อะโวคาโด สุดยอดอาหารที่ขึ้นชื่อด้านคุณประโยชน์ต่อร่างกาย มาพร้อมรสชาติมันๆ คล้ายเนย เนื้อสีเขียวนุ่มนวลเนียน สามารถใช้กินได้หลากหลายวิธีไม่ว่าจะเอามาบดทาหน้าขนมปัง ใส่ในสลัดหรือจะทำอะโวคาโดอบใส่ไข่ก็ยิ่งอร่อยดีสุดๆ สำหรับใครที่ชอบกินอะโวคาโดหรือต้องการเพิ่มอะโวคาโดเข้ามาในเมนูอาหารเพื่อดูแลสุขภาพ วันนี้เรารวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอะโวคาโดมาฝากกัน จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลยค่ะ 1.อะโวคาโดจัดอยู่ในกลุ่มของ “ผลไม้” มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเม็กซิโกหลายคนอาจสงสัยว่าอะโวคาโดเป็นผักหรือผลไม้กันแน่? จากข้อมูลระบุว่าอะโวคาโดจัดอยู่ในกลุ่มของผลไม้ โดยมีถิ่นกำเนิดในประเทศเม็กซิโก กัวเตมาลาและหมู่เกาะเวสอินดีส ก่อนที่จะแพร่กระจายไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ด้วยความโดดเด่นของเนื้ออะโวคาโดที่มีรสชาติมันๆ เนื้อเนียนนุ่ม และมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างหลากหลาย 2.ประเทศไทยก็มีการเพาะปลูกอะโวคาโดเช่นเดียวกันถ้าใครเคยซื้ออะโวคาโดตาม supermarket จะรู้ได้เลยค่ะว่าอะโวคาโดมีราคาแพงมากๆ โดยเฉพาะอะโวคาโดสายพันธุ์นำเข้าจากต่างประเทศ แต่ก็มีข่าวดีเหมือนกันเพราะปัจจุบันประเทศไทยของเราก็สามารถปลูกอะโวคาโดและมีการจำหน่ายภายในประเทศเยอะมาก ทำให้มีราคาที่ถูกลง โดยสายพันธุ์หลักๆ ที่ขายในไทยคือ อะโวคาโดสายพันธุ์แฮสส์ (Hass) 3.เช็กความสุกของอะโวคาโดจากสีของขั้วปัญหาหลักๆ ของการกินอะโวคาโดคือเราแยกไม่ออกว่าแบบไหนคือยังอ่อน สุก หรือแก่ไป ส่วนตัวแรกๆ ที่เราเพิ่งหัดกินจับลูกไหนก็ยังแข็งโป๊กทุกลูกเลยค่ะ (555+) การเช็กความสุกของอะโวคาโดนั้นดูง่ายมาก โดยให้สังเกตจากสีของขั้วค่ะ ถ้าสียังเป็นสีเขียว แบบนี้คือยังไม่สุกไม่เหมาะกับการกิน ถ้าขั้วเป็นสีน้ำตาลอมเหลือง แบบนี้แปลว่าสุกพร้อมทาน แต่ถ้าหากบริเวณขั้วเป็นสีน้ำตาลเข้มมากๆ ค่อนไปทางดำหมายความว่าอะโวคาโดลูกนี้สุกงอมมากๆ เวลาผ่าเนื้อจะเหลวเละเลยค่ะ เพราะฉะนั้นแล้วถ้าเราอยากซื้ออะโวคาโดเพื่อเอาไปบ่มให้สุกละก็ให้เลือกลูกที่ขั้วยังเป็นสีเขียวจะเหมาะที่สุด หรือถ้าต้องการกินเลยก็ให้เลือกขั้วน้ำตาลอมเหลือง 4.วางอะโวคาไว้ใกล้ๆ กล้วยหอมสุก หรือ แอปเปิลสุก จะช่วยให้อะโวคาโดสุกไวขึ้นสำหรับวิธีการบ่มอะโวคาโดให้สุกนอกไปจากการวางที่อุณหภูมิห้องแล้วนั้น เรายังสามารถเร่งให้อะโวคาโดสุกเร็วมากขึ้นด้วยการเอากล้วยหอมสุกหรือแอปเปิลสุกมาวางไว้ข้างอะโวคาโด เนื่องจากผลไม้พวกกล้วย แอปเปิล มะเขือเทศ เวลาที่สุกจะปล่อยก๊าซ Ethylene ออกมาด้วยและจะส่งผลให้ผัก ผลไม้ที่อยู่ข้างๆ พลอยสุกตาม ซึ่งวิธีนี้ก็ได้ผลดีจริงๆ ค่ะ ช่วยเร่งอะโวคาโดที่เราซื้อมาผิดสุกขึ้นไว้เชียว แนะนำว่าควรบ่มสุกแค่เพียงที่เราต้องการทานนะคะ อย่าบ่มสุกพร้อมกันหลายๆ ลูกเพราะจะทานไม่ทันเอา 5.วิธีเก็บอะโวคาโดที่กินไม่หมดให้อยู่ได้นานขึ้น นอกจากซื้อแบบดิบมาและต้องบ่มจนสุกแล้วนั้น อีกหนึ่งปัญหาคือผ่าอะโวคาโดแล้วกินไม่หมดนั่นเองค่ะ ส่วนตัวเราจะกินทีละครึ่งปัญหาที่ตามมาคือถ้าเราเก็บไม่ดีอะโวคาโดจะกลายเป็นสีดำไม่น่าทาน วิธีเก็บที่ง่ายมากๆ คือหลังจากที่ผ่าครึ่งผลอะโวคาโดแล้วนั้นให้เก็บเมล็ดเอาไว้กับอีกครึ่งที่เหลือจากนั้นใช้น้ำมะนาวหรือน้ำมันมะกอกทาลงบางๆ ที่ผิวของอะโวคาโดแล้วจึงห่อด้วยพลาสติกแร๊พอาหารสีใส นำใส่กล่องทัปเปอร์แวร์และปิดให้สนิท การทำแบบนี้จะช่วยยืดอายุให้อะโวคาโดอยู่ได้นานขึ้นค่ะ 6.อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลากหลายประการในอะโวคาโดอุดมไปด้วยไขมันอิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่ช่วยลดปริมาณไขมันตัวร้าย (LDL) ช่วยป้องกันภาวะไขมันเลือดสูงอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมา เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดและสมอง ภาวะความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ในอะโวคาโดยังเป็นแหล่งของวิตามินอี โฟเลต โพแทสเซียมและมีกากใยอาหารสูง 7.ระวังแคลอรีของอะโวคาโดจริงอยู่ที่ว่าอะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายของเราเยอะมากๆ แต่ก็ต้องระมัดระวังแคลอรีของอะโวคาโดให้ดีเลยล่ะ อะโวคาโด 1 ลูก อาจให้พลังงานมากถึง 300-350 kcal จึงแนะนำให้กินอะโวคาโดแค่วันละครึ่งลูกก็เพียงพอแล้ว กินอะโวคาโดทุกวันได้ไหม? สำหรับคนที่มีสุขภาพแข็งแรงทั่วไปสามารถกินอะโวคาโดได้เป็นประจำโดยไม่ทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ต้องควบคุมอาหารกลุ่มไขมันสูงตัวอื่นๆ เพื่อไม่ให้เรากินไขมันต่อวันมากเกินไป ทั้งนี้เราแนะนำว่าให้หมุนเวียนกินอาหารกลุ่มไขมันดีเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่หลากหลายมากขึ้น เช่น น้ำมันมะกอก ถั่วเปลือกแข็ง เมล็ดเจีย ควินัว เนยแท้ เป็นต้น 8.ไม่ควรกินอะโวคาโดดิบหากผ่ามาแล้วพบว่าเนื้ออะโวคาโดดิบให้หลีกเลี่ยงการกินจะดีกว่าเพราะในอะโวคาโดดิบมีสารแทนนินในปริมาณมาก ทั้งยังมีรสชาติขม เมื่อเรากินอะโวคาโดดิบในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการท้องผูก ขับถ่ายยากตามมาได้สำหรับตัวเราเองก็ซื้ออะโวคาโดมาทานเองเป็นประจำเหมือนกันค่ะ โดยจะซื้อมาครั้งละ 2-3 ผล เลือกซื้อลูกที่มีขั้วไม่เขียวจัดเพื่อให้พอดีทานหลังจากวางบ่มไว้ไม่กี่วัน โดยเราจะกินอะโวคาครั้งละครึ่งลูก บางครั้งก็จะกินคู่กับแซนด์วิช บางครั้งก็จะกินคู่กับนมถั่วเหลืองและกราโนล่า อะโวคาโดนั้นดีต่อร่างกายหลายอย่างแถมยังช่วยควบคุมความหิวได้ดีเลยค่ะเพราะอะโวคาโดมีปริมาณกรดไขมันชนิดดีอยู่เยอะเมื่อเรากินเข้าไปก็จะช่วยทำให้อยู่ท้องได้นาน นอกจากนี้ยังเป็นผลไม้เนื้อนิ่มที่ย่อยและดูดซึมง่าย สามารถทานได้ทุกเพศทุกวัยภาพหน้าปก ภาพที่1 โดย Melpomenem จาก canvaภาพในเนื้อหา ภาพที่1 โดย pvproductions จาก freepik ภาพที่2 โดย Birol Bali จาก canva / ภาพที่3-4 โดย ผู้เขียน หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !