จะดีแค่ไหน ถ้ากินของทอดได้มากขึ้น โดยที่รู้สึกผิดน้อยลง... หลังจากได้เป็นส่วนหนึ่งใน “สมาคมเราจะผอมด้วยเมนูจากหม้อทอดไร้น้ำมัน” สมาคมของเหล่าผู้คนที่หลงใหลในความอร่อยของเมนูทอดทั้งหลาย แต่ก็ยังมีความละอายต่อแคลอรี่ที่ถือเป็นความรู้สึกผิดบาปต่อร่างกาย เพียงแค่ 4 ชั่วโมงหลังจากการถูกยั่วยวนด้วยสารพัดเมนูที่ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถทำได้จากเครื่องทอดเครื่องเดียว ทั้งหมูกรอบที่แค่เห็นภาพก็ได้ยินเสียงเคี้ยวกรอบก้องทะลุหู พิซซ่าชีสเยิ้มเต็มแผ่น ไปจนถึงฮันนี่โทสต์สีเหลืองทองชุ่มมันเนยสะใจ ทำให้ทาสของทอดคนนี้กดสั่งซื้อไปแบบไม่ลังเล ลองจินตนาการว่าจะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถรับประทานของทอดได้โดยไม่ต้องรู้สึกผิดอีกต่อไป หม้อทอดไร้น้ำมันให้สิทธิ์จินตนาการของคุณเป็นจริงได้เดี๋ยวนี้ ! สำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์การทำอาหารมากนัก ผิวหนังยังไม่เคยชินกับการถูกน้ำมันกระเด็นใส่เท่าไร เครื่องนี้นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในเส้นทางการเป็นเชฟมือหนึ่งของบ้าน หม้อทอดไร้น้ำมันนี้มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ในราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ตั้งแต่มือใหม่ยันมือโปร ความยอดนิยมของหม้อทอดไร้น้ำมันนี้ส่งผลให้ของขาดตลาดในหลายเว็บไซต์ บางยี่ห้อต้องสั่งจองล่วงหน้ากันเป็นเดือนเลยทีเดียว แต่โชคดีที่ยังมีรุ่นที่ต้องการอยู่ ซึ่งพิจารณาจากยี่ห้อที่เชื่อถือได้ ขนาดที่พอเหมาะสำหรับ 1 - 2 คน ราคาไม่เกิน 3,000 บาท ประกอบกับคำบอกเล่าของผู้ใช้งานจริง “LUCKY FLAME รุ่น LAF-15 ขนาด 3.5 ลิตร” จึงเป็นหม้อทอดไร้น้ำมันที่ตอบโจทย์ที่สุด ไม่รอช้า รีบกดสั่งใน HomePro รวมส่วนลดของทางเว็บไซต์และบัตรเครดิต จึงได้มาในราคาเพียง 2,392 บาทเท่านั้น หลังจากสั่งไป 4 วัน DHL ก็ได้พาลูกรักเครื่องใหม่มาส่งถึงมือแบบไม่มีร่องรอยบุบสลายใดใด ว่าแล้วก็รีบเคลียร์พื้นที่ให้ออกมาโชว์ความสามารถกันหน่อย ซึ่งเมื่อเปิดกล่องมาก็จะพบกับหม้อทอดไร้น้ำมัน LUCKY FLAME LAF-15 3.5 ลิตร, ใบรับประกัน 2 ปี และคู่มือการใช้งาน หม้อทอดไร้น้ำมัน Lucky Flame นี้มาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงามทันสมัย กำลังไฟ 1,500 วัตต์ สามารถควบคุมการทำงานผ่านการสัมผัสหน้าจอระบบดิจิตอล ซึ่งข้อดีของหน้าจอที่เอียงเข้าหาตัวแบบนี้ ทำให้สามารถมองเห็นหน้าจอได้ง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องเข้าไปยืนใกล้ ๆ แล้วมองลงมา วัสดุภายนอกรวมถึงด้ามจับทำจากพลาสติก ABS ซึ่งมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น จึงสามารถทนต่อแรงกระแทกและความร้อนได้ดี สายไฟยาวประมาณ 1 เมตร ซึ่งนับว่าเพียงพอกับการใช้งาน อีกทั้งระบบการปรุงอาหารยังเป็นแบบ Fast Heating Air Circulation ทำให้หม้อทอดร้อนเร็วและอาหารถูกปรุงสุกโดยทั่วกัน บนหน้าจอมีฟังก์ชันการใช้งานให้เลือก 6 แบบ ซึ่งล้วนเป็นเมนูยอดนิยมอยู่แล้ว ทำให้ง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาตั้งค่าด้วยตนเอง แต่เดี๋ยวจะมาลองดูกันว่าฟังก์ชันนี้จะใช้ได้ดีจริง ๆ หรือไม่ ในส่วนของตะกร้าทอดจะมีด้ามออกมาให้จับ ซึ่งส่วนด้ามตะกร้าทอดนี้จะประกอบกับตัวกระทะทอดได้แบบพอดี และจะล็อกอัตโนมัติเมื่อสวมประกอบกัน จึงสามารถดึงกระทะทอดออกมาและยกไปไหนมาไหนได้แบบไม่ต้องกลัวหล่น วัสดุทำมาจากเหล็กชุบอะลูมิเนียมเคลือบเทฟล่อน ซึ่งมีความทนทานและสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ในตะกร้าทอดถูกเจาะเป็นตะแกรงเพื่อสะเด็ดน้ำมันขนาดพอดี แต่ขอเตือนว่าควรระวังขณะล้างทำความสะอาด เพราะขอบรูค่อนข้างคมค่ะ ในคู่มือแนะนำว่าต้องล้างก่อนทำอาหารครั้งแรกด้วยนะคะ โดยแยกล้างส่วนตะกร้าทอดแล้วเช็ดให้แห้ง ในส่วนกระทะทอดให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานเช็ด แล้วเช็ดออกด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นค่ะ หลังจากนั้นจึงได้เสียบปลั๊กและเปิดเครื่องหม้อทอดไร้น้ำมันอย่างเป็นทางการ เมื่อกดปุ่มเปิดแล้ว หน้าจอจะแสดงผลขึ้นมา 6 ปุ่ม ซึ่งเราสามารถปรับอุณหภูมิเองได้ตั้งแต่ 80 - 200 องศาเซลเซียส และตั้งเวลาเปิดปิดได้ตั้งแต่ 1 - 60 นาทีเลยทีเดียว หรือจะกดเลือกโหมดอัตโนมัติที่เครื่องได้ตั้งเวลาและอุณหภูมิที่เหมาะสมไว้สำหรับการประกอบอาหารทั้ง 6 ชนิดแล้วก็ได้ค่ะ คู่มือการใช้งานที่แนบมาด้วยได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับหม้อทอดไร้น้ำมันนี้ไว้อย่างละเอียดดีมาก ตั้งแต่สิ่งที่ควรระมัดระวัง วิธีการใช้งาน การดูแลรักษาความสะอาด ไปจนถึงปัญหาที่พบ ซึ่งคาดว่าได้ครอบคลุมปัญหาเบื้องต้นที่อาจจะพบในการทำอาหารด้วยหม้อทอดค่ะ บทความนี้จะนำเสนอ 3 เมนูง่าย ๆ ที่มีในตู้เย็นก่อนนะคะ หากผู้อ่านสนใจอยากให้ทำเมนูไหนด้วย LUCKY FLAME LAF-15 เครื่องนี้เป็นพิเศษ สามารถ Comment มาได้เลยค่ะ เมนูแรกเริ่มด้วย “เฟรนฟรายส์แช่แข็ง” ซึ่งเป็นหนึ่งในเมนูที่มีโหมดอัตโนมัติอยู่ เราใช้ยี่ห้อ Farm Frites ซื้อมาจาก Makro ตัวมันฝรั่งเป็นแบบติดเปลือก และถูกทอดในน้ำมันดอกทานตะวันมาก่อนค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าเพราะซื้อไว้นานแล้วหรือเพราะเคยละลายมาก่อนแล้วแช่แข็งอีกรอบ รูปทรงที่เห็นจึงค่อนข้างแบนและแปลกกว่าเฟรนฟรายส์ปกติค่ะ หลังจากกดปุ่มเลือกโหมดอัตโนมัติของเมนูเฟรนฟรายส์แช่แข็งแล้ว ระบบจะทำการตั้งอุณหภูมิให้ 190 องศาเซลเซียส ในเวลา 16 นาที หน้าจอจะแสดงผลเป็นเวลาที่นับถอยหลังไปเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไปครึ่งทาง เครื่องจะทำการส่งเสียงเตือน 3 ครั้ง เป็นอันรู้กันว่าจะต้องเตรียมตัวหยิบจานมารอรับของอร่อยได้แล้ว หรือสำหรับอาหารที่มีความหนาและต้องการให้สีสวยเสมอกันทั้งสองข้าง ก็ควรจะกดพักการทำงานชั่วคราวเพื่อกลับด้านอาหารตอนนี้ค่ะ ปิ๊บ ปิ๊บ ปิ๊บ ปิ๊บ ปิ๊บ สัญญาณส่งเสียง 5 ครั้งเพื่อเป็นการบอกว่าสิ้นสุดการทำเมนูนี้แล้ว ตัวหม้อทอดและด้ามจับค่อนข้างอุ่น ต้องระวังการสัมผัสตัวหม้อกันด้วยนะคะ สำหรับผลลัพธ์ของเมนูนี้ เฟรนฟรายส์สุกทุกชิ้น มีประมาณ 2 - 3 ชิ้นที่สุกเกินไปตามในภาพ หากมองข้ามเรื่องความแน่นของเนื้อเฟรนฟรายส์ไป รสสัมผัสของเฟรนฟรายส์กรอบดีมากและค่อนข้างแห้ง แต่ด้วยความที่เฟรนฟรายส์ยี่ห้อนี้ทอดในน้ำมันดอกทานตะวันมาก่อน ทำให้ได้กลิ่นหอมของน้ำมันเล็กน้อย เป็นการเพิ่มความอร่อยให้เฟรนฟรายส์ยิ่งขึ้นไปอีก ถือว่าโหมดอัตโนมัตินี้ทอดเฟรนฟรายส์แช่แข็งออกมาได้กำลังดี ชิ้นที่สุกเกินก็ไม่ได้แข็งจนรับประทานไม่ได้ เพียงแต่กรอบและแห้งมากกว่าชิ้นอื่นเท่านั้นค่ะ หลังทอดแล้วไม่มีน้ำมันที่ก้นหม้อเลยค่ะ คาดว่าเพราะมีน้ำมันอยู่ในเฟรนฟรายส์น้อยมาก เมนูที่สองคือ “นักเก็ตไก่” ซึ่งเป็นเมนูที่มีในโหมดอัตโนมัติเช่นกัน เราใช้ของ CP เนื่องจากมีส่วนผสมของเนื้อไก่ล้วนอยู่ถึง 57% นับว่าเป็นอัตราส่วนที่สูงที่สุดของเนื้อไก่ในบรรดานักเก็ตที่มีขายใน Makro สาขาบางกระบือ โดยได้ลองใส่ไปทั้งหมด 12 ชิ้น หลังจากกดปุ่มเลือกโหมดอัตโนมัติของเมนูนักเก็ตแล้ว ระบบจะทำการตั้งอุณหภูมิให้ 190 องศาเซลเซียส ใช้เวลา 10 นาที ระหว่างนี้ก็เตรียมซอสบาร์บีคิวรอได้เลยค่ะ ผ่านไปสัก 5 นาที ก็เริ่มได้กลิ่นหอมลอยมาส่งสัญญาณความอร่อยซะแล้ว ซึ่งก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ นักเก็ตสีเหลืองทองสวยงาม กัดแล้วควันร้อนลอยฉุยออกมาชัดเจน เปลือกนอกกรุบกรอบแต่เนื้อนักเก็ตข้างในชุ่มฉ่ำกำลังดีมาก ๆ รสสัมผัสและรสชาติแทบไม่แตกต่างกับการทอดในน้ำมันเลย เป็นอันว่าคงบอกลานักเก็ตลดราคาของร้านฟาสต์ฟู้ดไปอีกสักพักใหญ่เลยค่ะ ถือว่าโหมดอัตโนมัตินี้สามารถตั้งอุณหภูมิและเวลาได้เหมาะสมดีมาก ปิดท้ายด้วยเมนูง่าย ๆ กับวัตถุดิบที่มีในตู้เย็นอย่าง “ขนมปังหน้าชีส” ขนมปังโฮลวีททาเนยเค็มให้ทั่วแผ่น แล้วจึงโรยชีส Mozzarella ขูดไว้บนหน้า ตั้งค่าด้วยอุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 5 นาที ผลลัพธ์คือขนมปังกรอบกำลังดีเลยค่ะ ชีสละลายหอมเกรียมนิด ๆ กัดแล้วชีสยืดอย่างที่หวังไว้ ได้กลิ่นหอมเนยและชีส ออกรสเค็มเล็กน้อย มันสะใจด้วยชีสที่กัดแล้วยืดเคี้ยวหนุบหนับ เป็นเมนูที่ทำได้ง่าย ๆ ใช้เวลาไม่นาน หากใครมีวัตถุดิบอย่างแฮมหรือไส้กรอก ก็สามารถหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่เพื่อเพิ่มความอร่อยได้นะคะ ถึงจุดนี้หม้อทอดไร้น้ำมันก็รับประกันความผอมไม่ได้แล้วล่ะค่ะ สำหรับทั้งสามเมนูในวันนี้ ล้วนเป็นเมนูที่มีน้ำมันในตัวน้อยมาก ระหว่างทำอาหารหม้อทอดจึงแทบไม่มีควันลอยออกมาจากช่องระบายอากาศด้านหลังหม้อ และกระทะทอดยังคงสะอาดอยู่ แต่หากต้องการทำเมนูที่ต้องใช้วัตถุดิบของสดที่มีไขมันมาก เช่น หมูกรอบ ปลาทอด แนะนำให้ทำอาหารในห้องที่อากาศถ่ายเทนะคะ เนื่องจากน่าจะมีควันไอน้ำมันออกมาระหว่างหม้อทอดทำงานค่ะ สำหรับช่วงที่ต้องกักตัวอยู่บ้านยาวนานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนขนาดนี้ หลาย ๆ คนอาจจะรู้สึกอึดอัด เพราะนอกจากจะเป็นการถูกจำกัดพื้นที่ในการใช้ชีวิตแล้ว ยังเป็นการถูกจำกัดความสุขในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การรับประทานอาหาร จากแต่เดิมที่สามารถเลือกรับประทานได้ตามใจ โดยเฉพาะอาหารประเภทของทอดที่ต้องรับประทานเมื่อทำเสร็จใหม่ ๆ แต่ติดข้อจำกัดด้านการขนส่ง และไม่สามารถนั่งรับประทานในร้านได้เหมือนเคย ซึ่งก็ถือเป็นโอกาสให้หลายคนที่เคยเป็นแค่คนนั่งรอรับประทานได้เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนจับกระทะควงตะหลิวเข้าครัว ได้ค้นพบพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ และยังสนุกกับการช้อปปิ้งเครื่องทำครัวสมัยใหม่ที่ทำให้การทำอาหารเป็นเรื่องง่ายขึ้น ถึงแม้หม้อทอดไร้น้ำมันจะสามารถลด Calories อันเนื่องมาจากการที่ไม่ต้องใช้น้ำมันมาประกอบอาหารได้ แต่ด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานและความสะดวกสบายนี้ กลับเป็นการกระตุ้นให้อยากลองทำเมนูใหม่ ๆ มากขึ้น ชดเชยกับความอัดอั้นตันใจที่ไม่สามารถออกไปซื้อได้ ซึ่งอาจส่งผลให้น้ำหนักขึ้นแทนเพราะว่าสนุกกับการทำและรับประทานอาหารเยอะเกินไป หากใครมีเครื่องชั่งน้ำหนักหรือสายวัดตัวอยู่ที่บ้าน อาจต้องเอาไปซ่อนไว้ไกล ๆ สักช่วงหนึ่งแล้วล่ะค่ะ :-) ภาพปก: เด็กหญิงแก้มพอง ภาพประกอบที่ 1: ขอบคุณภาพจาก "สมาคมเราจะผอมด้วยเมนูจากหม้อทอดไร้น้ำมัน" สำหรับบทความนี้ ทางเราได้มีกิจกรรมมาให้ทุกคนได้ร่วมสนุกกัน เพียงกดติดตาม เด็กหญิงแก้มพอง และพิมพ์ชื่อ Email และเมนูของทอดเมนูโปรดของคุณ พร้อมบรรยายถึงความน่ารับประทานของเมนูนั้น ๆ ในช่อง Comment ด้านล่างบทความนี้ โดย 2 คนที่บรรยายมาได้ยั่วยวนชวนน้ำลายไหลที่สุดและ 1 คนจากการสุ่มใน Comment รับ Voucher จาก WeMall คนละ 200 บาทเลยค่ะ มาร่วมสนุกกันเยอะ ๆ นะคะ :-) เงื่อนไข: ระยะเวลาในการเข้าร่วมสนุกกิจกรรม ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค. - 31 พ.ค. 63 เวลา 12.00 น. สำหรับผู้ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมเมื่อเข้ามา Comment ใต้บทความแล้วให้ระบุ ชื่อและอีเมล ของคุณที่ต้องการให้ทีมงานส่ง Code Wemall ไปให้ในคอมเมนต์นั้น ๆ (ในกรณีที่คุณเป็นผู้ได้รับรางวัล Wemall code ทางทีมงาน TrueID In-Trend จะทำการส่ง Code Wemall ของคุณไปยังอีเมลที่ระบุไว้) ประกาศชื่อบุคคลที่ได้รับของรางวัล 3 ชื่อ ในคอมเมนต์ใต้บทความ วันที่ 31 พ.ค. 63 เวลา 18.00 น. Code Wemall จะถูกทำการส่งไปยังอีเมลของผู้ชนะ 3 ท่าน ภายใน 7 วันทำการ หลังจากที่ได้ทำการประกาศผลผู้โชคดี ในส่วนของการคัดเลือกผู้ชนะเป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความในการคัดเลือกเท่านั้น ทางทีมงาน TrueID In-Trend ไม่มีส่วนในการคัดเลือกผู้ที่ได้รับของรางวัล Code Wemall แต่อย่างใด