ผมได้รับการตรวจพบว่ามี "ความดันโลหิตสูง" มาตั้งแต่ตอนอายุ 40 ต้น ๆ ในระหว่างการตรวจร่างกายประจำปี เขามีการบันทึก "กรุณาไปพบแพทย์" ต่อท้ายผลการตรวจมาด้วย แต่ผมก็ไม่ได้ไปสักที จวบจนอายุ 52 เท้าบวม ต้องเข้าเฝือกกันเลยทีเดียว... เป็นเก๊าต์ครับ ไม่เกี่ยวกับความดัน แต่ทำให้ต้องไปพบแพทย์ แล้วก็โดนรักษาความดันไปด้วย โดยหมอให้ทานยาควบคุมความดัน เคยถามเหมือนกันนะว่า ถ้าในอนาคตความดันกลับมาเป็นปกติแล้วจะมีโอกาสหยุดยาได้บ้างไหมครับ หมอตอบเสียงดังฟังชัดว่า "ความดันสูง ทานยาแล้วต้องทานตลอดไปครับ" (เหมือนที่อ่านเจอในเน็ตเปี๊ยบ) ผมก็เลยทานยามาเรื่อยไป.... ภาพโดย Steve Buissinne จาก Pixabay จวบจนเออร์ลี่รีไทร์จากราชการเมื่ออายุ 57 เอาละซี การจ่ายตรงเกิดการสะดุด เพราะออกจากราชการระบบก็เลยเกิดการรีเซ็ต ต้องรอให้ระบบกลับมาทำงานอีกครั้งก่อนจึงจะสามารถใช้วิธีจ่ายตรงในการรักษาที่โรงพยาบาลได้อีกครั้ง เงินน่ะใช่ว่าจะไม่มี... เพียงแต่เสียดายที่ต้องควักกระเป๋าจ่ายไปเท่านั้น แล้วตัวเองก็เริ่มแก่แล้ว รายได้จากบำนาญก็ได้แค่ครึ่งเดียวของเงินเดือนที่เคยได้รับ ที่หารายได้มาจากทางอื่นก็ยังได้น้อย และไม่ค่อยแน่นอน เพื่อความปลอดภัย (ทางการเงิน) ก็เลยตัดสินใจรอให้ระบบจ่ายตรงกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง แล้วค่อยไปหาหมอ ก็หลายเดือนอยู่เหมือนกันนะ รู้สึกว่าจะ 6 เดือน ระหว่างนี้ยาที่ได้มาก็ย่อมจะหมดลง พอระบบเรียบร้อย กลับไปพบหมอได้ ตอนตรวจคัดกรองพบว่า "ความดันเป็นปกติ" เฮ้ย! เป็นไปได้ไง... ภาพโดย Klaus Hausmann จาก Pixabay ไม่รู้มันปกติมานานแล้วยัง เพราะก่อนหน้านี้ทานยาควบคุมความดันอยู่ ผลการวัดก็ย่อมจะออกมาเป็นปกติอยู่แล้ว ถ้าระบบไม่ได้เกิดการรีเซ็ตก็คงต้องทานยาไปจนตาย เข้าไปพบคุณหมอ คุณหมอจับวัดความดันอีกครั้ง พบว่ากลับมาเป็นปกติแล้วจริง ๆ จึงยอมให้ "หยุดยา" ได้ เรื่องของเรื่องไม่ใช่จู่ ๆ ความดันผมจะกลับมาเป็นปกติได้เองหรอกนะครับ หากแต่เกิดจากคำแนะนำของคุณหมอท่านเดียวกันนี้เมื่อก่อนหน้านี้ต่างหาก คือ มีอยู่วันหนึ่งท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านไปประชุมที่อิตาลีมา ได้ทานน้ำมันมะกอกแล้วดีมากเลย โล่งเลย มันจะช่วยกำจัดไขมันตัวร้าย ทำให้เส้นเลือดเราสะอาดขึ้น เมื่อเส้นเลือดสะอาดและโล่ง เลือดก็จะไหลเวียนได้ดีและคล่องขึ้น แล้วความดันก็จะพลอยลดลงด้วย ภาพโดย Steve Buissinne จาก Pixabay ผมจึงลองหาซื้อน้ำมันมะกอกมาทาน วันละช้อนก่อนอาหารเช้า เป็นน้ำมันมะกอกแบบที่ทานได้นะครับ ถ้าแบบผัดเขาจะผสมสารให้มันทนความร้อนได้มากขึ้นก่อนที่จะเกิดการแตกตัวเป็นควัน ผมทานน้ำมันมะกอกหมดไปสองสามขวดก่อนเออร์ลี่ จึงเห็นได้ว่าเป็นเพราะน้ำมันมะกอกนี่เองที่ทำให้ผมสามารถเลิกทานยาควบคุมความดันได้ ตอนนี้ก็ชักห่าง ๆ จากการทานน้ำมันมะกอกแล้ว แต่ความดันยังดีอยู่เสมอ เมื่อวานวัดตัวบนได้แค่ 126 มาถึงตอนนี้หยุดยามาได้ 5 ปีแล้ว ยังแจ๋วอยู่ สำหรับน้ำมันมะกอกที่ดื่มหรือจิบได้นี่ ส่วนมากจะมีฉลากสีเขียว ขวดสีเขียว และตัวน้ำมันสีเขียว และมีคำว่า Virgin (แรกสุด, เวอร์จิน) หมายถึงน้ำมันที่ผลิตด้วยวิธีการทางกลเท่านั้น โดยไม่ใช้สารเคมี ซึ่งก็ยังแบ่งออกเป็นเกรดย่อย ๆ อีก เช่น Extra virgin (เอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน), Virgin, Ordinary virgin และ Lampante virgin ตามคุณภาพ ที่ผมใช้ดื่มเป็นตัว Extra virgin ส่วนจะเป็นยี่ห้ออะไรนั้น ท่านลองไปหาดูตามซุปเปอร์มาร์เก็ตได้ตามใจชอบเลยครับ หมายเหตุ: - เรื่องนี้ผมพูดถึง "ความดัน กับ น้ำมันมะกอก" โดยเฉพาะ จึงไม่ขอกล่าวถึงประโยชน์อย่างอื่นของน้ำมันมะกอก เนื่องจะเป็นการนอกเรื่อง และทำให้ขาดการโฟกัสไป - ส่วนสไตล์การเขียน โปรดเข้าใจว่าผมใช้ย่อหน้าเยอะ ๆ เพื่อให้อ่านง่าย ไม่ใช่เนื้อหาขาดบรรทัดอะไร เมื่อจบความ หรือต้องการเน้นผมจะขึ้นบรรทัดใหม่