ช่วง Work From Home ต้องกินอาหารที่บ้านครบ 3 มื้อ เลยต้องทำอาหารกินเองซะหน่อย เมนูต้มๆ เก็บไว้กินได้หลายวัน เลยตอบโจทย์ วันนี้แนะนำเมนู รากบัวต้มกระดูกหมู และถั่วลิสง วัตถุดิบมีดังนี้ รากบัว 1 กิโลกรัม กระดูกหมู 1 กิโลกรัม เล้ง 0.3 กิโลกรัม ถั่วลิสง 0.5 กิโลกรัม เกลือ 1 - 2 ช้อนชา ซอสปรุงรส ตามความชอบ วิธีทำ ต้มเล้ง และ ต้มกระดูกหมู เพื่อให้น้ำซุปหวาน ราว 1 ชั่วโมง ถ้าหาซื้อเล้งไม่ได้ สามารถต้มกระดูกหมูอย่างเดียว สัดส่วน 1 กิโลกรัม ต่อรากบัว 1 กิโลกรัม น้ำซุปหวานเพียงพอแล้วจ้า แต่ถ้าเพิ่มเล้ง จะเพิ่มความหวาน และได้แทะเล้งกินเพลินๆได้อีก) ยกเล้ง และกระดูกหมูขึ้นมา แล้วกรองน้ำซุปกระดูกหมู แล้วพักไว้ เพื่อให้น้ำซุปใส ดูน่ากิน ต้มถั่วลิสง (ต้องแช่ข้ามคืน ถั่วลิสงจะสุกง่าย) ราว 2 ชั่วโมง ตักถั่วลิสงที่เกือบสุกขึ้นสะเด็ดน้ำ ถ้าชอบกินถั่วนิ่ม สามารถต้มต่อได้ตามความชอบ แต่ต้องเผื่อเวลาตอนไปตุ๋นรวมกันด้วย นำรากบัว ปลอกเปลือก หั่นเป็นแว่น นำกระดูกหมู เล้ง ถั่วลิสงต้ม และรากบัว ลงต้ม หรือตุ๋น ราว 1 ชั่วโมง ปรุงรสด้วยเกลือ และซอสปรุงรสตามชอบ เทคนิคความอร่อย เหยาะน้ำปลา ช่วยชูรสชาติ แต่ควรเลือกน้ำปลาคุณภาพดี จะไม่มีกลิ่นคาว ช่วยให้รสชาติกลมกล่อมขึ้น ***ถ้าอยากกินน้ำรากบัว ให้ต้มรากบัว ราว 1 ชั่วโมง แล้วตักรากบัวขึ้นไปรวมกับหม้อ กระดูกหมู แล้วต้มต่ออีกสักหน่อย จะได้รากบัวต้มกระดูกหมู ถั่วลิสง เหมือนเดิม ส่วนน้ำต้มรากบัว เติมน้ำตาลตามชอบ ได้น้ำรากบัวกินเพลินๆ อีก 1 อย่าง ประโยชน์ของรากบัว ที่แน่ๆ คือมีกากใย ช่วยในการย่อยอาหาร อีกสรรพคุณนึง จำได้ขึ้นใจ เพราะสมัยเด็กๆ อากง อาม่า ชอบต้มให้กินประจำ บอกว่าช่วยลดร้อนใน ส่วนคุณประโยชน์อย่างอื่น ลองค้นหาเพิ่มเติม ในอินเตอร์เน็ต ก็มีคุณอนันต์ สมควรต้มกินอย่างยิ่ง เหนือสิ่งอื่นใด มันอร่อย แค่นี้ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วล่ะ สำหรับสายหวานเปลี่ยนจากกับข้าว เป็นของหวานได้นะ รากบัวต้มน้ำตาล วิธีทำก็ง่ายมาก แค่ หั่นรากบัวเป็นแว่น ต้มจนสุก แล้วใส่น้ำตาลตามความชอบ ก็ได้รากบัวหวานๆ กินแช่เย็นก็อร่อยชื่นใจไปอีกแบบ ลองทำกันดูนะ