วุ้นมะพร้าวที่เราเห็นกันเป็นก้อนสี่เหลี่ยมใส ๆ ที่นิยมนำมาใส่ในของหวานต่าง ๆ นั้น คงเป็นอาหารที่หลายคนชื่นชอบ เพราะมีความหอมหวาน นุ่มหนึบ สามารถนำมาใส่ในน้ำแข็งใส ของหวานน้ำกะทิ เต้าทึงธัญพืช หรือแม้แต่จะทานกับน้ำเชื่อมก็อร่อยชื่นใจ แต่จะมีใครทราบไหมคะ ว่าจริง ๆ แล้ววุ้นมะพร้าวนั้นไม่ได้ทำมาจากวุ้น แต่ทำมาจากแบคทีเรียชนิดทานได้ค่ะ ภาพโดยผู้เขียน แบคทีเรียที่ว่านี้ก็คือ Acetobacter xylinum หรือ เรียกย่อ ๆ ว่า A. xylinum นั่นเองค่ะ เป็นแบคทีเรียหนึ่งชนิด ในกลุ่มที่สร้างกรดอะซิติก เจริญได้ดีในที่ที่ไม่มีออกซิเจน และไม่ก่อโรค ซึ่งแผ่นวุ้นที่เราเห็นกันนั้น เกิดมาจากการหมักน้ำมะพร้าวโดยเทน้ำมะพร้าวใส่ลงไปในพิมพ์ จากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการต่าง ๆ ในทางอุตสาหกรรมอาหารเพื่อให้เชื้อ A. xylinum สร้างพอลิเมอร์ของน้ำตาลซึ่งจัดเป็นเนื้อเยื่อประเภทเซลลูโลสขึ้นมาจนทั่วทั้งแผ่น ก็จะทำให้น้ำมะพร้าวเกิดการแข็งตัว และเซตตัวกลายเป็นวุ้นมะพร้าวสีขาวใส เหนียวนุ่มหนึบหนับ ดังที่เราเห็นโดยทั่วไป หลังจากนั้นก็นำมาตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ค่ะ ภาพโดยผู้เขียน ประโยชน์ของวุ้นมะพร้าวไม่ใช่แค่ความอร่อยเพียงอย่างเดียวเท่านั้นนะคะ แต่เนื่องจากเซลลูโลสที่ A. xylinum สร้างขึ้นมานั้น น้ำย่อยหรือเอนไซม์ต่าง ๆ ในระบบทางเดินอาหารของมนุษย์เราไม่มาสามารถย่อยได้ วุ้นมะพร้าวจึงจัดเป็นอาหารประเภทเส้นใย ( dietary fiber) ที่เหมาะจะเป็นอาหารจำพวก ช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนัก เพราะเมื่อทานเข้าไปแล้วจะให้ความรู้สึกอิ่มแต่ไม่ให้พลังงาน สามารถนำมาทานในช่วงท้องว่างเพื่อคลายหิวได้ดี ถ้าจะลดน้ำหนักต้องไม่ทานร่วมกันกับน้ำเชื่อมนะคะ เดี๋ยวจะกลายเป็นการเพิ่มน้ำหนักแทน แต่ถ้าจะทานแค่วุ้นมะพร้าวเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่มีรสชาติเท่าไรหนัก เราสามารถนำมาผสมในจานสลัด ทานกับโยเกิร์ตสูตรไขมันต่ำก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ ภาพโดยผู้เขียน นอกจากวุ้นมะพร้าวจะนำมาทำเป็นขนม หรือส่วนผสมของอาหารต่าง ๆ ตามที่ผู้เขียนยกตัวอย่างไปข้างต้นแล้วนั้น วุ้นมะพร้าวยังสามารถนำใส่ในเครื่องดื่มได้อีกด้วยค่ะ เพราะตัวของวุ้นมะพร้าวเองไม่ค่อยมีรสชาตินักจึงไม่ตัดรสชาติของอาหาร หรือเครื่องดื่ม ช่วงหน้าร้อนแบบนี้ถ้านำวุ้นมะพร้าวในน้ำเชื่อมไปแช่ช่องฟรีสให้วุ้นแข็งตัว จะได้ทั้งความกรอบ หอมหวาน เหนียวนุ่ม เย็นชื่นใจเลยค่ะ ภาพหน้าปกโดย Huyền Lương Ngọc จาก Pixabay