10 ทริคเลือกซูชิญี่ป่นในตลาด แบบไหนดี ถูกสุขลักษณะ น่าซื้อ อ่านกันเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ปัจจุบันอาหารตามกระแสความนิยมสามารถหาซื้อได้จากที่ตลาด ที่ก็มีร้านค้าขายได้ถูกสุขลักษณะและทำได้อร่อยหลายร้านค่ะ ซูชิเป็นอีกความนิยมของวัยรุ่นและคนที่ชอบความเป็นวัฒนธรรมญี่ปุ่นในอาหารชนิดนี้ ซึ่งต้องบอกว่าก็เป็นอาหารอีกหนึ่งอย่างที่ผู้เขียนได้มีโอกาสช่วยหลานเลือกซื้อค่ะ แล้วคุณผู้อ่านล่ะคะมีเคล็ดลับในการเลือกซื้ออาหารชนิดนี้ยังไงบ้าง พอจะมองภาพออกกันไหม? หรือยังไม่แน่ใจว่าที่เลือกซื้อมาตลอดทำได้ถูกต้องหรือเปล่า? แต่ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไปแล้วค่ะ เพราะในบทความนี้ผู้เขียนจะบอกต่อโดยละเอียดว่า ตกลงถ้าต้องเลือกซื้อซูชิในตลาดสดจากสักร้านที่ทำขายนั้น เราจะต้องสังเกตอะไรตรงไหนกันบ้าง โดยอ่านจบแล้วเนื้อหาในบทความนี้จะช่วยทำให้คุณผู้อ่านมองภาพออกมากขึ้น และสามารถเลือกซูชิที่ใช่และที่ชอบ แถมยังถูกสุขลักษณะด้วยนะคะ ดังนั้นต้องอ่านต่อให้จบเพื่อรู้ให้ได้ว่ามีเทคนิคดีๆ อะไรบ้างค่ะ เราถึงจะนำไปใช้ได้อย่างมืออาชีพนะคะ และถ้าอยากรู้แล้ว งั้นเรามาอ่านต่อกันเลยดีกว่าค่ะ 1. เลือกซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือและมีชื่อเสียง หลายคนยังมองภาพไม่ออกว่า การเลือกซื้อซูชิญี่ปุ่นในตลาดนับเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง เพราะเป็นอาหารที่ต้องอาศัยความสดใหม่ของวัตถุดิบและความสะอาดในกระบวนการทำเป็นอย่างมาก ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุด คือ การเลือกซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือและมีชื่อเสียง เพราะร้านค้าเหล่านี้มักจะคำนึงถึงคุณภาพของปลา ข้าวและส่วนประกอบต่างๆ เพื่อรักษาชื่อเสียงที่สั่งสมมา นอกจากนี้ร้านที่ดำเนินกิจการมานานและมีลูกค้าประจำจำนวนมาก ย่อมเป็นเครื่องยืนยันถึงสุขลักษณะที่ดีและความใส่ใจในการจัดเก็บวัตถุดิบ ทำให้เรามั่นใจได้ว่าซูชิที่ซื้อมาจะสดใหม่ อร่อย และมีคุณภาพค่ะ 2. สังเกตความสะอาดของร้านค้าและคนขาย สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลย คือ การสังเกตความสะอาดของร้านค้าและคนขายค่ะ เพราะซูชิเป็นอาหารที่ละเอียดอ่อน และหากไม่ถูกสุขลักษณะก็อาจทำให้เกิดความเจ็บป่วยจากอาหารเป็นสื่อได้ง่ายๆ ดังนั้นให้ลองมองดูว่าพื้นร้านสะอาดไหม มีเศษอาหารตกหล่นหรือเปล่า ภาชนะที่ใช้ใส่ซูชิดูใหม่และปราศจากคราบสกปรกหรือไม่ ที่สำคัญที่สุด คือ พนักงานขายควรสวมผ้ากันเปื้อน สวมหมวกคลุมผม และต้องใส่ถุงมือทุกครั้งที่หยิบจับหรือปั้นซูชิ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากมือโดยตรง หากร้านไหนดูแลเรื่องความสะอาดเหล่านี้ได้ดี ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าร้านนั้นใส่ใจในคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร ทำให้เรากินซูชิได้อย่างสบายใจค่ะ 3. ตรวจสอบอุณหภูมิของซูชิ การตรวจสอบอุณหภูมิของซูชิ เป็นเรื่องสำคัญมากที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ เพราะปลาดิบและส่วนประกอบอื่นๆ ในซูชิเป็นอาหารที่เสียได้ง่าย หากไม่ถูกเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม ให้ลองสังเกตดูว่าซูชิวางอยู่ในตู้แช่เย็น หรือมีน้ำแข็งรองอยู่ตลอดเวลาหรือไม่ เพราะความเย็นจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้ดี หากซูชิถูกวางทิ้งไว้นอกตู้เย็นนานๆ หรือน้ำแข็งละลายหมดแล้ว นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าซูชิอาจไม่สดแล้ว และเสี่ยงต่อการเกิดความเจ็บป่วยจากอาหารเป็นสื่อของสิ่งปนเปื้อนได้ง่ายๆ ค่ะ 4. พิจารณาความสดใหม่ของวัตถุดิบ การเลือกซื้อซูชิญี่ปุ่นในตลาดนั้น หัวใจสำคัญอยู่ที่ความสดใหม่ของวัตถุดิบค่ะ โดยเราต้องเป็นนักสังเกตตัวยงเลย! เริ่มจากปลาดิบที่ต้องมีสีสดใส ไม่ซีดจาง เนื้อแน่น ไม่ยุ่ยหรือมีเมือกผิดปกติ ที่สำคัญคือต้องไม่มีกลิ่นคาวจัดจนฉุนหรือกลิ่นแปลกๆ ส่วนข้าวซูชิควรมีสีขาวนวล เม็ดสวย ไม่แฉะหรือแข็งกระด้าง และมีกลิ่นหอมน้ำส้มสายชูอ่อนๆ ไม่ใช่กลิ่นเหม็นอับหรือเปรี้ยวปร่า สำหรับสาหร่ายที่ใช้ห่อก็ต้องแห้งกรอบ ไม่ชื้นหรือมีรอยเปื้อน ถ้าวัตถุดิบทุกอย่างดูดี มีสีสันสดใส และไม่มีกลิ่นคาว นั่นคือซูชิที่น่ากินและมีคุณภาพดีค่ะ 5. ดูเวลาที่ซูชิวางขาย การเลือกซื้อซูชิญี่ปุ่นในตลาด สิ่งหนึ่งที่เราควรสังเกตคือเวลาที่ซูชิวางขายค่ะ ลองมองหาซูชิที่เพิ่งนำออกมาวางใหม่ๆ หรืออยู่ในถาดที่เพิ่งเติมเต็ม เพราะซูชิที่ทำสดใหม่ย่อมมีรสชาติดีที่สุดและคุณภาพดีกว่า ส่วนซูชิที่วางกองอยู่นานๆ หรือเหลืออยู่น้อยชิ้นในถาด อาจเป็นของที่ทำไว้นานแล้ว ซึ่งความสดก็จะลดลงไปมาก และอาจเสี่ยงต่อการที่จุลินทรีย์จะเจริญเติบโตได้ง่ายขึ้น ดังนั้นการเลือกซูชิที่หมุนเวียนเร็วๆ จะช่วยให้เราได้ซูชิที่อร่อยและถูกสุขลักษณะมากกว่าค่ะ 6. เลือกซูชิที่มีการปกปิด นอกจากความสดใหม่ของวัตถุดิบแล้ว การเลือกซูชิที่มีการปกปิดอย่างเหมาะสม ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ เพราะซูชิที่วางขายควรถูกคลุมด้วยฝาพลาสติกใสหรือห่อด้วยพลาสติกอย่างมิดชิดเสมอ เนื่องจากการปกปิดนี้จะช่วยป้องกันสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง แมลงวัน หรือแม้กระทั่งละอองไอจากผู้คนรอบข้างไม่ให้ตกลงไปปนเปื้อนกับอาหารได้ ถ้าเห็นซูชิที่วางเปิดโล่ง ไม่มีอะไรปกคลุมเลย แม้จะดูน่ากินแค่ไหนก็ควรหลีกเลี่ยงไว้ก่อน เพื่อสุขอนามัยที่ดีและความปลอดภัยในการบริโภคของเราเองค่ะ 7. สังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบ นอกจากจะดูที่ตัวซูชิเองแล้ว การสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบร้าน ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามค่ะ ลองมองดูว่าร้านตั้งอยู่ในจุดที่สะอาด ถูกสุขลักษณะหรือไม่ มีขยะมูลฝอยกองอยู่ใกล้ๆ หรือมีน้ำสกปรกเจิ่งนองพื้นหรือไม่ หากสภาพแวดล้อมโดยรอบดูไม่สะอาด ก็อาจบ่งบอกได้ถึงความใส่ใจในสุขอนามัยโดยรวมของร้านนั้นๆ ค่ะ การเลือกซื้อซูชิจากร้านที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่สะอาดตา จะช่วยลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อนต่างๆ จากสิ่งแวดล้อมได้ และทำให้เรามั่นใจในความปลอดภัยของอาหารที่จะนำมาบริโภคมากขึ้นได้นะคะ 8. พิจารณาสินค้าที่ขายดี คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า สินค้าที่ขายดีหรือหน้ายอดนิยม เป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้เราได้ซูชิคุณภาพดีค่ะ งงใช่ไหม? นั่นเป็นเพราะว่าซูชิหน้าที่ขายดี มักจะมีการหมุนเวียนวัตถุดิบและทำซูชิใหม่ๆ ออกมาเติมตลอดเวลา ทำให้วัตถุดิบต่างๆ มีความสดใหม่กว่าซูชิหน้าที่ไม่ค่อยมีคนซื้อและอาจจะวางค้างไว้นานกว่า นอกจากนี้การที่สินค้าขายดีนั้น ก็เป็นเครื่องยืนยันในระดับหนึ่งว่ารสชาติอร่อยและเป็นที่ยอมรับของลูกค้าส่วนใหญ่ด้วยค่ะ 9. หลีกเลี่ยงซูชิที่มีสีหรือกลิ่นผิดปกติ สิ่งสำคัญมากคืออย่าเลือกซูชิที่มีสีหรือกลิ่นผิดปกติเด็ดขาดค่ะ หากเราเห็นว่าปลาดิบมีสีซีดจาง ดูไม่สดใส มีรอยช้ำหรือมีเมือกเหนียวๆ แทนที่จะเป็นเนื้อปลาที่ดูเด้งๆ นั่นคือสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าปลาไม่สดแล้ว ยิ่งถ้าได้กลิ่นคาวจัดจนฉุน หรือมีกลิ่นแปลกๆ ที่ไม่เหมือนปลาสด นั่นหมายความว่าซูชินั้นอาจเสียและไม่ควรนำมารับประทานเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เจ็บป่วยได้ง่ายๆ จึงต้องจำไว้เสมอว่า ถ้าไม่แน่ใจในสีและกลิ่น ให้เลี่ยงไว้เป็นดีที่สุดค่ะ 10. เลือกซื้อซูชิที่ทำสดใหม่ ณ จุดขาย หากเราเจอร้านค้าที่แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนการปั้นซูชิกันตรงหน้า จะเป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือที่สุดค่ะ เพราะเราสามารถเห็นได้ด้วยตาตัวเองว่า วัตถุดิบที่ใช้นั้นสดใหม่แค่ไหน และคนขายมีการดูแลเรื่องความสะอาดในระหว่างการทำอย่างไร เพราะซูชิที่ปั้นสดใหม่นั้นจะมีความสดอร่อยมากกว่าซูชิที่ทำทิ้งไว้เป็นเวลานานๆ อย่างแน่นอน และยังช่วยลดความกังวลเรื่องสุขอนามัยได้มาก ทำให้เราได้ทานซูชิที่ทั้งอร่อยและมีคุณภาพค่ะ ที่โดยสรุปแล้วการเลือกซื้อซูชิญี่ปุ่นในตลาดนั้น จุดสำคัญที่สุดคือเรื่องความปลอดภัยและสุขอนามัยค่ะ เพราะเป็นอาหารที่ต้องอาศัยความสดใหม่มากๆ เราจึงควรใช้วิธีการสังเกตหลายๆ อย่างร่วมกัน แทนที่จะพึ่งแค่ทริคใดทริคหนึ่งนะคะ ซึ่งการใช้หลายวิธีนี้ร่วมกันจะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าซูชิที่ได้มานั้นไม่เพียงแค่อร่อย แต่ยังคุณภาพดีและเหมาะสมต่อการบริโภค จึงทำให้เราสามารถเพลิดเพลินกับซูชิได้อย่างไร้กังวลค่ะ และที่นี่ผู้เขียนเองก็ได้นำทริคในบทความนี้มาประยุกต์ใช้เหมือนกันค่ะ แต่เป็นการบอกต่อให้หลานสาวทำ เพราะคนนี้เขาชอบซื้อซูชิที่ตลาดสดค่ะ เพราะราคาไม่แพงมาก ประกอบกับเป็นอาหารตามกระแสของคนวัยรุ่น ซึ่งมีร้านประจำที่ซื้อบ่อยค่ะ โดยการเลือกซื้อซูชิหน้าขายดีคือแนวทางแรกที่ผู้เขียนได้แนะนำ สำหรับเรื่องความสะอาดของร้าน คนขายและสุขอนามัยด้านสิ่งแวดล้อม ผู้เขียนช่วยประเมินก่อนเสมอค่ะ ร้านนี้เขาทำซูชิที่ตลาดในตอนนั้นเลย เปิดขายช่วงประมาณบ่ายสามโมงเย็น ซึ่งปกติเราสองคนไปตลาดกันประมาณ 4-5 โมงเย็น โดยซูชิที่ถูกทำไว้ก่อนหน้าก็มักถูกขายไปแล้ว เพราะร้านนี้คนนิยมพอสมควรค่ะ ซึ่งในหลายๆ ครั้งเราสองคนจะยืนรอซูชิชิ้นใหม่ที่เพิ่งทำเสร็จและนำมาวางให้เห็นกับตาก่อนเลือกค่ะ ยังไงนั้นคุณผู้อ่านก็อย่าลืมนำเทคนิคในนี้ไปเป็นแนวทางได้นะคะ หากข้อไหนยังไม่ข้าใจ สามารถกลับไปอ่านเพิ่มเติมได้อีกรอบค่ะ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไปค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปก โดย Vinicius Benedit จาก Pexels และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 8 ทริคเลือกขนมจีนน้ำยาแกงไก่ แบบไหนดี ทำใหม่ๆ ดูสะอาดน่าซื้อ 8 วิธีเลือกข้าวมันไก่ ดูยังไงดี น่าซื้อ และสะอาด ทริคเลือกน้ำพริกปลาทู ที่ตลาด แบบไหนสะอาด น่าซื้อ หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !