สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านค่ะ วันนี้นางสาวปลาตีนมีเมนูพิเศษที่ไม่สามารถหาทานได้ตามปกติทั่วไป ความพิเศษนั้นอยู่ที่การเลือกนำวัตถุดิบที่จัดว่าเป็นของคาวมาประยุกต์เป็นของหวาน แค่คิดก็งงแล้วว่าจะทำได้อย่างไร ถ้าอยากรู้ว่าเจ้าเมนูพิเศษนั่นคืออะไร และมีกรรมวิธีการทำซับซ้อนยุ่งยากหรือไม่ ขอเชิญทุกท่านมาร่วมอ่านบทความตอน ตูปะซูตง หมึกห่มข้าวเหนียว ตูปะซูตง เป็นภาษามาลายูท้องถิ่นซึ่งนิยมใช้สื่อสารกันของคนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี นราธิวาส และยะลา โดยตูปะ แปลว่าข้าวเหนียว ซูตง แปลว่า หมึก เมื่อรวมกันแล้วมีความหมายว่า หมึกยัดไส้ข้าวเหนียวนั่นเองค่ะ แค่ได้ยินชื่อก็ทำให้รู้สึกถึงมนต์เสน่ห์ของปลายด้ามขวานกันเลยทีเดียว ถ้าคุณผู้อ่านได้มีโอกาสมาเยือนสามจังหวัดชายแดนใต้ จะเห็นได้ว่าที่นี่เป็นสังคมพหุวัฒนธรรม อาหารส่วนใหญ่มักจะได้รับอิทธิพลมาจากประเทศมาเลเซีย ตูปะซูตงก็เช่นเดียวกัน หลาย ๆ คนที่เห็น หรือได้ลิ้มรสเมนูนี้ คราแรกคงแปลกใจนักว่า ทำไมหมึกซึ่งจัดเป็นวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารคาว ถึงมาแปรรูปเป็นอาหารหวานได้ แล้วรสชาติจะเข้ากันได้หรือเปล่า แต่คำถาม หรือความสงสัยเหล่านั้นจะหมดไป ถ้ามีโอกาสได้ลองชิมเจ้าเมนูพิเศษนี้ซักครั้ง คุณผู้อ่านคงใคร่รู้กันแล้วใช่ไหมคะ ว่าวิธีการทำเป็นอย่างไร งั้นเรามาเตรียมวัตถุดิบ และเครื่องปรุงไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ 1. หมึกกล้วย จำนวน 1 กิโลกรัม 2. น้ำตาลแว่น หรือน้ำตาลปึกก็ได้ค่ะ จำนวน 2 แว่น 3. หัวกะทิ และหางกะทิ จำนวน 0.5 กิโลกรัม 4. เกลือเม็ด จำนวน 2.5 ช้อนชา 5. ใบเตยมัดให้เข้ากัน จำนวน 2 ใบ 6. ข้าวเหนียวที่แช่น้ำทิ้งไว้ 5 ชั่วโมง จำนวน 200 กรัม 7. ไม้สำหรับกลัดหมึก 8. ผงปรุงรส วิธีการทำ 1. ล้างหมึกให้สะอาดด้วยน้ำซาวข้าวของข้าวเหนียว จากนั้นจึงตัดตาหมึกออก แยกหัว และตัวให้เรียบร้อย พักให้สะเด็ดน้ำ 2. ตั้งกระทะ เทหัวกะทิลงไป ตามด้วยข้าวเหนียว น้ำตาลครึ่งแว่น และเกลือ จากนั้นผัดให้เข้ากัน จนข้าวเหนียวเริ่มพอง แต่อย่าให้สุก นำมาตั้งให้เย็น 3. เมื่อข้าวเหนียวจากข้อ 2 เย็นแล้ว นำมายัดในตัวหมึก อย่ายัดแน่นจนเกินไป 4. นำส่วนหัวหมึกมาปิด โดยใช้ไม้กลัด แบบกากบาท เพื่อไม่ให้ข้าวเหนียวล้นออกมาตอนนำไปต้ม 5. เทหางกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาลหนึ่งแว่นครึ่ง ใบเตย เคี่ยวโดยใช้ไฟอ่อน พอกะทิใกล้สุกใส่เกลือ และผงปรุงรส ค่อ ๆ คนจนกะทิสุกได้ที่ 6. จากนั้นจึงนำหมึกที่ยัดไส้ข้าวเหนียวใส่ลงในข้อ 5 ปิดฝา และต้มต่อไปจนน้ำกะทิใกล้เหลือ 1 ใน 3 และข้าวเหนียวสุกได้ที่ 7. ตักหมึกใส่จาน ราดน้ำกะทิที่เคี่ยวจากข้อ 6 พร้อมรับประทาน เมื่อรับประทานคำแรก จะรู้สึกถึงความหนึบของหมึก และความหอมหวานของกะทิที่ยัดไส้ในหมึก ยิ่งเมื่อทานพร้อมน้ำกะทิควบคู่ด้วยแล้ว บอกเลยค่ะว่ามันคือที่สุดของความอร่อย เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างของคาว และของหวาน พูดแล้วผู้เขียนขอตัวไปรับประทานตูปะซูตงก่อนนะคะ เรื่องและภาพโดย.....นางสาวปลาตีน