หลายคนอาจชอบที่จะกินผักโดยการล้างน้ำด้วยน้ำเกลือ แล้วก็นำมากิน เพราะเนื้อสัมผัสจะกรอบอร่อยและอาจคิดว่าผักอาจไม่ได้มีสารพิษที่ร้ายแรงมากนัก เป็นผักที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจะมีโทษได้อย่างไร แต่ๆๆๆๆ ทุกคนนนนทุกอย่างก็ต้องมีคุณและโทษหรือบางอย่างอาจมาพร้อมกัน ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่สะสมในร่างกายโดยที่ไม่ได้เกิดทันที แต่จะค่อย ๆ สะสมไปเรื่อย ๆ มาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีผักอะไรบ้างที่ ห้าม กิน ดิบ !!!1. แครอทเนื่องจากแครอท ทำให้การดูดซึมสารเบตาแคโรทีนน้อยลงสารเบตาแคโรทีนการดูดซึมสารเบตาแคโรทีนที่เป็นตัวช่วยในการต้านอนุมูลอิสระได้น้อยลง ซึ่งหากกินดิบจะดูดซึมได้ 25% แต่ถ้าหากกินสุกก็จะดูดซึมได้ถึง 50% แต่ๆๆๆๆ เมื่อนำไปต้มอย่าหั่นชิ้นเล็กมาก เพราะว่าจะทำให้วิตามินหรือประโยชน์ในแครอทนั้นหายไปกับความร้อน จึงควรต้มแล้วค่อยหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ อีกอย่างคือการต้มนั้นต้องต้มให้นิ่มไม่ต้องให้เปื่อยเพราะจะทำให้สารเบตาแคโรทีนออกมาละลายอยู่ในน้ำ เวลาต้มน้ำใส่น้ำมันเล็กน้อยซึ่งจะดูดซึมได้ดีเมื่อมีน้ำมันมาช่วยแนะนำเมนูปรุงสุก ‘ผัดผัก’เมนูนี้มีผักทั้งบล็อกโคลี่และแครอท เป็นเมนูที่นำมาผัดรวม ๆ กันก็กินกับข้าวสวยร้อน ๆ ได้แล้ววว รสชาติเค็ม ๆ หวาน ๆ สายสุขภาพก็ทำตามได้ (เพียงแต่ปรับเปลี่ยนซอสปรุงที่เหมาะสำหรับสุขภาพเล็กน้อย) หรือใครทีอยากเริ่มกินผักเมนูก็เป็นทางเลือกอย่างหนึ่งวัตถุดิบบล็อกโคลี่แครอทเห็ดมะเขือเทศข้าวโพดอ่อนน้ำมันน้ำน้ำตาลซอสหอยนางรมซอสปรุงรสน้ำตาลกระเทียมพริกไทยป่นวิธีทำตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน ใส่กระเทียมแล้วผัดให้หอมใส่บล็อกโคลี่ เห็ด มะเขือเทศ ข้าวโพดอ่อน แครอท (ผักหั่นให้เหมาะสม) ตามด้วยน้ำ ปล่อยให้สุกจนน้ำลดปรุงรสด้วยน้ำตาล ซอสหอยนางรม ซอสปรุงรสใส่พริกไทยป่น พร้อมทาน2. กะหล่ำปลีเนื่องจากกะหล่ำปลีนั้นมีสารกอยโทรเจน หลายคนอาจชอบกินคู่กันกับส้มตำโดยที่ไม่ได้ทำให้สุกก่อน สารกอยโทรเจนก็จะสะสมในร่างกายไปเรื่อย ๆ ได้หากไม่กินให้สุกก่อนสารกอยโทรเจนมีฤทธิ์ในการยับยั้งการสร้างฮอร์โมนในต่อมไทรอยด์ ร่างกายก็จะนำไอโอดีนในเลือดไปใช้ได้น้อยกว่าปกติจึงทำให้ร่างกายนั้นขาดสารไอโอดีนจนทำให้เป็นคอหอยพอก หากกินสารนี้มากเกินไปก็จะทำให้มีอาการท้องอืด อีกทั้งยังทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นไทรอยด์ไม่ควรกินกะหล่ำปลีดิบอย่างเด็ดขาด!!!แนะนำเมนูปรุงสุก ‘เมนูผัดไข่กะหล่ำปลี’เมนูนี้เป็นเมนูที่ทำง่ายมาก และวัตถุดิบก็น้อยเพราะส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบที่หลาย ๆคนนั้นมีติดตู้อยู่แล้วซึ่งรสชาติจะให้ความรู้สึก เค็มนำ หวานตาม หอมกลิ่นซอสไม่เหม็นกลิ่นผักกะหล่ำปลีอีกด้วยยวัตถุดิบ ไข่กะหล่ำปลีกระเทียมน้ำน้ำมันน้ำตาลซอสหอยนางรมซอสปรุงรสพริกไทยวิธีทำใส่น้ำมันลงในกระทะที่ตั้งจนร้อนใส่ไข่ยีเล็กน้อย ตามด้วยกระเทียมลงไปผัดไข่ให้สุกและหอม ต่อด้วยกะหล่ำปลีที่ล้างน้ำและหั่นลงไป โดยให้กะหล่ำปลีโดนความร้อนสักครู่เทน้ำเปล่าเล็กน้อย ตามด้วยซอสหอยนางรม น้ำตาล และซอสปรุงรส ลงไป สุดท้ายโรยพริกไทย3. ถั่วงอก มีแบคทีเรียอันตรายหลายชนิด เช่น E. coli, Salmonella, Listeria ฯลฯ และสารฟอกขาว ไฟเตทสูง สารฟอกขาวสารเคมีในกลุ่มซัลไฟต์ คนขายถั่วงอกบางรายจะใช้โซเดียมซัลไฟต์ มาผสมน้ำแช่ถั่วงอกเพื่อให้ถั่วงอกขาว อวบน่ากิน บางรายใช้โซเดียมไฮโดรซัลไฟต์ ซึ่งเป็นสารฟอกขาวที่ไม่อนุญาตให้ใช้ในอาหาร แต่ได้ผลดีกว่าแบบแรกอย่างมาก อาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย หายใจขัด อาเจียน หรือสามารถเกิดอันตรายได้ถึงแก่ชีวิต หลายคนอาจชอบทานคู่กับก๋วยเตี๋ยวหรือส้มตำด้วยเนื้อสัมผัสเมื่อเคี้ยวมีความกรอบอร่อยกว่าถั่วงอกที่โดนความร้อนหรือสุกแล้ว แต่การกินถั่วงอกที่สุกแล้วนั้นจะทำให้ปลอดภัยมากกว่าแนะนำเมนูปรุงสุก ‘ผัดเต้าหู้ถั่วงอก’เมนูนี้ต้องโดนใจให้ที่ชอบกินผัก มีประโยชน์ กินง่าย มีรสชาติที่เค็มเล็กน้อย หอมมมม เคี้ยวกรุบกรอบอร่อยวัตถุดิบกระเทียมน้ำมันถั่วงอกเต้าหู้ขาวขึ้นฉ่ายต้นหอมน้ำตาลซอสหอยนางรมซอสปรุงรสวิธีทำนำเต้าหู้ขาวมาจี่กับน้ำมันในกระทะเล็กน้อยใส่กระเทียมลงไปผัดเล็กน้อยให้หอมใส่ถั่วงอก เต้าหู้ ขึ้นฉ่ายซอย ต้นหอมซอย เติมซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม น้ำตาลลงไป แล้วผัดทุกอย่างให้เข้ากัน4. มันฝรั่งในมันฝรั่งดิบมีสารโซลานีนสารพิษไกลโคแอลคาลอยด์ เป็นสารที่พืชสร้างมาเพื่อปกป้องตัวเองจากแมลงศัตรูพืช ไกลโคแอลคาลอยด์หากคนกินเข้าไปในปริมาณมากๆ อาจทำให้เกิดอาการปวดหัว คลื่นไส้ ใจสั่น อาเจียน ใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจล้มเหลว อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ มันฝรั่งเป็นผักที่ไม่ควรกินดิบเลยเด็ดขาดดด!!!แนะนำเมนูปรุงสุก ‘มันฝรั่งชุบแป้งทอด’เป็นเมนูสุดฮิตในตอนนี้ เป็นขนมทานเล่นที่ทานเพลิน ๆ กรอบอร่อยอีกทั้งยังมีประโยชน์อีกด้วย รสชาติเบา ๆ มีความกลมกล่อมสุด ๆๆวัตถุดิบมันฝรั่งแป้งทอดกรอบน้ำเย็นจัด น้ำมันวิธีทำนำมันฝรั่งล้างน้ำ ปลอกเปลือกหั่น ห้หนาครึ่งเซนติเมตร ล้างน้ำเพื่อให้ยางหลุดไปเทแป้งทอดกรอบใส่ชามผสม ตามด้วยน้ำเย็นจัด คลุกเคล้ากับมันฝรั่งให้เข้ากันนำมันฝรั่งที่คลุกแล้วใส่ลงกระทะที่มีน้ำมัน ทอดให้สุก5. หน่อไม้มีสารไซยาไนด์ กำจัดได้ด้วยความร้อน หากล้างให้สะอาดนำมาปรุงสุกสามารถกินได้สารไซยาไนด์ซึ่งกลไกของร่างกายหากรับในปริมาณที่น้อยก็สามารถขับออกมาได้ทางปัสสาวะได้ แต่ถ้าได้รับในปริมาณมาก อาจเข้าไปจับตัวกับสารในเม็ดเลือดแดงแทนที่ออกซิเจนจะทำให้เกิดอาการขาด ออกซิเจน หมดสติและเสียชีวิต ดังนั้นควรต้มน้ำให้เดือดอย่างน้อย 10 นาที เพื่อที่จะลดไซยาไนด์ได้ 90.5%แนะนำเมนูปรุงสุก ‘ต้มจืดหน่อไม้กระดูกหมู’เมนูนี้มีรสชาติที่กลมกล่อม น้ำซุปของแกงจืดใสแต่รสชาติอร่อยเข็มข้นนนนนนฝุดดดวัตถุดิบ หน่อไม้รากผักชีพริกไทยเม็ด กระเทียมน้ำมันเกลือ กระดูกหมูน้ำปลาน้ำเปล่าผักชี วิธีทำปอกเปลือกหน่อไม้ออกให้หมด หั่นชิ้นบาง ๆ แล้วนำไปต้มในน้ำ จากนั้นตักขึ้นล้างน้ำเย็น สะเด็ดน้ำเตรียมไว้โขลกกระเทียม รากผักชี และพริกไทยเม็ด เข้าด้วยกัน นำไปผัดกับน้ำมันให้หอม ใส่น้ำลงในหม้อ ใส่กระดูกหมูลงไปเคี่ยว พอเดือดใส่รากผักชีที่ผัดไว้ หน่อไม้ ปรุงรสด้วยน้ำปลากับเกลือ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนหมูสุกตามชอบ ตักใส่ถ้วย โรยด้วยใบผักชี6. ถั่วฝักยาวมีสารกำจัดศัตรูพืช และมีแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ค่อนข้างสูง จะมีปริมาณไกลโคโปรตีน พร้อมทั้งเลคตินสูงซึ่งไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาการย่อย และกลุ่มผู้สูงอายุ ทำให้ท้องอืด สารชนิดนี้จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และเกิดอาการท้องเสียได้ในระยะเวลา 3 ชั่วโมง จะเห็นได้ว่าถั่วฝักยาวเป็นผักที่กินคู่กับส้มตำด้วยเนื้อสัมผัสมีความกรอบอร่อย หลายคนชึงชอบในการกินดิบ แต่ด้วยสารอันตรายที่มีมากมายจึงควรที่จะต้มหรือทำให้สุกก่อนกินน้าาาแนะนำเมนูปรุงสุก ‘ผัดพริกแกงถั่วฝักยาวหมู’เมนูนี้เป็นเมนูที่ยังคงหอมถึงความอร่อยของเครื่องแกง มีรสชาติที่เผ็ดร้อน แต่ถ้าหากชอบทานหวานและไม่ชอบทานเผ็ดก็สามารถเติมน้ำตาลและน้ำเล็กน้อยลงไป มาลองทำตามกันเลยยยยวัตถุดิบถั่วฝักยาวหมูสามขั้นพริกแกงน้ำมันน้ำตาลน้ำปลาผงปรุงรสน่ำเปล่าใบมะกรูดวิธีทำนำหมูสามชั้นมาล้างแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆนำถั่วฝักยาวมาล้างแล้วหั่นให้พอดีคำนำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพอร้อนใส่พริกแกงเผ็ด ผัดพอมีกลิ่นหอมพริกแกง (อย่าใช้ไฟแรง พริกแกงจะไหม้แล้วทำให้ขม)ใส่หมูสามชั้นลงไปผัดให้สุกแล้วพรมด้วยน้ำปลาใส่ถั่วฝักยาวลงไปผัดทิ้งไว้สักพักแล้วใส่น้ำเปล่าลงไป ตั้งทิ้งไว้ให้ถั่วฝักยาวสุกปรุงรสด้วยผงปรุงรสและน้ำตาล รสชาติตามใจชอบ แล้วล้างใบมะกรูดฉีกใส่ลงไป สุดท้ายนี้นะคะอยากจะบอกทุกคนว่าอย่ากินผักพวกนี้ดิบเด็ดขาดดดด ถึงแม้ว่าจะอร่อยมากแค่ไหนนนTT เพื่อสุขภาพของตัวเองหันมากินแบบสุกกันดีกว่า และเมนูที่แนะนำนั้นก็เป็นเมนูที่ง่ายแสนง่ายใคร ๆ ก็สามารถที่จะทำตามได้เลยยยย มาลองทำกันดูน้าาาาาภาพปกและภาพประกอบจาก ผู้เขียน รูปแนะนำเมนูปรุงสุกรูปที่1-6 โดย @gettyimages จาก canvaแนะนำสูตรทำอาหารเพิ่มเติม ‘เมนูข้าวผัดปลากระป๋อง’https://intrend.trueid.net/post/358695 ห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป