกลือ 2 ช้อนชา ขมิ้น (กะความยาวสักประมาณ 1 นิ้ว) กระเทียม 4 - 5 กลีบ นำมาโขลกรวมกันจนละเอียด . ขั้นตอนการทำ 1.นำปลากระบอกแดดเดียวมาย่างไฟอ่อน ๆ แต่ถ้าใครไม่สะดวกไม่ต้องย่างก็ได้ 2.ใส่น้ำสะอาดลงในหม้อตั้งไฟให้เดือด จากนั้นใส่เครื่องแกงลงไปตามด้วยกะปิคนจนละลาย 3.ใส่มะละกอหรือหากมีผักชนิดอื่่นที่สุกยากก็ให้ใส่ลงไป จนมะละกอเริ่มใกล้จะสุกปรุงรสด้วยเกลือและน้ำปลาชิมรสให้ออกเค็ม จากนั้นเติมน้ำมะขามเปียกลงไปพอได้รสชาติเปรี้ยวเค็มแล้ว เติมน้ำตาลปี๊บ ชิมให้ออก 3 รส เปรี้ยว เค็ม เผ็ดมีรสออกหวานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น 4.เมือน้ำแกงเดือดจัดให้ใส่ปลากระบอกแดดเดียว ตามด้วยผักกวางตุ้งหรือผักอื่น ๆ ที่ต้องการ 5.ชิมรสอีกครั้งพอผักสุกก็ปิดไฟพร้อมรับประทาน ภาพทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียน