วิธีเลือกข้าวบาร์เลย์ คุณภาพดี มาต้มเอง ดูยังไง | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล หลายคนยังไม่รู้ว่า ข้าวบาร์เลย์เป็นสินค้าอีกหนึ่งอย่างที่เราสามารถหาซื้อได้ง่ายๆ ที่ตลาด โดยข้าวชนิดนี้ก็สามารถนำมาทำเมนูต่างๆ ได้หลากหลายเช่นเดียวกับธัญพืชชนิดอื่น ที่หลายคนก็อาจผ่านหูผ่านตามาบ้าง เพราะเคยเห็นเขาใส่มาในน้ำเต้าหู้กับสลัดผัก แต่ยังไม่เคยได้เลือกซื้อข้าวบาร์เลย์แบบแห้งด้วยตัวเองสักที เนื่องจากยังมองภาพไม่ออกว่าจะเลือกซื้อประมาณไหน โดยในบทความนี้มีเทคนิคดีๆ สำหรับเลือกซื้อข้าวบาร์เลย์แห้งมาให้ได้เรียนรู้กันแล้วค่ะ ที่รับรองว่าอ่านจบ มองเห็นภาพและสามารถเดินไปตลาดเพื่อซื้อข้าวบาร์เลย์ได้ง่ายๆ แน่นอน และได้ข้าวบาร์เลย์คุณภาพดีกลับมาทำเมนูต่างๆ ได้แบบมืออาชีพ อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่ามีเคล็ดลับอะไรบ้าง งั้นเรามาอ่านต่อกันเลยดีกว่า กับเนื้อหาที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ค่ะ 1. ดูที่สี สีเป็นปัจจัยหนึ่งที่บ่งบอกถึงคุณภาพของข้าวบาร์เลย์ การเลือกข้าวบาร์เลย์ที่มีสีเหลืองทองหรือสีน้ำตาลอ่อนสม่ำเสมอ จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่ากำลังเลือกซื้อข้าวบาร์เลย์ที่มีคุณภาพดีและปลอดภัยต่อการบริโภค เพราะว่าสีเหลืองทองหรือสีน้ำตาลอ่อนสม่ำเสมอ คือลักษณะเด่นของข้าวบาร์เลย์ที่มีคุณภาพดี เนื่องจากบ่งบอกถึงความสมบูรณ์ของเมล็ดและกระบวนการผลิตที่ถูกต้องค่ะ ข้าวบาร์เลย์ที่เก็บไว้นานเกินไปหรือถูกเก็บในสภาพที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้สีซีดลงหรือเปลี่ยนเป็นสีคล้ำได้ ถ้าข้าวบาร์เลย์มีความชื้นสูง อาจทำให้เกิดเชื้อราและเปลี่ยนสีได้ ข้าวบาร์เลย์บางชนิดอาจผ่านการคั่วเพื่อเพิ่มรสชาติและสีสัน ซึ่งจะทำให้สีเข้มขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังคงมีความสม่ำเสมอ สีไม่สม่ำเสมอ บ่งบอกว่าข้าวบาร์เลย์อาจมีส่วนที่เสียหาย หรือมีการผสมกับข้าวบาร์เลย์ชนิดอื่นค่ะ 2. สังเกตเมล็ด เมล็ดข้าวบาร์เลย์ที่เก็บเกี่ยวจากสายพันธุ์เดียวกันและอยู่ในสภาพที่ดี จะมีขนาดที่ใกล้เคียงกันมาก เมื่อสังเกตดูจะเห็นว่าเมล็ดแต่ละเมล็ดมีความสมมาตรและมีรูปร่างที่คล้ายคลึงกัน เมล็ดข้าวบาร์เลย์ที่สมบูรณ์จะไม่มีรอยแตก รอยร้าว หรือรอยบิ่น ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเมล็ดอาจได้รับความเสียหายจากการเก็บเกี่ยว การขนส่ง หรือการจัดเก็บที่ไม่เหมาะสม เมล็ดข้าวบาร์เลย์ที่ดีจะไม่มีรอยช้ำหรือรอยด่าง ซึ่งอาจเกิดจากแมลงกัดกิน หรือการถูกกดทับจนทำให้เนื้อในของเมล็ดเสียหาย เมล็ดข้าวบาร์เลย์ที่มีขนาดเท่ากันและสมบูรณ์บ่งบอกถึงคุณภาพของข้าวบาร์เลย์นั้นๆ ว่ามีการเจริญเติบโตที่ดีและได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เมล็ดข้าวบาร์เลย์ที่สมบูรณ์จะสามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น เนื่องจากมีโอกาสที่จะเกิดความเสียหายจากเชื้อราหรือแมลงน้อยกว่า 3. ตรวจสอบความชื้น ความชื้นเป็นศัตรูตัวฉกาจของข้าวบาร์เลย์ เพราะเมื่อมีปริมาณความชื้นมากเกินไป จะส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆ ความชื้นเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา ซึ่งจะทำให้ข้าวบาร์เลย์เน่าเสีย และอาจก่อให้เกิดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ความชื้นจะดึงดูดแมลงต่างๆ มาทำลายข้าวบาร์เลย์ ทำให้ข้าวบาร์เลย์เสียรสชาติและคุณค่าทางอาหาร เมล็ดข้าวบาร์เลย์ที่เก็บในที่ชื้น อาจดูดซับความชื้นและเริ่มงอกได้ ซึ่งจะทำให้คุณภาพของข้าวบาร์เลย์ลดลง และวิธีตรวจสอบความชื้นในข้าวบาร์เลย์ มีดังนี้ 3.1 สังเกตด้วยตาเปล่า เมล็ด: เมล็ดข้าวบาร์เลย์ที่แห้งสนิทจะมีลักษณะแข็ง และไม่มีร่องรอยของความชื้น เช่น เมล็ดนิ่ม หรือมีคราบสีขาว บรรจุภัณฑ์: ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ว่ามีรอยชื้นหรือน้ำหยดหรือไม่ กลิ่น: ข้าวบาร์เลย์ที่แห้งสนิทจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นธรรมชาติ หากมีกลิ่นอับชื้นหรือกลิ่นเหม็นเปรี้ยว แสดงว่าข้าวบาร์เลย์อาจมีปัญหาเรื่องความชื้น 3.2 สัมผัส: ลองจับเมล็ดข้าวบาร์เลย์ดู หากรู้สึกว่าเมล็ดมีความชื้น หรือติดมือ แสดงว่าข้าวบาร์เลย์อาจมีความชื้นสูง 4. อ่านฉลาก การอ่านฉลากผลิตภัณฑ์เป็นขั้นตอนสำคัญในการเลือกซื้อข้าวบาร์เลย์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่มีข้าวบาร์เลย์หลากหลายยี่ห้อและชนิดให้เลือกซื้อค่ะ ให้มองหาฉลากที่ระบุว่าข้าวบาร์เลย์ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่น อย. หรือมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ เพราะว่าข้าวบาร์เลย์ที่ปลูกในพื้นที่ที่มีการควบคุมคุณภาพ เช่น เกษตรอินทรีย์ จะมีโอกาสปนเปื้อนสารเคมีน้อยกว่า เลือกข้าวบาร์เลย์ที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ไม่ทำลายสารอาหาร เช่น การคั่วแบบเบาๆ หรือการอบแห้งที่อุณหภูมิต่ำ หลีกเลี่ยงข้าวบาร์เลย์ที่มีการเติมสารปรุงแต่ง เช่น สีสังเคราะห์ หรือสารกันบูดมากเกินไป เลือกข้าวบาร์เลย์ที่มีวันผลิตใกล้เคียงกับวันที่ซื้อ เพื่อให้ได้ข้าวบาร์เลย์ที่สดใหม่ ตรวจสอบวันหมดอายุให้ละเอียด และเลือกข้าวบาร์เลย์ที่มีอายุการใช้งานเหลืออีกนาน 5. ดมกลิ่น กลิ่นหอมเป็นธรรมชาติ คือ อีกหนึ่งอย่างที่บ่งบอกถึงคุณภาพของข้าวบาร์เลย์ที่ดีค่ะ การได้กลิ่นที่ถูกต้องจะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าข้าวบาร์เลย์นั้นสดใหม่และปลอดจากเชื้อราหรือแมลง กลิ่นของข้าวบาร์เลย์ที่ดี กลิ่นจะไม่ฉุนหรือแรงเกินไป แต่จะเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของข้าวบาร์เลย์ กลิ่นจะออกแนวธัญพืช หรืออาจมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายถั่ว ข้าวบาร์เลย์ที่ดีจะไม่มีกลิ่นอับชื้น กลิ่นหืน หรือกลิ่นเหม็นอื่นๆ ปนเปื้อน ข้าวบาร์เลย์ที่เก็บไว้นานเกินไปหรือถูกเก็บในสภาพที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดกลิ่นอับชื้นหรือกลิ่นเหม็นหืนได้ หากข้าวบาร์เลย์มีเชื้อรา จะทำให้เกิดกลิ่นอับชื้นหรือกลิ่นเหม็นเปรี้ยว การมีแมลงปนเปื้อนในข้าวบาร์เลย์ อาจทำให้เกิดกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นฉุน 6. พิจารณาชนิดของข้าวบาร์เลย์ ข้าวบาร์เลย์มีหลากหลายชนิด โดยแต่ละชนิดจะมีลักษณะและวิธีการนำไปใช้ที่แตกต่างกัน การเลือกชนิดของข้าวบาร์เลย์ให้เหมาะสมกับการปรุงอาหารนั้น จะช่วยให้เราได้เมนูอาหารที่อร่อยและตรงตามที่ต้องการมากยิ่งขึ้นค่ะ โดยชนิดของข้าวบาร์เลย์ที่พบได้ทั่วไป ได้แก่ ข้าวบาร์เลย์หุง: เป็นข้าวบาร์เลย์ที่ยังมีเปลือกหุ้มอยู่ ทำให้มีเส้นใยสูง มีรสชาติหอมและเคี้ยวหนึบ เหมาะสำหรับทำซุป สลัด หรือใช้เป็นส่วนผสมในอาหารจานหลัก ข้าวบาร์เลย์ปอกเปลือก: เป็นข้าวบาร์เลย์ที่นำเปลือกหุ้มออกไปแล้ว ทำให้มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มกว่าข้าวบาร์เลย์หุง เหมาะสำหรับทำข้าวต้ม โจ๊ก หรือใช้เป็นส่วนผสมในอาหารจานเดียว ข้าวบาร์เลย์มุก: เป็นข้าวบาร์เลย์ที่ผ่านการขัดสีจนเหลือแต่เนื้อใน ทำให้มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มที่สุดในบรรดาข้าวบาร์เลย์ชนิดอื่นๆ เหมาะสำหรับทำข้าวต้ม โจ๊ก หรือใช้เป็นส่วนผสมในของหวาน และการเลือกชนิดของข้าวบาร์เลย์ให้เหมาะสม มีดังนี้ เวลาในการปรุง: หากต้องการอาหารที่ปรุงได้รวดเร็ว ควรเลือกข้าวบาร์เลย์มุก เพราะมีเวลาในการต้มที่สั้นที่สุด เนื้อสัมผัส: หากชอบข้าวที่มีเนื้อสัมผัสหนึบและเคี้ยวสนุก ควรเลือกข้าวบาร์เลย์หุง แต่ถ้าชอบข้าวที่นุ่มละลายในปาก ควรเลือกข้าวบาร์เลย์มุก รสชาติ: ข้าวบาร์เลย์หุงจะมีรสชาติที่เข้มข้นและหอมกว่าข้าวบาร์เลย์ชนิดอื่นๆ เมนูอาหาร: เลือกชนิดของข้าวบาร์เลย์ให้เหมาะสมกับเมนูอาหารที่ต้องการปรุง เช่น หากทำซุป ควรเลือกข้าวบาร์เลย์หุง หากทำข้าวต้ม ควรเลือกข้าวบาร์เลย์มุก เป็นต้น 7. เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ การเลือกซื้อข้าวบาร์เลย์จากแหล่งที่น่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้าวบาร์เลย์ที่เราได้รับนั้นมีคุณภาพดี ปลอดภัย และได้มาตรฐาน แหล่งที่น่าเชื่อถือมักมีระบบการควบคุมคุณภาพที่ดี ทำให้มั่นใจได้ว่าข้าวบาร์เลย์ปราศจากสารเคมีตกค้าง หรือสิ่งปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แหล่งที่น่าเชื่อถือมักมีข้าวบาร์เลย์ให้เลือกหลากหลายชนิด ทั้งข้าวบาร์เลย์หุง ข้าวบาร์เลย์ปอกเปลือก และข้าวบาร์เลย์มุก และพนักงานของร้านค้าเหล่านี้มักมีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ จึงสามารถให้คำแนะนำในการเลือกซื้อได้อย่างถูกต้อง หากต้องการซื้อข้าวบาร์เลย์ในปริมาณมาก หรือต้องการเลือกซื้อด้วยตัวเอง ควรเลือกตลาดสดที่ได้รับการรับรองความสะอาดและปลอดภัยค่ะ 8. เลือกข้าวบาร์เลย์แบบออร์แกนิก ข้าวบาร์เลย์ออร์แกนิก คือ ข้าวบาร์เลย์ที่ปลูกโดยใช้วิธีการเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นวิธีการปลูกพืชที่เน้นความสมดุลของธรรมชาติ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี สารกำจัดศัตรูพืช และสารสังเคราะห์อื่นๆ ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ข้าวบาร์เลย์ออร์แกนิกปลอดจากสารเคมีตกค้างที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น ยาฆ่าแมลง สารกำจัดวัชพืช ซึ่งอาจก่อให้เกิดโรคต่างๆ ได้ในระยะยาว ข้าวบาร์เลย์ออร์แกนิกมักจะมีรสชาติที่หอมหวานและอร่อยกว่า การเลือกซื้อข้าวบาร์เลย์ออร์แกนิกเป็นการสนับสนุนเกษตรกรที่ทำการเกษตรแบบยั่งยืน ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ให้มองหาข้าวบาร์เลย์แห้งแบบออร์แกนิกค่ะ และทั้งหมดนั้นคือเคล็ดลับสำหรับเลือกซื้อข้าวบาร์เลย์แห้งค่ะ ที่โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนมีโอกาสได้เห็นและเลือกซื้อเฉพาะข้าวบาร์เลย์แบบหุงค่ะ โดยที่เลือกแบบนี้เพราะว่ามักนำมาใส่ในจานสลัดผักบ่อยๆ ที่ในบางครั้งข้าวบาร์เลย์แบบนี้ก็สามารถนำมาใส่ลงไปในน้ำเต้าหู้ได้ด้วยนะคะ สามารถเป็นเครื่องในน้ำเต้าหู้ได้เป็นอย่างดี ที่ผ่านมาข้าวบาร์เลย์แห้งที่ผู้เขียนซื้อประจำ มักมาในแบบที่บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกค่ะ ที่ก็ไม่เคยลืมดูเรื่องของวันหมดอายุ การจัดเก็บของทางร้าน ที่จะต้องหลีกเลี่ยงแสงแดด ดูถุงว่าต้องไม่ฉีกขาดค่ะ โดยเทคนิคต่างๆ ข้างต้น คุณผู้อ่านก็สามารถนำไปใช้ในการเลือกซื้อข้าวบาร์เลย์ได้นะคะ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกโดยผู้เขียนใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน https://food.trueid.net/detail/ZVb4Ree3ambj https://food.trueid.net/detail/Rjxr3bddk86q https://food.trueid.net/detail/PN7Z2m8L2LaM เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !