สะเดาน้ำปลาหวานเป็นอาหารที่นิยมมากของบ้านผู้เขียน มีรสขมแต่ใส่น้ำปลาหวานที่มีรสหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ ก็จะกลมกล่อม ความขมก็จะเบาบางลงมานิดนึง ทานกับปลาสลิดทอด หรือ ปลาช่อนแดดเดียว ยิ่งอร่อย ได้ข้าวสวยหอมมะลินุ่ม ๆ ร้อน ๆ ก็ยิ่งอร่อยมากขึ้นไปอีก ทำให้เจริญอาหาร แม้ว่าสรรพคุณอย่างนึงของสะเดาคือการช่วยให้เจริญอาหารแต่ในความคิดของผู้เขียนคิดว่า เจริญอาหารเพราะว่าอร่อยนั้นแหละ โดยเฉพาะ สูตรน้ำปลาหวานสูตรเด็ดของบ้านผู้เขียน บอกเลย อร่อยมาก สูตรน้ำปลาหวาน สำหรับทานกับสะเดา 1. มะขามเปียก ประมาณ 5 ฝัก 2. น้ำตาลมะพร้าว 200 กรัม 3. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 4. น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง 5. หอมแดง 10 หัว วิธีทำน้ำปลาหวาน 1. ตั้งน้ำให้เดือดแล้วใส่มะขามเปียกลงไป ใช้ทัพพีคน ให้ละลาย 2. ใส่น้ำตาลมะพร้าวลงไป แล้วตามด้วยน้ำปลา เคี่ยวไปกลางไปเรื่อย ๆ ให้ข้นนิด ๆ 3. ระหว่างรอให้น้ำปลาหวานข้นขึ้น ก็ซอยหอมแดงไว้เตรียมทอด 4. เมื่อน้ำปลาหวานข้นแล้วก็ยกลง รอให้เย็น 5. เจียวหอมแดงซอยโดยใช้ไฟกลางให้เหลือง อ่อน ๆ นำมาใส่ในน้ำปลาหวาน 6. ล้างดอกสะเดาให้สะอาด นำมาลวกในน้ำร้อนสักพัก สำหรับผู้เขียนชอบแบบลวกมากกว่าแบบต้ม สีจะเขียวสด อร่อยกว่า ลองทำทานดูนะ แล้วจะติดใจ ไม่ต้องกลัวขม ลองสักคำก่อน “หวานเป็นลม ขมเป็นยา อันนี้จริงนะ เพราะสรรพคุณของสะเดาก็มีไม่น้อยเลย มีทั้งคุณค่าทางอาหารสูง ทั้งแร่ธาตุและวิตามิน ช่วยแก้ไข้หัวลม ( ไข้หัวลมคืออะไรก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ผู้สูงอายุที่บ้าน เวลาทานพืชผักสมุนไพรที่ช่วยแก้ไข้ได้ มักจะพูดว่า แก้ไข้หัวลมได้ ) บรรเทาความร้อนในร่างกาย ช่วยปรับธาตุให้สมดุล ช่วยทำให้เจริญอาหาร ช่วยบำรุงรักษาดวงตา ช่วยบรรเทาอาการไอ แก้ ไข้ตัวร้อน ช่วยให้นอนหลับสบายด้วยนะ เป็นเมนูที่คู่ควรติดบ้านไว้ อร่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย ยังจำครั้งแรกที่ได้ลองชิมสะเดาได้เลย ขมมากแต่ก็มัน ๆ เข้าใจเลยว่าเมื่อชิมคำแรกแล้วขมก็ไม่อยากทานต่อแล้ว ตอนนั้นก็ทานอาหารอย่างอื่นจนใกล้อิ่ม คำสุดท้ายเลยลองทาน ใส่ทุกอย่าง มีดอกสะเดา เนื้อปลาช่อนแดดเดียว น้ำปลาหวานใส่หอมเจียวเยอะหน่อย ตักใส่ปากคำเดียวหมด คำนั้นนั่นเองที่เปิดโลกแห่งความอร่อย จึงรู้ว่าต้องใส่ให้ครบ แล้วจัดคำเดียว จึงได้เมนูประจำปีทุกปี เพราะดอกสะเดาจะออกมีละครั้ง แต่สมัยนี้ดีนะมีพันธุ์ที่สามารถออกดอกได้ทั้งปี จึงได้ทานบ่อยขึ้น ( ภาพปกและทุกภาพโดยผู้เขียน )