6 ของเปรี้ยวใช้แทนมะนาว หาได้ง่าย ราคาไม่แพง อร่อยเหมือนเดิม! ในช่วงที่มะนาวขึ้นราคาหรือมะนาวขาดแคลนนั้น หลายคนเริ่มมองหาว่ามีอะไรบ้างที่สามารถนำมาใช้แทนมะนาวได้ ผู้เขียนก็เป็นอีกคนหนึ่งค่ะที่ประกอบอาหารและเวลาเจอสถานการณ์ที่มะนาวหาได้ยาก หรือในบางเมนูที่ต้องการความเปรี้ยวแต่ไม่ได้ต้องการความเปรี้ยวแบบมะนาว จึงเป็นเหตุให้มีโอกาสได้ทดลองเลือกใช้ของเปรี้ยวแทนมะนาวหลายอย่าง รวมทั้งจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้เคยเห็นคนรอบข้างนำของเปรี้ยวต่างๆ มาใช้แทนมะนาวด้วยค่ะผู้เขียนพบว่ามีของเปรี้ยวหลายอย่างที่เราสามารถนำมาใช้แทนมะนาวได้ และยังทำให้อาหารออกมาอร่อยเหมือนเดิม และในบางเมนูนั้นของเปรี้ยวที่นำมาใช้แทนมะนาวนั้นยังทำให้รสชาติของอาหารมีความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยค่ะ ซึ่งในบทความนี้ผู้เขียนได้รวบรวมเอาของเปรี้ยวที่สามารถใช้แทนมะนาวได้ หาได้ง่ายและราคาไม่แพงมาไว้ให้แล้ว เพราะผู้เขียนเชื่อว่ามีหลายคนกำลังอยากมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ในยามจำเป็นที่ต้องใช้ค่ะ ของเปรี้ยวแทนมะนาวได้มีดังต่อไปนี้ค่ะ1. ส้มป่อยลักษณะทั่วไป: ส้มป่อยในภาษาอีสานเรียกว่า "ส้มพอดี" ส้มป่อยเป็นพืชที่มีใบคล้ายใบชะอมค่ะ แต่ไม่มีกลิ่นแรงเหมือนชะอม สามารถปลูกส้มป่อยไว้ตามสวนหลังบ้านได้ ที่บ้านสวนของผู้เขียนก็มีต้นส้มป่อย 3 ต้นค่ะ แนะนำว่าปลูกเพียงต้นเดียวก็พอค่ะ แต่ต้องตัดแต่งกิ่งเรื่อยๆ เพื่อให้ส้มป่อยแตกยอดอ่อนออกมาเป็นระยะๆ ส้มป่อยชอบแดดจัดค่ะ ควรปลูกให้ห่างจากพื้นที่ๆ คนอยู่ เพราะส้มป่อยมีหลามแหลมประกอบกับกิ่งก้านของส้มป่อยจะแตกขยายออกด้านข้างด้วย วิธีใช้: ส่วนใหญ่แล้วผู้เขียนจะใช้ยอดอ่อนของส้มป่อยมาประกอบอาหารค่ะ โดยก่อนจะใช้ต้องล้างน้ำสะอาด ในบางครั้งเวลาไปตัดยอดส้มป่อยมาอาจพบว่ามีมดดำด้วยต้องสะบัดให้มดดำหลุดออกให้หมดก่อนนำไปใช้ค่ะ ถ้าซื้อส้มป่อยมาจากตลาดส่วนใหญ่ที่ผู้เขียนเห็นนั้นก็เป็นยอดอ่อนที่สามารถนำมาใช้งานได้เลย ก่อนจะนำไปใช้งานเพียงใช้กรรไกรตัดให้เป็นท่อนยาวประมาณ 1-2 นิ้ว ค่ะเมนูแนะนำ: เนื่องจากว่าความเปรี้ยวของส้มป่อยเป็นความเปรี้ยวแบบพอดี เหมือนกับที่คนอีสานเรียกค่ะ การใส่ส้มป่อยลงไปในต้มยำปลานิล ต้มยำไก่ แกงเห็ด หรือต้มยำน้ำใสอื่นๆ สามารถทำให้ได้รสชาติของต้มยำที่พอดีๆ ค่ะ เมนูประเภทยำไม่แนะนำนะคะ การใส่ส้มป่อยลงไปในต้มยำใบส้มป่อยจะหลุดปนกับน้ำต้มยำ ก่อนตักเสิร์ฟต้องตักเอาก้านแข็งของส้มป่อยออกก่อน ยอดอ่อนสามารถกินได้ค่ะจะมีรสชาติอมเปรี้ยวหลงเหลืออยู่บ้าง สีของน้ำต้มยำที่ใส่ส้มปล่อยจะออกสีส้มแดงนิดหน่อยคล้ายสีของยอดอ่อนของส้มป่อย การใส่ส้มป่อยหนึ่งกำที่ขายที่ตลาด 5 บาท ก็เพียงพอแล้วสำหรับต้มยำหนึ่งหม้อขนาดกลางค่ะราคาต่อหน่วย: ส้มป่อยมีขายที่ตลาดตามร้านขายผักพื้นบ้าน ราคากำละ 5-10 บาท ค่ะ จะใช้ตอนไหนก็ซื้อมาตอนนั้น การเก็บส้มป่อยในตู้เย็นทำได้ไม่เกิน 2 วันค่ะ เพราะถ้าเกินนั้นใบส้มป่อยจะร่วงหมด2. กระเจี๊ยบแดงลักษณะทั่วไป: กระเจี๊ยบแดงที่ว่านี้ก็คือกระเจี๊ยบแดงที่เอามาทำน้ำกระเจี๊ยบค่ะ ปกติผู้เขียนจะใช้ส่วนของใบกระเจี๊ยบแดงที่เป็นยอดอ่อนค่ะ สมัยเป็นเด็กจำได้ว่าได้เดินไปเก็บยอดกระเจี๊ยบแดงมาให้แม่แกงเห็ดฟาง ก็เด็ดส่วนยอดมาเลยค่ะไม่ได้พิถีพิถันอะไร กระเจี๊ยบแดงอ่อนมีสีเขียวอ่อนและใบไม่หนามาก ต้นของกระเจี๊ยบแดงก็ไม่ได้สูงมาก ยิ่งถ้าเราเก็บยอดมากินเรื่อยๆ ก็จะมีต้นเตี้ยเท่าๆ ความสูงของคนทั่วไปค่ะ ต้นกระเจี๊ยบแดงปลูกง่ายค่ะ ใช้พื้นที่น้อยสามารถปลูกได้ตามริมรั้วริมสวน ถ้าจะปลูกเพื่อนำมาเป็นของเปรี้ยวแทนมะนาวต้นเดียวพอค่ะวิธีใช้: ใช้ยอดอ่อนนำมาล้างให้สะอาด และหั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 2 นิ้ว หลังจากปรุงอาหารเสร็จปกติคนไม่ค่อยนิยมกินยอดกระเจี๊ยวแดงที่อยู่ในหม้อค่ะ เวลาจะตักเสิร์ฟจะตักเอาใบกระเจี๊ยบแดงออกก่อน ความเปรี้ยวของใบกระเจี๊ยบแดงนี้ให้ความเปรี้ยวน้อยกว่ายอดของส้มป่อยค่ะ เมนูแนะนำ: ใบกระเจี๊ยบแดงที่ผู้เขียนเคยใช้มานั้นจะนำมาใส่ในแกงเห็ดฟางค่ะโดยหนึ่งหม้อใส่หนึ่งกำมือ ในคนที่ไม่ชอบให้อาหารเปรี้ยวมากแต่ยังต้องการความเปรี้ยวอยู่ต้องลองใช้ใบกระเจี๊ยบแดงค่ะ เพราะผู้เขียนพบว่าใบกระเจี๊ยบแดงทำให้รสชาติอาหารดีขึ้นแต่ไม่ได้เปรี้ยวนำ โดยเฉพาะแกงเห็ดฟางแบบอีสานค่ะ เมนูประเภทยำหรืออื่นๆ ไม่แนะนำค่ะราคาต่อหน่วย: สามารถซื้อใบกระเจี๊ยบแดงได้ที่ตลาด ร้านขายผักพื้นบ้าน ราคากำละ 5-10 บาท กำละ 5 บาทที่ผู้เขียนเคยเห็นมานั้นสามารถใส่แกงเห็ดฟาง 1 กิโลกรัมได้แบบสบายๆ ค่ะ3. มะขามเปรี้ยวลักษณะทั่วไป: ต้นมะขามเปรี้ยวสามารถปลูกไว้ที่สวนหรือหลังบ้านได้ค่ะ สามารถตัดแต่งกิ่งให้สูงตามที่ต้องการได้ ที่บ้านสวนของผู้เขียนก็มีหนึ่งต้นค่ะ ต้นพันธุ์ของมะขามเปรี้ยวมีขายค่ะ ต้นเล็กๆ ก็จะถูกค่ะประมาณ 10-20 บาท มะขามเปรี้ยวสามารถนำมาใช้แทนมะนาวได้จาก 3 ส่วน คือ ใบมะขามอ่อน ฝักมะขามอ่อนและมะขามเปียก ส่วนที่ให้ความเปรี้ยวน้อยที่สุดคือใบมะขามอ่อนค่ะ รองลงมาคือมะขามเปียกเพราะจะอมหวาน สำหรับฝักอ่อนนั้นผู้เขียนมองว่ามีความเปรี้ยวมากที่สุด สีของอาหารที่ใส่มะขามฝักอ่อนจะมีน้ำเป็นสีขาว แต่ถ้าใช้มะขามเปียกน้ำจะออกสีน้ำตาลเหมือนสีของเนื้อมะขามเปียกค่ะวิธีใช้: สำหรับใบมะขามอ่อนเด็ดออกมาจากยอด จากนั้นล้างน้ำให้สะอาดและนำไปใส่ในต้มยำหรือทำน้ำพริกใบมะขามได้เลยไม่ต้องหั่นหรือสับค่ะ แต่สำหรับการใช้ฝักอ่อนของมะขามต้องทุบหยาบๆ ก่อนใส่ต้มยำค่ะ ถ้าจะทำน้ำพริกมะขามก็ต้องหักหรือหั่นให้เป็นชิ้นเล็กก่อนนำไปโขลกให้ละเอียดค่ะ และสุดท้ายมะขามเปียกสามารถนำมาแทนมะนาวได้ใน 2 ลักษณะค่ะ คือนำมาละลายน้ำก่อนใช้กับใส่มะขามเปียกแบบไม่ละลายน้ำเลยเมนูแนะนำ: จากที่ผู้เขียนได้เคยใช้ใบมะขามมานั้นส่วนใหญ่จะนำมาใส่ต้มยำค่ะ ที่เด็ดสุดคือต้มยำเป็ดใส่ใบมะขามอ่อน ต้มยำอื่นๆ ก็สามารถทำได้ค่ะแต่ต้องใส่ในปริมาณน้อยกว่าการใส่ส้มป่อยหรือใบกระเจี๊ยบแดง เพราะใบมะขามอ่อนให้ความเปรี้ยวมากกว่า สำหรับฝักอ่อนของมะขามผู้เขียนมักนำมาใส่ต้มยำเป็นหลักค่ะ เมนูประเภทยำอาจไม่เข้ากันค่ะ ถ้าเป็นน้ำพริกแจ่วต้องใช้มะขามเปียกแบบละลายน้ำ ถ้าต้มยำสามารถใช้ได้ทั้งแบบละลายน้ำและแบบไม่ต้องละลายน้ำค่ะ แนะนำให้ลองทำน้ำจิ้มแจ่วมะขามเปียกจิ้มกับปลานึ่งหรือปลาย่างค่ะ อร่อยมากๆ โดยอาจพบว่าอร่อยกว่าบีบมะนาวใส่ด้วยซ้ำไปราคาต่อหน่วย: สามารถหามะขามได้ที่ตลาด ร้านขายผักพื้นบ้านค่ะ ใบมะขามอ่อนถุงละ10-20 บาทแล้วแต่ปริมาณ ฝักอ่อนของมะขาม 5-10 บาทเท่านั้นค่ะ มะขามเปียกมีที่ร้านขายหอมแดงและกระเทียม ถูกสุด 10 บาทค่ะ4. มะอึกลักษณะทั่วไป: มะอึกเป็นพืชตระกูลเดียวกันกับมะแว้ง มีหนามที่ส่วนต่างๆ ของลำต้นยกเว้นที่ลูกของมะอึก มะอึกสีเขียวปนเหลืองก็สามารถนำมาประกอบอาหารได้ค่ะ แต่มะอึกที่สีเหลืองทั่วทั้งลูกจะเปรี้ยวอร่อยที่สุด มะอึกมีน้ำน้อยพอนำมาประกอบอาหารจะไม่ทำให้ปริมาณของน้ำในส่วนประกอบเพิ่มขึ้นค่ะ มีมะอึกต้นเดียวก็เพียงพอสำหรับการทำอาหารในบ้านแล้วค่ะ ที่บ้านสวนของผู้เขียนมีหลายต้นแต่เอาไว้เก็บขายด้วย มะอึกเก็บง่ายแต่ต้องระวังหนามค่ะ ต้นมะอึกเตี้ยๆ คล้ายต้นมะเขือ กิ่งก้านแผ่ขยายออกด้านข้างค่ะ ดังนั้นต้องปลูกให้ห่างจากที่อยู่อาศัยค่ะวิธีใช้: เก็บผลสีเขียวปนเหลืองไปจนสีเหลือง ล้างน้ำให้สะอาดโดยในขณะที่ล้างต้องใช้นิ้วถูขนที่ลูกมะอึกให้หลุดออกให้หมด จากนั้นใช้มีดผ่าครึ่งเป็นสองซีก ใช้ได้ทั้งผลโดยไม่ต้องเอาเมล็ดออก ปกติผู้เขียนจะใช้มะอึกสดประกอบอาหารค่ะ เมนูแนะนำ: มะอึกสดสามารถใช้ใส่ส้มตำได้ค่ะในกรณีไม่มีมะนาว ให้ความเปรี้ยวแหลมและส้มตำจะดูแห้งๆ แต่ก็แก้ขัดได้ค่ะ อีกเมนูที่อยากแนะนำคือทำน้ำพริกจิ้มแจ่วปลานึ่งค่ะ เมนูนี้ผู้เขียนทำบ่อยพอใช้มะอึกให้ความเปรี้ยวแทนมะนาว จะพบว่า น้ำพริกจะขลุกขลิกพอดีๆ ค่ะ ราคาต่อหน่วย: มะอึกในตลาดที่ร้านขายผักพื้นบ้าน จานละ 10 บาทค่ะ หนึ่งจานมีประมาณ 6-7 ลูกถ้าเป็นมะอึกพันธุ์เล็ก แต่ถ้าเป็นมะอึกพันธุ์ใหญ่ ได้ประมาณ 3-4 ลูกค่ะ5. มะกอกป่าลักษณะทั่วไป: มะกอกป่าก็คือมะกอกที่นำมาใส่ส้มตำค่ะ ต้นมะกอกจริงๆ ที่ผู้เขียนเคยเห็นนั้นจะอยู่ในป่า ที่เราเห็นว่าอยู่ในชุมชนหนึ่งจริงๆ แล้วเดิมก็คือป่า แต่คนสมัยเก่าจะอนุรักษ์ต้นมะกอกป่าไว้ ต้นมะกอกป่าต้นใหญ่มากค่ะ มีความสูงเหนือหลังคาบ้านเลยยิ่งถ้าต้นที่มีอายุๆ มากยิ่งสูง ปกติไม่นิยมนำมาปลูกภายในบ้าน แต่ถ้าตามไร่นาตามสวนก็พอเป็นไปได้ค่ะ ปกติผู้เขียนจะนำเฉพาะมะกอกป่าที่สุกแล้วมาใช้แทนมะนาว แต่ก็บางคนที่ใช้มะกอกป่าอ่อน รสชาติของมะกอกป่าอ่อนจะมีรสฝาดนำ ส่วนผลที่สุกงอมความฝาดจะน้อยลงให้ความเปรี้ยวที่ดีกว่า อาหารที่ใส่มะกอกจะมีสีคล้ำ ในบางครั้งก็อาจมองดูไม่น่ากิน มะกอกป่าที่สุกแล้วให้ความเปรี้ยวรองจากตะลิงปลิงค่ะ วิธีใช้: ล้างมะกอกให้สะอาด ใช้มีดหั่นบริเวณเปลือกและบีบเอาเนื้อกับน้ำส่วนที่ติดกับเมล็ดออกมาใส่ลงไปในอาหารค่ะ มะกอกป่าที่อ่อนก็ใช้มีดหั่นเป็นชิ้นบางๆ ก่อนจะใช้ค่ะ ใช้ได้ทั้งเปลือกจึงไม่มีความจำเป็นต้องปอกเปลือกเมนูแนะนำ: สำหรับมะกอกป่าอ่อนส่วนใหญ่จะนำมาใส่ส้มตำเป็นหลักค่ะ แต่สำหรับมะกอกป่าสุกนั้นนอกจากจะสามารถใส่ลงไปไปในส้มตำได้แล้ว ยังสามารถใส่กับน้ำพริกจิ้มแจ่วได้ค่ะ ให้ความเปรี้ยวมากกว่ามะอึกและทำให้น้ำพริกมีปริมาณของน้ำเพิ่มมานิดหน่อย ใส่ได้ทั้งเปลือก ไม่ควรใส่เมล็ดของมะกอกลงไปในน้ำพริกค่ะเพราะเมล็ดมะกอกป่าแข็งมากและอาจดูแกะกะตอนตักใส่ถ้วยค่ะ ครั้งหนึ่งผู้เขียนเคยใส่มะกอกป่าในต้มยำ พบว่าต้มยำมีความเปรี้ยวแต่ให้ความเปรี้ยวน้อยกว่ามะขาม และที่แย่ไปกว่านั้นคือน้ำต้มยำดูสีเทาเข้มๆ ไม่น่ากินเลยค่ะราคาต่อหน่วย: ส่วนใหญ่ผู้เขียนจะเห็นมะกอกป่าแบบสุกขายที่ตลาด ราคาขายเป็นตะกร้าๆ ละ 10 บาท ได้ประมาณ 4-5 ลูกค่ะ6. ตะลิงปลิงลักษณะทั่วไป: ตะลิงปลิงเป็นต้นไม้ยืนต้นค่ะแต่ก็สามารถตัดแต่งกิ่งได้ให้เตี้ยได้ ชอบแดดจัด กิ่งก้านแตกขยายออกด้านข้างจึงไม่ควรปลูกติดริมรั้วบ้าน เพราะลูกตะลิงปลิงจะหล่นไปบ้านด้านข้างได้ บางทีจะสกปรกและมีเสียงดังกรณีตกใส่หลังคาบ้าน เพราะบ้านน้าของผู้เขียนก็เจอปัญหานี้จากบ้านใกล้เคียง รวมทั้งใบตะลิงปลิงด้วยค่ะ ตะลิงปลิงออกลูกดกมากค่ะต้นเดียวพอสำหรับหนึ่งบ้าน บ้านสวนผู้เขียนมีหนึ่งต้นค่ะ ลูกตะลิงปลิงอ่อนมีสีเขียวเข้มและฝาด ส่วนมากนิยมเก็บผลสุกมากิน ผลสุกมีสีเขียวอ่อนและถ้าจับดูจะอ่อนนิ่ม ข้างในมีเมล็ดแต่แบนและเล็กมาก จึงไม่มีความจำเป็นต้องเอาเมล็ดออกค่ะ วิธีใช้: เก็บตะลิงปลิงสุกมาล้างน้ำให้สะอาด ในกรณีใส่ต้มยำสามารถใส่ได้ทั้งผลโดยไม่ต้องหั่น แต่ถ้าจะใส่ยำต้องหั่นตะลิงปลิงเป็นชิ้นเล็กๆ ค่ะเมนูแนะนำ: ตะลิงปลิงสามารถใส่ต้มยำน้ำใสได้ค่ะแนะนำให้ลองใส่ต้มยำปลา มีความเปรี้ยวรองจากมะขามแต่ไม่เปรี้ยวแหลมในกรณีใส่ต้มยำ แต่ถ้าเอามาใส่ยำความเปรี้ยวจะเด่นชัดมากค่ะ และมีน้ำมากหากนำมาใส่ยำจะต้องไม่คลุกเคล้าจนตะลิงปลิงเละ! ถึงแม้ว่าตะลิงปลิงจะมีน้ำมากแต่ตะลิงปลิงกลับทำให้รสชาติขิงยำออกมาได้ดีค่ะไม่แพ้มะนาวค่ะราคาต่อหน่วย: ตะลิงปลิงที่ตลาดวางขายตะกร้าละ 10 บาท เท่านั้นค่ะต้องลองไปเดินตลาดและสังเกตดูว่าในช่วงนั้นมีอะไรสามารถนำมาใช้แทนมะนาวได้ค่ะ ซึ่งตัวอย่างของเปรี้ยวในบทความนี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกหลายของเปรี้ยวที่ผู้เขียนได้นำเอามาใช้แทนมะนาวค่ะแต่ยังไม่ได้พูดถึง ซึ่งจะได้มาเล่าในบทความต่อๆ ไปต้องแวะเวียนมาอ่านเรื่อยๆ ค่ะ เพราะของเปรี้ยวแทนมะนาวจริงๆ แล้วมีเยอะกว่าที่คุณผู้อ่านคิดค่ะในทุกๆ วันผู้เขียนก็ยังประยุกต์ใช้ของเปรี้ยวอย่างอื่นแทนมะนาวตลอดค่ะ และพบว่าของเปรี้ยวทั้งหลายที่สามารถใช้แทนมะนาวได้นั้นสามารถนำมาประกอบอาหารอย่างหนึ่งได้จริงๆ จะเรียกว่าเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะก็ได้ค่ะ ดังนั้นต่อจากนี้ไปพอไม่มีมะนาวไม่ต้องคิดมากค่ะว่าจะทำอาหารออกมาไม่ได้ แค่ลองเลือกใช้ของเปรี้ยวอย่างอื่นแทนมะนาว เพียงเท่านี้ก็ทำให้สามารถทำอาหารออกมาได้อร่อยเหมือนกันค่ะเครดิตภาพจาก: ผู้เขียนภาพหน้าปกออกแบบใน canvaถ่ายภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน❇️บทความอื่นที่น่าสนใจตะลิงปลิง ผลไม้รสเปรี้ยว มีวิตามินซี กินสดได้ ใช้ทำอาหารได้กระถินข้างถนนกินได้เป็นแบบไหน วิธีเก็บและประโยชน์ปลูกกระชายในกระถางไว้กินที่บ้าน พิสูจน์แล้วทำได้จริง! ง่ายๆ หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !