เจ็บปวดกันมาเท่าไหร่ กับการเลือกซื้อหาอะโวคาโด มาแล้วปรากฏว่าอะโวคาโดไม่สุก ผ่าออกมาแล้วแข็งๆ ทานไม่อร่อย หรือบางทีเนื้อก็แอบเละไปเลยจนทานไม่ทัน เสียเงินกันไปเปล่าๆ วันนี้เรามาพร้อมกับ 3 เทคนิคเลือก อะโวคาโด แบบง่ายๆ ให้ได้อะโวคาโดแบบสุก อร่อย เนื้อนุ่มๆ กำลังดี เหมาะกับการรับประทาน 3 เทคนิคเลือกอะโวคาโด ให้สุก อร่อย อะโวคาโดสายพันธุ์แฮส เริ่มแรกเพื่อให้การเลือกซื้ออะโวคาโดของเราเป็นไปอย่างราบรื่น เรื่องแรกๆ ที่อยากให้เพื่อนๆ ตั้งธงเอาไว้เลยก็คือ การเลือกซื้ออะโวคาโดจากแหล่งขายที่ดี หมายถึงมีการนำเอาอะโวคาโดแบบสดใหม่มาวางจำหน่าย ผลอะโวคาโดจะต้องได้รูปทรงสวยงาม ไม่บิดเบี้ยว ไม่มีรอยปริแตกหรือรอยช้ำ หลีกเลี่ยงการซื้อจากห้าง ร้าน ที่ของหมุนเวียนไม่เร็วนัก เพื่อหลีกเลี่ยงอะโวคาโดที่คุณภาพไม่ดี อะโวคาโดเก่าเก็บมาแล้วหลายวัน โดยให้เราเลือกซื้อตามระยะเวลาการทานด้วย ถ้าต้องการทานเลยในวันสองวัน ก็ให้เลือกซื้ออะโวคาโดที่เข้าระยะสุกพร้อมทานไปเลย หรือถ้าอยากซื้อมาทานได้นานๆ ก็เลือกซื้อผลที่ยังไม่เข้าระยะสุก สังเกตได้จากสีของเปลือกที่จะเป็นสีเขียวสดๆ หน่อย แล้วเอามาบ่ม โดยวิธีการบ่มก็ทำได้ง่ายๆ ให้เอากระดาษมาห่อ วางเอาไว้ในอุณหภูมิห้อง ไม่ร้อน ไม่เย็นเกินไป หมั่นเช็กความสุกทุกๆ วัน โดยส่วนใหญ่อาจใช้เวลาในการบ่มประมาณ 3-7 วัน แล้วอะโวคาโดสุกดูยังไง? มากันที่หัวข้อหลักบ้าง สำหรับ 3 เทคนิคดดูอะโวคาโด ที่เราสังเกตแบบง่ายๆ ไม่ต้องมีหลักการมากมาย คือ เช็กสีเปลือก เลือกสีน้ำตาลๆ ไปจนถึงน้ำตาลอมดำ ยิ่งดำมากแปลว่ายิ่งสุกมาก (แต่อย่าปล่อยทิ้งไว้ให้ผลสุกมากๆ จนเละ) ลองกดเนื้อเบาๆ ย้ำว่ากดแค่เบาๆ เท่านั้นนะ ป้องกันผลช้ำ ถ้ายิ่งสุกมากเนื้ออะโวคาโดก็จะยิ่งอ่อนนุ่ม ถ้ากดแล้วเนื้อยังเด้งๆ สู้มือ ให้บ่มต่อไปแล้วหมั่นเช็กรายวัน แต่ถ้ากดแล้วสัมผัสได้ถึงความนุ่ม ไม่เด้งสู้นิ้ว ถือว่าใช้ได้ เช็กสีที่ขั้วด้านบน ยิ่งขั้วเป็นสีน้ำตาลยิ่งสะท้อนถึงระดับความสุก ถ้าขั้วสีเขียวสดเลยแปลว่ายังไม่สุก แต่ถ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ ไปจนถึงน้ำตาลจัดๆ เลย แปลว่าสุกได้ที่ ยกตัวอย่างอะโวคาโด สายพันธุ์แฮสนี้ ยังไม่สุกดีนัก กดแล้วเนื้อยังเด้งสู้มืออยู่ สังเกตสีเปลือกที่เป็นสีน้ำตาล แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ออกเขียวๆ ยิ่งพลิกดูขั้วจะยิ่งชัดเพราะขั้วยังมีความเขียวสดอยู่ ลองเปรียบเทียบกับผลนี้ สีเปลือกของอะโวคาโดไปทางน้ำตาลอมดำๆ ไปเลย เปลือกด้านนอกยังมีความมันวาวนะ กดที่ลูกเบาๆ เนื้อนุ่มแล้ว พลิกดูบริเวณขั้วเป็นสีน้ำตาล สื่อว่าเนื้อสุกแล้ว อย่างถ้าสีขั้วและเปลือกเข้มๆ แบบนี้ เนื้อจะออกไปทางนุ่มๆ ถ้าใครอยากได้เนื้อที่ไม่นุ่มมากก็ให้เลือกสีที่อ่อนลดลงมาหน่อย ผ่าออกมา เนื้ออะโวคาโด สุก นุ่ม แบบที่ต้องการเลย ไม่มีเสี้ยวไหนของลูกที่เนื้อยังแข็ง สามารถคว้านเนื้ออะโวคาโดอกมาทานได้จนเกลี้ยง จัดเมนูมาเลยไม่รอท่า คว้านเนื้ออะโวคาโดออกมาตีผสมเข้ากับไข่ต้ม 1 ฟอง ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ขยี้ทุกอย่างให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นปิ้งขนมปังให้กรอบ แล้วปาดอะโวคาโดที่เราเตรียมไว้ลงไป พอเราสามารถเลือกอะโวคาโดในระดับความสุกที่ใช่ได้ ก็จะช่วยให้เมนูอะโวคาโดของเราอร่อยมากขึ้นด้วยนั่นเองจ้า ใครที่กำลังมองหาวิธีเลือกอะโวคาโดสุกอยู่ ลองเอา 3 เทคนิคนี้ไปปรับใช้กันได้เลย หน้าปก และ เนื้อหา โดย ผู้เขียน หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !