ขนมกล้วย เป็นขนมไทยโบราณที่ทำได้ไม่ยาก และสอดคล้องกับวิถีคนไทย เนื่องจากประเทศไทยมีการปลูกกล้วยจำนวนมาก จึงนิยมนำกล้วยมาทำอาหารและขนมเมนูต่างๆ ขนมกล้วยก็เป็นอีกหนึ่งเมนูขนมไทยโบราณ มีทั้งขนมกล้วยแบบปิ้ง ขนมกล้วยแบบนึ่ง ซึ่งมีรสชาติแตกต่างกัน ปัจจุบันมีสูตรการทำขนมกล้วยหลากหลายสูตรมาก รสชาติแตกต่างกันไป สามารถเลือกรับประทานได้ตามใจชอบ สำหรับใครที่ชื่นชอบการทำรับประทานเองหรืออยากฝึกทำขนมกล้วย วันนี้เราก็มีสูตรการทำขนมกล้วยง่ายๆมาแจกกันด้วยจ้า ทั้งสูตรแบบโบราณดั้งเดิม และสูตรที่มีการปรับเปลี่ยนใหม่ให้ตามความชอบของผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีความต้องการที่หลากหลายเลยทีเดียว แต่ต้องบอกก่อนนะจ๊ะ สูตรขนมกล้วยวันนี้เราเน้น ขนมกล้วยเพื่อสุขภาพ ดังนั้นจึงลดความหวานลง สำหรับใครที่ชื่นชอบความหวานมากๆอาจต้องเพิ่มน้ำตาลน้าา "สูตรขนมกล้วยปิ้งโบราณดั้งเดิม" 1.กล้วยน้ำว้าขาวสุกงอม 8 ผล 2.แป้งข้าวจ้าว 160 กรัม 3.มะพร้าวทึนทึกขูดเส้น 200 กรัม 4.น้ำตาลทราย 50 กรัม 5.น้ำตาลปี๊บ 50 กรัม 5.เกลือป่น 1/2 ช้อนชา 6.น้ำเปล่า /หัวกะทิ 1/2 ถ้วย "วิธีทำ" 1.นำกล้วยน้ำว้ามาบดให้ละเอียด โดยใช้เครื่องปั่น หรือใช้มือขยำ 2.นำกล้วยที่บดละเอียดแล้ว ผสมกับแป้ง น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น แล้วค่อยๆเทน้ำเปล่าหรือกะทิลงไปคราวละน้อยๆ ไม่เทหมดทีเดียว แล้วผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน จนกว่าน้ำตาล เกลือ จะละลายหมด (ใช้มือขยำ)ให้สังเกตเนื้อขนมกล้วยไม่เหลวเกินไป ถ้าเหลวเกินไปเนื้อขนมจะอ่อนเละ ถ้าไม่ผสมน้ำเนื้อ ขนมกล้วยที่ได้จะแข็งกระด้างไม่อร่อย 3.นำมะพร้าวทึนทึกขูดเส้นผสม กับส่วนผสมที่เตรียมเสร็จแล้วในข้อ 2 และผสมให้เข้ากัน 4.ถ้ามีใบตองให้นำขนมกล้วยที่เตรียมไว้ห่อใบตอง แล้วนำไปปิ้งด้วยไฟอ่อน สังเกตแป้งสุกทั่วแล้วยกลง หรือจะนำขนมกล้วยไปจี่ในกะทะละไร้น้ำมัน โดยใช้ไฟอ่อน ก็ได้ โดยจี่เป็นแผ่นกลมขนาดเล็ก บางๆ ถ้าจีแผ่นใหญ่และหนาแป้งจะไม่สุกทั่ว "สูตรขนมกล้วยปิ้งประยุกต์ " 1.กล้วยน้ำว้าขาวสุกงอม 6 ผล 2.กล้วยหอมสุก 2 ผล 3.แป้งมัน 60 กรัม 4.แป้งข้าวเหนียวขาวหรือดำ 60 กรัม 5.แป้งข้าวจ้าว 40 กรัม 6.มะพร้าวขูด 100 กรัม 7.มะพร้าวทึนทึกขูดเส้น 200 กรัม 8.น้ำตาลทราย 50 กรัม 9.น้ำตาลปี๊บ 50 กรัม 10.เกลือป่น 1/2 ช้อนชา 11.น้ำเปล่า /หัวกะทิ 1/2 ถ้วย " วิธีทำ " 1.นำกล้วยน้ำว้าและกล้วยหอมมาบดให้ละเอียด โดยใช้เครื่องปั่น หรือใช้มือขยำ 2.นำกล้วยที่บดละเอียดแล้ว ผสมกับแป้ง น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น แล้วค่อยๆเทน้ำเปล่าหรือกะทิ ลงไปไม่เทหมดทีเดียว แล้วผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน จนกว่าน้ำตาล เกลือ จะละลายหมด (ใช้มือขยำ)ให้สังเกตเนื้อขนมกล้วยไม่เหลวเกินไป ถ้าเหลวเกินไปเนื้อขนมจะอ่อนเละ ถ้าไม่ผสมน้ำเนื้อ ขนมกล้วยที่ได้จะแข็งกระด้างไม่อร่อย 3.นำมะพร้าวขูดและมะพร้าวทึนทึกขูดเส้นผสม กับส่วนผสมที่เตรียมเสร็จแล้วในข้อ 2 และผสมให้เข้ากัน 4.ถ้ามีใบตองให้นำขนมกล้วยที่เตรียมไว้ห่อใบตอง แล้วนำไปปิ้งด้วยไฟอ่อน สังเกตแป้งสุกทั่วแล้วยกลง หรือจะนำขนมกล้วยไปจี่ในกะทะละไร้น้ำมัน โดยใช้ไฟอ่อน ก็ได้ โดยจี่เป็นแผ่นกลมขนาดเล็ก บางๆ ถ้าจีแผ่นใหญ่และหนาแป้งจะไม่สุกทั่ว *ทริค* 1.การใส่น้ำเปล่าหรือน้ำกะทิมากเกินไปจะทำให้ขนมกล้วยอ่อนเละ ถ้าห่อใบตอง ขนมกล้วยจะติดใบตอง ห่อยาก 2.ให้เลือกใช้กล้วยน้ำว้าขาวเพื่อได้สีเหลืองสวย และไม่ฝาด 3. การใช้กล้วยหอมผสม ช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและทำให้กลิ่นขนมหอม 4.ถ้าใช้น้ำตาลทรายอย่างเดียวขนมที่ได้จะมีรสหวานแหลม 5.การเพิ่มแป้งข้าวเหนียวในส่วนผสมจะทำให้ขนมเหนียวนุ่มแต่ถ้าใส่มากเกินไปเนื้อขนมจะเละ 6.การใส่แป้งมันจะทำให้เนื้อขนมที่ได้ใสและมีความหนึบหนับ ขนมกล้วยทั้ง 2 สูตรนี้ แตกต่างกันที่ส่วนผสมในส่วนของกล้วยและแป้ง ซึ่งจะให้รสสัมผัส และกลิ่นที่แตกต่างกัน โดยในสูตรแรกจะเป็นขนมกล้วยสูตรโบราณดั้งเดิม ซึ่งนิยมใช้แป้งข้าวจ้าวอย่างเดียว และใส่กล้วยน้ำว้าปริมาณมาก รสสัมผัสของขนมที่ได้จะออกร่วนๆ ไม่เหนียวหนึบหนับเท่ากับสูตรที่สอง แต่โดยรวมทั้ง 2 สูตร จะให้รสสัมผัสของขนมกล้วยที่รับประทานแล้ว เราจะได้รสชาติของกล้วยได้ทันที เนื่องจากใส่เนื้อกล้วยในปริมาณมาก และมีความหวานละมุน แต่ไม่หวานมาก ตัดด้วยความเค็มของเกลือป่น ทำให้รสชาติเข้มข้นมากขึ้น ชอบแบบไหนเลือกทำตามกันได้ง่ายๆเลยจ้า เครดิตภาพหน้าปกตกแต่งเทมเพลต โดย IreneKras /ภาพผลิตภัณฑ์ประกอบหน้าปก โดย Bw / ภาพที่ 1-5 โดย Bw ผู้เขียน โดย Bw หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !