เนื่องด้วยที่วันนี้เป็นวันคริสต์มาส เรากับแฟนจึงใช้เวลานี้ไปเฉลิมฉลองด้วยกิจกรรมที่เราแสนโปรดปราน (และมั่นใจว่าเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ผู้อ่านหลายท่านก็โปรดปรานเช่นเดียวกัน) นั่นก็คือ การหาของอร่อยกิน นั่นเองครับ แต่ช่วงเทศกาลใกล้วันหยุดยาวแบบนี้ ร้านอาหารต่าง ๆ ก็ได้ออกโปรโมชั่นรวมถึงเมนูที่หลากหลายเพิ่มขึ้น เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจมากขึ้น แต่ค่อนข้างยากสำหรับเรา เราเลยเลือกที่จะเปิด List รายการร้านอาหารต่าง ๆ ที่เราจดไว้และยังไม่มีโอกาสได้ลองชิมดู เพื่อมาดูว่าร้านไหนจะตอบโจทย์บ้าง จนสุดท้ายผลลัพธ์ก็มาตกอยู่ที่ร้านบุฟเฟ่ต์ชาบูแห่งหนึ่งที่เราอยากจะไปลองชิมมาตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลองสักที และความพิเศษในช่วงเวลานี้ก็คือ ถ้าไปทานตอนนี้ สามารถสั่งซูชิได้ไม่อั้น! ซึ่งตากจากช่วงปกติที่ทางร้านจะแบบเป็น 2 Set ด้วยกัน คือ Set A และ Set B ซึ่งนั่นหมายความว่าตอนนี้เราสามารถเลือกแบบไหนก็ได้ทั้งสองแบบนั่นเองครับ อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าเป็นนักกินทั้งหลายคงจะรู้กันแล้วใช่ไหมครับ ว่าผมกำลังพูดถึงร้านไหนอยู่ ใช่แล้วครับ ร้านที่ว่านี้ก็คือ Shibuya Shabu นั่นเอง Shibuya Shabu ที่เรามากินวันนี้เป็นสาขาเอกมัย ตั้งอยู่ระหว่างซอยเอกมัย 26 และ 28 มีที่จอดรถกว้างขวาง (จุดสังเกตง่าย ๆ คือตั้งอยู่ในโครงการเดียวกับ Kingkong Mongkok และ Aoringo) และสำหรับวิธีการเดินทางที่เราอยากแนะนำก็คือ ถ้าใครนำรถยนต์ส่วนตัวมาก็สามารถนำมาจอดที่ลานจอดรถของทางโครงการได้เลย หรือถ้าใครมาด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เราขอแนะนำว่าให้นั่ง BTS มาลงที่สถานีเอกมัย แล้วต่อรถกะป้อ รถเมล์ หรือวินมอเตอร์ไซค์เข้าซอยมา จะอยู่ช่วงท้าย ๆ ซอย หาร้านไม่ยากอย่างที่คิดครับ มาดูที่ส่วนของอาหารกันบ้าง ทางร้านจะมี เนื้อสัตว์ ทั้งหมด 4 ประเภทฮะ ได้แก่ เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ และเนื้อปลา เริ่มกันที่ประเภทแรกก่อน นั่นก็คือ เนื้อวัว ทางร้านมีให้เลือกด้วยกัน 3 ส่วน คือ Jyou Karubi, Karubi และ Rampu ต่อมาเป็นทางด้านเนื้อหมูซึ่งทางร้านจะเลือกใช้ เนื้อหมูคุโรบูตะ เป็นหลัก ซึ่งมีให้เลือกด้วยกันสองส่วนคือ สันคอ Roru และ สามชั้น Baraniku นอกจากนี้ก็มีทั้ง ไก่บด ไข่ไก่สด และ เนื้อปลากระพงขาว ที่เราชอบมากเป็นพิเศษ สำหรับน้ำซุป ทางร้านมีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบก็คือ น้ำซุปดำตามฉบับสุกี้ยากี้ น้ำซุปใสแบบชาบูชาบู และน้ำซุปหางวัวที่รสชาติออกเค็ม ๆ มัน ๆ เท่านั้นยังไม่พอ มีเนื้อสัตว์ก็ต้องมีเนื้อผักด้วย ทางร้านมีให้เลือกเยอะชนิดที่ว่าเหมือนยกฟาร์มผักทั้งสวนมาไว้ที่นี่จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผักใบเขียวนานาชนิด หรือแม้กระทั่งเห็ดต่าง ๆ ก็มีให้เลือกตักกันได้ตามใจชอบ และดั่งที่คำโบราณได้กล่าวไว้ว่า 'กินคาว ไม่กินหวาน สันดานไพร่' ทางร้านคงจะเห็นดีไม่ใช่น้อยกับคำนี้ จึงได้จัดรายการขนมหวานแบบชนิดที่ว่าถ้ากินหมดตู้ ค่าน้ำตาลในเลือดคงต้องพุ่งกระฉูดแน่ ๆ เพราะมีให้เลือกเยอะเหลือเกิน ดั่งที่เห็นในภาพ สรุปแล้วมื้อนี้ โดนกันไปคนละ 748 NET ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ถ้าเปรียบเทียบกับคุณภาพและปริมาณที่ได้รับ ผมว่าไม่แพงจนเกินไปครับ สำหรับใครที่ต้องการไปเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสต่าง ๆ หรือพาคนรักไปทานข้าวมื้อค่ำ ผมคิดว่าร้านนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้ร้านอื่น ๆ เลยนะครับ ยังไงถ้าทุกท่านมีโอกาสได้ไปลองร้านนี้ หรือได้แวะผ่านหน้าร้าน อย่าลืมที่จะเข้าไปลองทานนะฮะ