สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน ในช่วงระยะเวลาที่โควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด ไม่มีร้านอาหารได้ไปนั่งกินในร้าน ต้องซื้อกลับหรือสั่งมาส่งที่บ้าน ผู้เขียนก็ยังไม่มีโอกาสได้ออกไปชิมอาหารอร่อย ๆ เก็บข้อมูลมารีวิวให้ได้ชมกัน อย่ากระนั้นเลยค่ะ ถ้าบ้านเรามีครัวหรือขอแค่มีเตาแก๊สพอที่จะทำอะไรกินเองในบ้าน ก็ต้องพึ่งพาฝีมือตนเองกันบ้างค่ะ น้ำพริกเป็นของคู่ครัวคนไทยมาตลอดกาล ไม่ว่าจะน้ำพริกที่ตำไว้สำหรับทำเมนูผัด และแกงต่าง ๆ มากมายนับร้อยเมนู หรือน้ำพริกที่เป็นเครื่องจิ้ม ก็มักจะได้รับความนิยมในการทำเก็บไว้กิน ทั้งยังพกติดตัวในยามออกเดินทางไกล ไม่มีอะไรกินก็ยังนำออกมาเป็นส่วนนึงของอาหารในมื้อนั้น ๆ ได้ น้ำพริกเผา เป็นอีกหนึ่งเครื่องน้ำน้ำพริกที่ทำง่าย ๆ ในบ้านเราเองนี่แหละค่ะ น้ำพริกเผาสูตรที่นำมารีวิวในวันนี้ ผู้เขียนเห็นคุณยายซึ่งเป็นคนอยุธยา ทำมาตั้งแต่ผู้เขียนยังเด็ก แต่ละครั้งที่ได้ตำน้ำพริก ผู้เขียนก็จะไปนั่งดู ตามประสาเด็ก ๆ ที่อยากรู้อยากเห็น จนสามารถจดจำขั้นตอนได้ขึ้นใจ น้ำพริกเผา ตำรับนี้สูตรดั้งเดิม วัตถุดิบเราใช้การคั่วพริก หอม กระเทียม หรือจะย่างบนเตาอั้งโล่เลยก็ได้ ส่วนสูตรปัจจุบันเขาจะเอาง่ายขึ้นด้วยการนำเครื่องพริก หอม กระเทียมไปทอดในน้ำมันจนกรอบ แล้วค่อยนำมาตำ ความแตกต่างกันมันคือความหอมของวัตถุดิบ จะหอมแตกต่างกันค่ะ เวลาคั่วจะเกิดน้ำมันหอมระเหยในตัวเนื้อของวัตถุดิบเอง เมื่อนำมาตำน้ำพริกแล้วจะมีความหอม ส่วนการทอดหอม กระเทียมและพริกก่อนนั้น จะหอมอีกแบบนึงและทำให้เครื่องมันน้ำพริกมีลักษณะป่นกรอบ ตามมาสิคะผู้เขียนจะบอกให้อย่างละเอียดเลย น้ำพริกเผา สูตรนี้ทำได้ 1 กิโลกรัม วัตถุดิบ - พริกแห้งเม็ดใหญ่ 80 กรัม - พริกแห้งเม็ดเล็ก 40 กรัม - หอมแดง 400 กรัม - กระเทียม 200 กรัม - กะปิ 4 ช้อนโต๊ะ *เดิมคุณยายใช้พริกบางช้างอย่างเดียว แต่ปัจจุบันหายากมาก และราคาก็แพง ใช้พริกชี้ฟ้าแห้งแทนค่ะ ส่วนพริกแห้งเม็ดเล็ก ให้เราเลือกว่าต้องการเผ็ดและหอมมากขนาดไหน ผู้เขียนเลือกพริกขี้หนูยอดสนมีกลิ่นหอม ราคาจะสูงกว่าพริกชนิดอื่นสักหน่อย* เครื่องปรุง - เกลือ หยิบมือ - น้ำตาลมะพร้าว 300 กรัม - น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ - น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ - น้ำมะขามเปียก 4 โต๊ะ - น้ำมันพืช 1/4 ขวด ลงมือทำกันเลยค่ะ 1. ปอกเปลือกหอม กระเทียม เด็ดก้านพริก ล้างน้ำเตรียมไว้ พริกขี้หนูมีความเผ็ด ใครไม่ชอบเผ็ดมาก ให้เอาแต่เนื้อพริก แคะเมล็ดพริกออกนะคะ 2. คั่วพริก หอม กระเทียม กะปิด้วยไฟอ่อนจนหอม แต่อย่าคั่วจนไหม้นะคะ 3. นำเครื่องมาตำทีละอย่างจนละเอียด ใช้ครกหินจะตำได้ง่ายกว่า ระหว่างที่ตำพริกแห้งให้ใส่เกลือลงไปหยิบมือช่วยให้ตำได้ละเอียดขึ้น 4. ตำทุกอย่างรวมกันสุดท้ายใส่กะปิลงไปตำ จนเนื้อพริก หอมแดง กระเทียม และกะปิเข้ากันหมดเป็นเนื้อเดียวกัน 5. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย นำน้ำพริกลงไปผัด ใช้ไฟอ่อนนะคะ ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทราย และน้ำมะขามเปียก ระหว่างผัดค่อย ๆ เติมน้ำมันพืชจนหมด น้ำมันที่ผัดเป็นตัวช่วยให้น้ำพริกอยู่ได้นาน ไม่บูด เสีย ผัดจนน้ำพริกสุกและหอมกรุ่น ชิมรสให้ได้รสหวานนำ เปรี้ยวตาม ก่อนใส่น้ำปลาจนหมด ชิมก่อนนะคะ เพราะกะปิแต่ละบ้านมีความเค็มไม่เท่ากัน กะปิของแต่ละจังหวัดก็หอมต่างกันด้วย ถ้าเราเลือกกะปิอย่างดีด็จะช่วยให้น้ำพริกมีความหอมมากขึ้น 5. ตักใส่ภาชนะสะอาด ปิดฝา สามารถเก็บได้นานโดยไม่ต้องใส่ตู้เย็น แต่ถ้าจะเก็บในตู้เย็นก็จะยิ่งเก็บไว้ได้หลายเดือนค่ะ หรือจะใส่กระปุกขายเป็นรายได้เสริมอีกทางนึงค่ะ *หมายเหตุ จะเห็นว่าสูตรที่ผู้เขียนบอกมานี้ไม่ใส่กุ้งแห้งป่น เพราะเป็นน้ำพริกเผาสูตรพื้นฐาน ไม่ทำให้มีกลิ่นหืน แต่สามารถนำมาใส่กุ้งแห้งป่น ไก่ หรือจะเป็นกากหมูผัดเพิ่มลงไปตอนขั้นตอนสุดท้ายได้ตามความชอบของแต่ละคนค่ะ น้ำพริกเผาสูตรนี้จะมีรสหวานนำ เปรี้ยวตาม มีเค็มจากกะปิ เหมาะที่จะนำไปคลุกข้าวสวย หรือ จะนำไปใส่ต้มยำก็อร่อยมากเลยค่ะ รสชาติและเนื้อสัมผัสจะแตกต่างกับน้ำพริกเผาทั่ว ๆ ไปที่หาซื้อได้ตามท้องตลาด เพราะส่วนมากเขาจะมีเนื้อสัมผัสที่เนียนไป แต่ของเรานั้นยังมี Texture ของเนื้อพริก หอม กระเทียมที่ใช้ครกตำ และที่สำคัญคือความหอมของน้ำพริกเผาแตกต่างกันมากค่ะ เคล็ดลับอยู่ตรงการคั่วพริกหอมกระเทียมให้มันเกิดน้ำมัน และการผัดน้ำพริกในกระทะ ไม่ต้องรีบเร่ง ค่อยๆผัดจนทุกอย่างแตกมัน ส่งกลิ่นหอม เป็นอย่างไรบ้างคะ วิธีทำน้ำพริกเผา แสนง่าย วัตถุดิบก็หาไม่ยาก อาจจะมีครบแล้วในครัวก็ทำได้เลย ยามที่เราต้องกักตัวอยู่กับบ้าน แล้วพบกันใหม่ ผู้เขียนจะนำสูตรอาหารที่ทำง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้มาฝากผู้อ่านอีกนะคะ สวัสดี ภาพและเรื่องโดย Crystal