9 ทริคเลือกอาหารและน้ำดื่ม ตามงานเคานต์ดาวน์ และงานเทศกาล เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ทุกครั้งที่เข้าสู่ช่วงเคานต์ดาวน์หรือเทศกาลใหญ่ อาหารและเครื่องดื่มจะกลายเป็นศูนย์กลางของความสุขและการเฉลิมฉลอง ผู้คนเดินกิน เดินดื่ม ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักและพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ แต่ในความสนุกนั้นสิ่งหนึ่งที่มักถูกมองข้ามคือความปลอดภัยของอาหารที่อยู่ตรงหน้า เพราะเมื่อมีคนจำนวนมาก การควบคุมความสะอาดและอุณหภูมิของอาหารย่อมทำได้ยากขึ้นโดยอัตโนมัติค่ะ โดยสิ่งที่หลายคนอาจไม่ทันคิดคือ การเจ็บป่วยหลังงานเทศกาลมักไม่ได้เกิดจากเรื่องใหญ่ แต่เริ่มจากการเลือกกินเพียงไม่กี่ครั้งในช่วงเวลาสั้นๆ ได้ด้วย ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้กันว่า เราจะต้องเลือกอาหารและเครื่องดื่มยังไงบ้าง และที่เราต้องเรียนรู้ก็เพราะว่า คนกินยังต้องประเมินสถานการณ์อาหารด้วยตัวเองนะคะ ซึ่งผู้เขียนไม่ได้คิดว่านี่เป็นจุดอ่อนของคนไทย แต่สถานการณ์นี้จะทำให้คนไทยมีความรู้มากขึ้น ฉลาดในการเลือกและสามารถเอาตัวรอดได้ง่ายกว่าต่างหาก ดังนั้นจึงอยากชวนคนไทยทุกคนมาเพิ่มการรับรู้เรื่องนี้กันค่ะ เพราะเมื่อเรามองการกินในงานเคานต์ดาวน์และทศกาลในภาพรวมได้ ผ่านหลักคิดที่นำไปใช้ได้จริงในสถานการณ์แออัด เราจะยังสนุกกับเสียงนับถอยหลัง แสงไฟ และบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองได้เต็มที่ โดยไม่ต้องแลกกับสุขภาพในวันถัดไปนะคะ งั้นเรามารู้กันเลยดีกว่า 1. เลือกอาหารที่ปรุงสุกและอุ่นเสมอ ในงานเคานต์ดาวน์และงานเทศกาล อาหารที่เราเลือกกินมักถูกปรุงและวางขายท่ามกลางคนจำนวนมาก การเลือกอาหารที่ปรุงสุกและอุ่นเสมอ จึงเป็นหลักพื้นฐานด้านสุขาภิบาลอาหารที่ไม่ควรมองข้ามค่ะ เพราะความร้อนช่วยทำลายจุลินทรีย์ที่อาจปนเปื้อนมากับวัตถุดิบหรือระหว่างการปรุงได้ อีกทั้งอาหารที่ยังอุ่นร้อนแสดงให้เห็นว่าเพิ่งผ่านความร้อนมาไม่นาน ลดความเสี่ยงจากจุลินทรีย์ที่เริ่มเพิ่มจำนวนเมื่ออุณหภูมิลดลง โดยเฉพาะอาหารประเภทเนื้อสัตว์ อาหารทะเล และอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบสูง โดยเราควรสังเกตว่าอาหารถูกเก็บในภาชนะที่รักษาความร้อนได้หรือไม่ มีไอน้ำหรือความร้อนสัมผัสได้ก่อนรับประทานหรือเปล่า หากอาหารเริ่มเย็น ชื้น หรือถูกวางทิ้งไว้นานโดยไม่มีการอุ่นซ้ำ ความเสี่ยงอาหารเป็นพิษจะเพิ่มขึ้นทันที แม้อากาศช่วงเทศกาลจะเย็นลง แต่จุลินทรีย์บางชนิดยังสามารถเจริญเติบโตได้ดีในอาหารที่อุณหภูมิไม่เหมาะสม ดังนั้นการเลือกกินอาหารที่ยังอุ่นจึงไม่ใช่เรื่องของความอร่อยเพียงอย่างเดียวค่ะ แต่เป็นการป้องกันสุขภาพของเราเองตั้งแต่คำแรกที่กินเข้าไป 2. เลือกน้ำดื่มบรรจุขวดหรือมีฝาปิดสนิท ในงานเคานต์ดาวน์และงานเทศกาล น้ำดื่มเป็นสิ่งที่เราหยิบมาดื่มบ่อยกว่าที่คิด การเลือกน้ำดื่มบรรจุขวดหรือมีฝาปิดสนิทจึงเป็นเรื่องสำคัญค่ะ เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อนจุลินทรีย์ ฝุ่นละออง หรือสิ่งแปลกปลอมจากสภาพแวดล้อมรอบตัว งานที่มีคนจำนวนมากยิ่งเพิ่มโอกาสที่น้ำเปิดทิ้งไว้จะสัมผัสมือหลายคน หรือโดนละอองไอจากการพูด ไอ หรือจาม น้ำที่ปิดสนิทจึงเป็นเหมือนเกราะป้องกันชั้นแรกก่อนเข้าสู่ร่างกายของเรา ในทางปฏิบัติเราควรเลือกน้ำดื่มที่ฝายังไม่ถูกเปิด ซีลอยู่ครบ และขวดไม่บิดเบี้ยวหรือบุบผิดปกติ หลีกเลี่ยงน้ำที่ถูกเทใส่แก้วหรือภาชนะเปิดไว้ล่วงหน้า เพราะไม่สามารถรู้ได้ว่าน้ำสัมผัสอะไรมาแล้วบ้าง แม้น้ำจะดูใสและไม่มีกลิ่น แต่จุลินทรีย์ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ที่โดยสรุปแล้วการเลือกน้ำดื่มที่มีฝาปิดสนิทจึงเป็นการลดความเสี่ยงแบบง่ายที่สุด แต่ช่วยป้องกันปัญหาท้องเสียหรืออาหารเป็นพิษหลังจบงานได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ 3. หลีกเลี่ยงอาหารที่ค้างคืนหรือเปิดแล้วหลายชั่วโมง ในช่วงงานเคานต์ดาวน์และงานเทศกาล อาหารจำนวนมากถูกเตรียมล่วงหน้าและวางขายต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาหารที่ค้างคืนหรือเปิดทิ้งไว้หลายชั่วโมงจึงมีความเสี่ยงสูงต่อการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ แม้หน้าตาอาหารจะดูปกติ ไม่มีกลิ่นหรือรสเปลี่ยน แต่จุลินทรีย์สามารถเพิ่มจำนวนได้โดยที่เราไม่รู้ตัว โดยเฉพาะอาหารที่มีความชื้นสูง เช่น ข้าว อาหารประเภทผัด อาหารประเภทเส้นต่างๆ หรือขนมหวานบางชนิด ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่จุลินทรีย์สามารถเจริญเติบโตได้ดี ดังนั้นเราควรหลีกเลี่ยงอาหารที่วางไว้ในอุณหภูมิห้องเป็นเวลานาน หรืออาหารที่ถูกเปิดฝาแล้วไม่มีการป้องกัน เช่น อาหารใส่ถาดเปิด หรือขนมที่ไม่มีการคลุม หากจำเป็นต้องเลือกซื้อ ควรถามหรือสังเกตว่าอาหารเพิ่งทำใหม่หรือไม่ และควรกินทันทีหลังซื้อ การหลีกเลี่ยงอาหารค้างคืนอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เป็นหนึ่งในวิธีง่ายที่สุดในการลดความเสี่ยงอาหารเป็นพิษ และช่วยให้เราสนุกกับเทศกาลได้อย่างปลอดภัยจนจบงานค่ะ 4. พกน้ำดื่มส่วนตัวสำรอง ในงานเคานต์ดาวน์และงานเทศกาลต่างๆ การพกน้ำดื่มส่วนตัวสำรองเป็นพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยลดความเสี่ยงด้านสุขาภิบาลได้มากกว่าที่คิดค่ะ เพราะในพื้นที่ที่มีคนจำนวนมาก แหล่งน้ำดื่มอาจไม่เพียงพอหรือไม่สามารถควบคุมความสะอาดได้ตลอดเวลา การมีน้ำดื่มของตัวเองช่วยให้เรามั่นใจในคุณภาพน้ำที่ดื่มเข้าไป ลดโอกาสดื่มน้ำจากแหล่งที่ไม่แน่ใจ หรือภาชนะที่ผ่านการใช้งานร่วมกับผู้อื่น ซึ่งการเลือกพกน้ำดื่มบรรจุขวดที่ยังไม่เปิด หรือกระติกน้ำส่วนตัวที่ทำความสะอาดแล้ว จะช่วยให้เราดื่มน้ำได้อย่างปลอดภัยตลอดงาน นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำจากการเดินนาน รอคิว หรืออยู่กลางแจ้งเป็นเวลาหลายชั่วโมง การมีน้ำสำรองติดตัวจึงไม่ใช่แค่เรื่องความสะดวก แต่เป็นการดูแลสุขภาพพื้นฐานที่ช่วยให้ร่างกายสดชื่น ลดอาการอ่อนเพลีย และสนุกกับบรรยากาศเทศกาลได้อย่างต่อเนื่องจนจบงาน 5. เลือกอาหารขนาดพอดีคำ ในงานเคานต์ดาวน์และงานเทศกาล อาหารที่มีขนาดพอดีคำเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมทั้งด้านความสะดวกและความปลอดภัยค่ะ เพราะช่วยลดขั้นตอนการจับ แบ่ง หรือวางอาหารระหว่างกิน ซึ่งเป็นช่วงที่อาหารเสี่ยงต่อการปนเปื้อนมากที่สุด อาหารชิ้นเล็กที่หยิบกินได้ทันที เช่น ของว่างหรือเมนูคำเดียวจบ ช่วยให้เราใช้เวลาสัมผัสอาหารสั้นลง และลดโอกาสที่มือจะนำจุลินทรีย์จากสิ่งแวดล้อมเข้าสู่อาหารโดยไม่รู้ตัว และการเลือกอาหารขนาดพอดีคำยังช่วยลดปัญหาอาหารหล่น เลอะ หรือถูกวางพักไว้กลางทาง ซึ่งมักเกิดขึ้นในพื้นที่แออัด อาหารที่กินง่ายจึงไม่เพียงช่วยให้เคลื่อนไหวสะดวก แต่ยังลดโอกาสที่อาหารจะสัมผัสพื้น ผิวโต๊ะ หรือภาชนะที่ไม่สะอาด การเลือกเมนูที่พอดีคำจึงเป็นการจัดการความเสี่ยงด้านสุขาภิบาลอย่างแนบเนียนนะคะ และทำให้เรากินได้อย่างมั่นใจและสนุกกับงานเทศกาลโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสุขภาพในภายหลัง 6. สังเกตสภาพอาหารก่อนเลือกกิน ก่อนเลือกอาหารในงานเคานต์ดาวน์และงานเทศกาล การใช้เวลาสังเกตสภาพอาหารเพียงไม่กี่วินาทีสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้อย่างมากค่ะ เพราะว่าสี กลิ่น และลักษณะภายนอกของอาหาร เป็นสัญญาณเบื้องต้นที่บอกถึงความสดและความปลอดภัย หากอาหารมีสีผิดปกติ มีกลิ่นเปรี้ยว กลิ่นเหม็น หรือมีลักษณะชื้นแฉะเกินไป ควรหลีกเลี่ยงทันที แม้อาหารจะถูกจัดวางอย่างสวยงาม แต่หากผ่านการวางทิ้งไว้นาน ก็อาจเป็นแหล่งสะสมของจุลินทรีย์โดยที่มองไม่เห็น ดังนั้นเราควรเลือกอาหารที่ดูสดใหม่ ผิวสัมผัสยังดี และมีการปกปิดจากฝุ่นหรือแมลงอย่างเหมาะสม อาหารร้อนควรยังมีไอหรือสัมผัสได้ถึงความอุ่น ส่วนอาหารเย็นควรแช่ไว้ในภาชนะที่รักษาอุณหภูมิได้ การสังเกตสภาพอาหารไม่ใช่เรื่องจุกจิก แต่เป็นทักษะพื้นฐานที่ช่วยให้เราคัดกรองความเสี่ยงด้วยตัวเองได้ในทุกสถานการณ์ ยิ่งในงานที่คนหนาแน่น การเลือกกินอย่างมีสติจะช่วยให้เราเพลิดเพลินกับเทศกาลโดยไม่ต้องแลกด้วยอาการเจ็บป่วยหลังงานจบค่ะ 7. เลือกอาหารที่เก็บง่ายและไม่เน่าเร็ว ในงานเคานต์ดาวน์และงานเทศกาล อาหารจำนวนมากต้องถูกถือเดินหรือเก็บไว้กับตัวเป็นระยะเวลาหนึ่ง การเลือกอาหารที่เก็บง่ายและไม่เน่าเร็ว จึงช่วยลดความเสี่ยงด้านสุขาภิบาลได้อย่างชัดเจน เนื่องจากอาหารที่ทนต่ออุณหภูมิภายนอกได้ดี ไม่เสียง่ายเมื่ออยู่นอกตู้เย็น จะมีโอกาสปนเปื้อนจุลินทรีย์น้อยกว่าอาหารที่ต้องควบคุมอุณหภูมิอย่างเข้มงวด เช่น อาหารที่มีครีม นม หรืออาหารทะเลสด ในสถานการณ์จริงเราควรเลือกเมนูที่สามารถคงสภาพได้ดีแม้ต้องถือไว้นาน เช่น อาหารอบ อาหารทอดแห้ง หรือของว่างที่มีความชื้นต่ำ หลีกเลี่ยงอาหารที่ต้องแช่เย็นตลอดเวลา หรืออาหารที่เสื่อมคุณภาพเร็วเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยน การเลือกอาหารที่ไม่เน่าเร็วไม่ใช่การจำกัดตัวเลือก แต่เป็นการลดความเสี่ยงแบบไม่รู้สึกฝืน ทำให้เรากินได้อย่างมั่นใจและสนุกกับบรรยากาศเทศกาลโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสุขภาพภายหลังนะคะ 8. พกอุปกรณ์ช่วยกินสะอาด งานเคานต์ดาวน์และงานเทศกาล มักมีพื้นที่แออัดและการใช้ของร่วมกันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก การพกอุปกรณ์ช่วยกินสะอาด เช่น ช้อน ส้อม หลอด หรือกระดาษทิชชูส่วนตัว จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีลดความเสี่ยงด้านสุขาภิบาลที่ได้ผลจริงค่ะ ซึ่งอุปกรณ์ส่วนตัวช่วยลดการสัมผัสกับภาชนะที่ผ่านมือคนจำนวนมาก ซึ่งอาจมีจุลินทรีย์สะสมอยู่โดยที่เราไม่รู้ตัว โดยเฉพาะในงานที่มีการแจกหรือวางอุปกรณ์รวมไว้ให้หยิบใช้เอง แต่การมีอุปกรณ์ส่วนตัวติดกระเป๋าไว้จะช่วยให้เราควบคุมความสะอาดได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารคำเล็กๆ หรือเมนูที่ต้องใช้ช้อนส้อม อุปกรณ์ของตัวเองที่ทำความสะอาดมาแล้วช่วยลดโอกาสนำจุลินทรีย์เข้าสู่ร่างกายผ่านปาก การพกอุปกรณ์ช่วยกินสะอาดจึงไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก แต่เป็นนิสัยเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยเสริมความปลอดภัยให้การกินในงานเทศกาลเป็นเรื่องสบายใจและปลอดภัยมากขึ้นค่ะทุกคน 9. เลือกน้ำผลไม้หรือน้ำดื่มที่ปิดสนิทและแช่เย็น ในงานเคานต์ดาวน์และงานเทศกาล เครื่องดื่มมักถูกเตรียมและวางจำหน่ายเป็นจำนวนมาก ซึ่งการเลือกน้ำผลไม้หรือน้ำดื่มที่ปิดสนิทและแช่เย็นอย่างเหมาะสม จึงช่วยลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของอาหารได้อย่างชัดเจน จากที่ภาชนะที่ปิดสนิทช่วยป้องกันการปนเปื้อนจากฝุ่น มือผู้คน และละอองจากสภาพแวดล้อมรอบตัว ขณะที่อุณหภูมิเย็นช่วยชะลอการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่อาจปนอยู่ในเครื่องดื่ม ในทางปฏิบัติเราควรเลือกเครื่องดื่มที่ฝายังไม่ถูกเปิด ซีลสมบูรณ์ และถูกเก็บไว้ในตู้แช่หรือถังน้ำแข็งที่สะอาด หลีกเลี่ยงน้ำผลไม้คั้นสดที่เปิดทิ้งไว้หรือเทใส่แก้วล่วงหน้า เพราะไม่สามารถควบคุมความสะอาดและอุณหภูมิได้อย่างต่อเนื่อง แม้เครื่องดื่มจะดูใสและสดชื่น แต่หากไม่ได้ปิดสนิทหรือแช่เย็นอย่างเหมาะสม ก็อาจกลายเป็นความเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว การเลือกเครื่องดื่มอย่างมีสติจึงช่วยให้เราสดชื่นและปลอดภัยไปพร้อมกันตลอดงานเทศกาลค่ะ จากเนื้อหาข้างต้นจะเห็นได้ว่า การเลือกกินอาหารและเครื่องดื่มในงานเคานต์ดาวน์หรืองานเทศกาลต่างๆ ไม่ใช่แค่เรื่องความอร่อยหรือความสะดวก แต่เป็นเรื่องของการจัดการความเสี่ยงที่อยู่รอบตัวเราโดยไม่รู้ตัว พื้นที่แออัด อาหารที่ถูกเตรียมจำนวนมาก และเวลาที่ควบคุมได้ยาก ล้วนเพิ่มโอกาสให้จุลินทรีย์เข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น การตัดสินใจเพียงไม่กี่วินาทีก่อนหยิบอาหารหรือเครื่องดื่ม จึงมีผลต่อสุขภาพหลังจบงานมากกว่าที่หลายคนคิดค่ะ และภาพใหญ่ของการกินอย่างปลอดภัยในงานเทศกาล คือ การเลือกสิ่งที่เราควบคุมได้ ตั้งแต่อุณหภูมิ ความสะอาด ภาชนะ ไปจนถึงวิธีการกินของตัวเอง อาหารและเครื่องดื่มที่ผ่านการจัดการอย่างเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงโดยไม่ต้องพึ่งความซับซ้อน ไม่จำเป็นต้องงดกินหรือกังวลตลอดเวลา แต่เป็นการใช้หลักสังเกต เลือก และหลีกเลี่ยงในจุดที่สำคัญจริงๆ เพื่อให้ร่างกายไม่ต้องรับภาระจากจุลินทรีย์โดยไม่จำเป็น เมื่อมองในมุมการนำไปใช้จริงการกินในงานเทศกาลอย่างปลอดภัย คือ การเตรียมตัวและตัดสินใจอย่างมีสติ ตั้งแต่ก่อนออกจากบ้าน ระหว่างเลือกซื้อ และขณะรับประทาน โดยพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ช่วยให้เราเพลิดเพลินกับบรรยากาศ ความสนุก และช่วงเวลาพิเศษได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องแลกกับอาการเจ็บป่วยหลังงานจบ สุขภาพที่ดีจึงไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เริ่มต้นจากการเลือกกินอย่างเข้าใจในทุกเทศกาลค่ะ เพราะอาหารสามารถเป็นสื่อนำความเจ็บป่วยมาสู่คนเราได้ และตามงานเคานต์ดาวน์และเทศกาลต่างๆ ในประเทศไทย ทุกคนต้องฝึกดูอาหารให้เป็น เพราะต่อให้เป็นหมอหรือพยาบาลก็ยังต้องประเมินอาหารก่อนเลือกซื้อด้วยตัวเองค่ะ ที่โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนมีโอกาสไปงานเคานต์ดาวน์ตามที่ต่างๆ มาบ้างเหมือนกันค่ะ เคยไปที่หน้าห้างเซ็นทรัลจังหวัดขอนแก่น และห้างเซ็นทรัลเวิร์ล ที่กรุงเทพมหานคร โดยสองที่ที่ไปนี้คนเยอะมากๆ ที่ขอนแก่นตอนที่ไปตอนนั้นยังอาศัยอยู่ที่นั่น จึงไปแป๊บเดียวและไม่ได้มีการซื้ออาหารและน้ำดื่มค่ะ แต่ที่ Central World จำได้ว่าคนเยอะสุดๆ เยอะขนาดว่าถ้าเดินผ่านคนรู้จักก็อาจจะไม่ได้ทักกันเลย โดยที่นี่ไปจนงานเคานต์ดาวน์จบ และได้เลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่มด้วย จำได้ว่าเลือกซื้ออาหารหน้าห้างเลยที่เป็นโซนขายอาหาร ที่มีการขายอาหารตลอดทั้งคืนนะคะ ได้ซื้อน้ำดื่มที่เป็นน้ำเปล่าแบบรรจุขวดแช่เย็นและอาหารที่ผ่านความร้อนด้วยการนึ่ง และซื้อแค่พอดีทานหมดในตอนนั้น ที่ไม่มีอาหารเหลือถือกลับมาที่พักค่ะ สำหรับปีนี้ผู้เขียนไม่ได้ไปงานเคานต์ดาวน์ที่ไหนค่ะ ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ได้แก่ อยู่ในพื้นที่สีแดงด้วย และคนอื่นๆ ก็อยู่ที่นี่ พ่อกับแม่ก็อยู่ อีกทั้งผู้เขียนไม่ได้รู้สึกว่าต้องไปงานสังสรรค์แบบนี้ตลอดเวลาและทุกปีแบบขาดไม่ได้ และอีกอย่างคือไม่ได้เป็นคนที่ดื่มด้วย เลยมองว่าการเคานต์ดาวน์กับครอบครัวที่บ้านก็สามารถทำให้มีความสุขได้เหมือนกัน อย่างไรก็ตามผู้เขียนยังจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของอาหารที่บ้านตอนเคานต์ดาวน์อยู่เหมือนเดิมนะคะ สำหรับงานเทศกาลต่างๆ มีไปบ้างตามโอกาส ซึ่งก็ได้ระวังเรื่องอาหารและเครื่องดื่มตลอด ด้วยการนำแนวทางต่างๆ ข้างต้นมาปรับใช้ค่ะ ยังไงนั้นหากคุณผู้อ่านกำลังมีแผนเดินทางไปตามงานเคานต์ดาวน์ในที่ต่างๆ ก็ลองนำไอเดียการเลือกอาหารข้างต้นไปปรับใช้กันค่ะ #วิธีเลือกอาหาร #วิธีเลือกน้ำดื่ม #ความปลอดภัยของอาหาร #FoodSafety เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปก ถ่ายภาพโดย Freepik จาก FREEPIK และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหา ถ่ายภาพโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 9 ทริคเลือกข้าวไข่เจียวทรงเครื่อง ร้านแบบไหนดี อร่อย & สะอาด 9 ทริคดูปอเปี๊ยะทอด ทำแบบสดใหม่ ไม่ได้ค้างคืน อร่อยและสะอาด 9 ทริคเลือกไข่ทรงเครื่อง แบบไหนดี ทำมาใหม่ ไม่ใช่ของค้างคืน หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !