เมื่อต่อต้านไม่ไหว..ก็จงเข้าร่วมกับ ช็อกโกแลต ดูไบ (Chocolate Dubai) The Rolling pinn ช็อกโกแลตสอดไส้คูนาฟ่า พิสตาชิโอ ตัวดังมาแรงสุดๆ จากดูไบที่หลายๆ คนอยากลิ้มลอง วันนี้เราลองสั่งมาและชิม (จนหมดก้อน) เป็นที่เรียบร้อยแล้วเลยอยากหยิบยกความประทับใจมาฝากกันจ้า วิธีการสั่ง ช็อกโกแลต ดูไบ (Chocolate Dubai) The Rolling pinn หากใครวางแผนอยากสั่งซื้อช็อกโกแลต ดูไบ ของ The Rolling Pinn สามารถซื้อได้ทั้งหมด 3 ช่องทางหลักๆ ได้แก่ สาขาหน้าร้าน ทางเว็บไซต์และแอปสั่งอาหารออนไลน์ เดลิเวอรี่ (Grab Food) ที่เรากดสั่งมาจะเป็นการสั่งผ่าน Grab กฎกติกาการสั่งไม่ยากค่ะ สามารถสั่งได้ 2 รอบ คือ เวลา 08.00 น. และ 16.00 น. สั่งได้รสชาติละ 1 ชิ้น สูงสุดไม่เกิน 2 ชิ้นต่อ order โดยตัวช็อกโกแลตดูไบของทางร้านจะมี 2 รสชาติ คือ Dubai Milk Chocolate (550 บาท) และ Dubai Dark Chocolate (550 บาท) (ส่วนอีกชิ้นที่ขายดีจะเป็น Dubai Cake Box) ทริกคือให้กดเข้าไปสั่งตอนเวลาที่เปิด order ทันทีจะได้ไม่ต้องเสียเวลารีเฟรชหน้าแอปฯ ใหม่ตอนร้านเปิดให้สั่ง เลือกรสชาติให้แม่นแล้วกดสั่งให้ไวเพราะวันที่เราสั่งของก็ยังหมดภายในเวลาไม่เกิน 3 นาทีเท่านั้นเองค่ะ (สู้ตายกันสุดๆ 555) รีวิว ช็อกโกแลต ดูไบ (Chocolate Dubai) The Rolling pinn คูนาฟ่าคืออะไร เข้าช่วงการรีวิวกันดีกว่า ช็อกโกแลต ดูไบ ที่เป็นกระแสกันตอนนี้ตัวช็อกโกแลตด้านนอกก็ไม่ได้แตกต่างไปจากช็อกโกแลตทั่วๆ ไปมากนัก แต่ความเด่นจะอยู่ที่เส้นคูนาฟ่า (Kunafa Noodles) ที่อัดแน่นอยู่ด้านใน โดยเส้นคูนาฟ่าเป็นวัตถุดิบสำหรับการทำขนมของประเทศแถบตะวันออกกลางที่ทำมาจากแป้งสาลีผสมแป้งข้าวโพดแต่งรสด้วยเกลือ น้ำตาล ตัวเส้นจะเป็นเส้นเล็กๆ ขนาดประมาณเส้นหมี่ขาวในก๋วยเตี๋ยวแต่สัมผัสจะออกหวานๆ กรอบๆ คล้ายกับโรตีสายไหมเพราะฉะนั้นเวลาที่เคี้ยวมันจะ crumble ทั่วปาก ตัดเข้าของที่สั่งมา ใช้เวลาในการรอออเดอร์ประมาณ 30-40 นาที น้องมากับถุงกระดาษ The Rolling Pinn สวยงาม ด้านในเป็นกล่องช็อกโกแลต ดูไบมาพร้อมกับน้ำแข็งแห้งเพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิ เราสั่งมา 1 ชิ้น เป็นรสชาติ Dubai dark Chocolate พิสตาชิโอ (550.- บาท) ความดีงามคือเขาใช้ช็อกโกแลตเข้มข้นมากถึง 62.5% เลย ส่วนวิธีการกินช็อกโกแลต ดูไบ ให้อร่อยที่ทางร้านแนะนำคือ เอามาแช่เย็นก่อนกินเพื่อให้ได้รสชาติ หวาน เย็น สดชื่น หรือจะเอาเข้าไมโครเวฟสัก 15 วินาที เพื่อให้ช็อกโกแลตมีความเยิ้มๆ เบาๆ เปิดออกมาด้านในเจอชิ้นช็อกโกแลต ดูไบ รูปหัวใจที่มีการสาดสีเขียวๆ ซึ่งสื่อถึงพิสตาชิโอที่เป็นไส้ด้านใน ขนาดของชิ้นช็อกโกแลต ดูไบ The Rolling Pinn เล็กกว่าฝ่ามือเล็กน้อย ว่าแล้วก็หักกลางทันทีตัวช็อกโกแลตด้านนอกเนื้อค่อนข้างหนา รสชาติออกขมนำตามมาด้วยหวานกลางๆ เป็นรสชาติที่เราชอบเลย ส่วนตัวไส้ด้านในจะเห็นเส้นคูนาฟ่าชัดเจนเลยค่ะ มองเผินๆ เราว่าแอบคล้ายหมี่กรอบแต่เส้นจะฝอยๆ กว่า รสชาติไส้คูนาฟ่าด้านในเขาใส่พิสตาชิโอมาด้วยดังนั้นแล้วจะได้ความเค็มๆ มันๆ ของถั่วพิสตาชิโอ เคล้าเข้ากับความหวานเบาๆ ของเส้นคูนาฟ่าบวกกับสัมผัสที่กรุบกรอบ เคี้ยวสนุก รสชาติถือว่าทำมาดีเลยค่ะไม่หวานเจี๊ยบ เป็นความหวานแบบกลางๆ พอได้รสชาติเค็มๆ มันๆ ของพิสตาชิโอเสริมเข้ามาด้วยก็ช่วยทำให้กินได้เรื่อยๆ ไม่หวานแสบไส้จนต้องยอมไปก่อน หากสรุปว่าช็อกโกแลต ดูไบ The Rolling Pinn ฟินไหม อร่อยหรือเปล่า? คำตอบคืออร่อยค่ะ ไส้คูนาฟ่าที่สอดไส้มามีความแปลกใหม่ดีแต่ส่วนตัวสำหรับเราไม่ได้มองว่าอร่อยหวือหวามากมายขนาดนั้น สั่งมาลองชิมไม่ผิดหวัง ใครชอบก็สั่งกันต่อยาวๆ แต่เราอาจจะสั่งไม่บ่อยนักเพราะราคาค่อนข้างแรงเลยทีเดียว (555+) นอกไปจากชิ้นเล็กๆ เขายังรับ order เค้กวันเกิด Dubai Chocolate ด้วยนะ สนนราคาก้อนละประมาณ 2,290 บาท ซึ่งเป็นเค้กก้อนใหญ่เลยจ้า สำหรับรีวิวช็อกโกแลต ดูไบ ไส้คูนาฟ่า จาก The Rolling Pinn ก็ต้องขอจบแต่เพียงเท่านี้ ไว้โอกาสหน้าจะหยิบขนมอร่อยๆ ที่กำลังเป็นกระแสมาฝากกันอีกครั้งน้าา ภาพหน้าปก และ ภาพในเนื้อหาทั้งหมด โดย ผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !