หลังจากผ่านพ้นเดือนแห่งความรักไปแล้ว ผู้เขียนจึงอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ การรับประทานอาหาร Full Course ที่ตลอดปีจะมีโปรโมชั่นเพียงครั้งเดียวของร้านอาหาร Branch Line โดยร้านแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณสวนสาธารณะอาร์เซนอล ในเมืองวอเตอร์ทาวน์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นร้านอาหารสไตล์ตะวันตก ทางร้านเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11:30 ถึง 23:00 น. ทุกวัน ในวันที่ 14 ก.พ. ของทุก ๆ ปี ร้านแห่งนี้จะมีโปรโมชั่นอาหารเย็นสำหรับสองที่ในราคาเป็นกันเอง หลังจากที่ผู้อ่านได้เช็คราคา และรายละเอียดของเมนูอาหารแล้ว จึงตัดสินใจจองโต๊ะอาหารสำหรับสองท่าน ไว้หนึ่งโต๊ะ ในคืนวันวาเลนไทน์ สำหรับปีนี้ทางร้านมีเมนูอาหารทั้งหมด 4 คอร์ส แต่ละคอร์สมีทั้งหมด 3 ตัวเลือก ลูกค้าสามารถเลือกอาหารได้หนึ่งจานต่อหนึ่งคอร์ส ซึ่งแต่ละคอร์สมีรายละเอียดดังนี้ 1. First Course มีทั้งหมด 3 ตัวเลือก คือ Steak Tartare, Mushroom Toast และ Marinated Octopus ผู้เขียนได้เลือก Mushroom Toast เป็นเมนูอาหารเรียกน้ำย่อย ภายในจานมีเห็ดย่างปรุงรสวางบนขนมปังกรอบ และตกแต่งด้วยผักไมโครกรีน รสชาติของอาหาร คล้ายกับการรับประทานขนมปังกรอบหมูหยองพริกเผา เพียงแต่เปลี่ยนวัตถุดิบบนขนมปังเป็นเห็ดย่างแทน ตัวขนมปังกรอบมีความมันของน้ำมันมะกอกปะปนเล็กน้อย รสชาติโดยรวมไม่จัดจ้านมากนัก ถือว่าเหมาะสมสำหรับเป็นเมนูเริ่มต้น 2. Second Course ได้แก่ Frisée aux Lardons, Wood Fire Grilled Oysters และ Lobster Bisque เมนูชูโรงจานที่สอง ผู้เขียนเลือก Wood Fire Grilled Oysters เมนูนี้เป็นการนำหอยนางรมสดย่างบนเตาไม้ ปรุงรสด้วยซอสแชมเปญบัตเตอร์ โรยหน้าด้วยผักเชอร์วิล รสชาติของหอยนางรม นุ่ม หวาน กลมกล่อม ตัวหอยนางรมคลุกเคล้ากับซอสได้เป็นอย่างดี ทางร้านจัดจานได้อย่างน่าประทับใจ ผู้เขียนชอบการตกแต่งอาหารทะเลด้วยการวางหอยลงบนกองเกลือ แอบเสียดายที่เมนูนี้เสิร์ฟหอยนางรมมาให้เพียงแค่สองชิ้น 3. Entree อาหารจานหลัก เปรียบได้กับตัวพระเอก มีให้เลือกดังนี้ คือ 10 OZ Woof Fire Grilled NY Strip, Mushroom Risotto และPan Seared Cod แน่นอนว่าผู้เขียนเลือกเมนูทะเลอีกเช่นเคย Pan Seared Cod คือเมนูที่นำปลาคอด มาทอดในกระทะจนมีสีเหลืองกรอบน่ากิน วางชิ้นปลาไว้บนมันฝรั่งบด (ทางร้านเรียกมันฝรั่งบดว่า Pomme Purée ) มีซอสครีมที่มีส่วนผสมของอาร์ติโชค และมะกอกชนิด Castelvetrano อยู่ชั้นล่างสุดของจาน 4. Dessert สำหรับของหวานทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ Crème Brûlée, Sweet Cream Ice Cream และChocolate & Strawberries Shortbread ผู้เขียนเลือกรับประทาน Crème Brûlée ตบท้ายอาหารมื้อนี้ ผลไม้ตกแต่งบนหน้าครีม คือผลเกรปฟรุตมีรสชาติขมเล็กน้อย ส่วนตัวครีมอร่อย หอม มัน ราคาของอาหารมื้อนี้อยู่ที่ประมาณ 3,200 บาท สำหรับสองท่าน ไม่รวมเครื่องดื่ม และทิป สำหรับเครื่องดื่มที่สั่งมาร่วมกับอาหาร คือไวน์โรเซ่ ยี่ห้อ No. 139 Rosé จาก รัฐนิวยอร์ค ราคาแก้วละประมาณ 260 บาท สรุปแล้วราคาของอาหารค่อนข้างถูกมากหากเทียบกับบริการ และอาหารแต่ละคอร์สที่ได้รับ บรรยากาศของร้านในวันวาเลนไทน์นั้นจะมีการจัดโต๊ะในร้านเป็นลักษณะ 2 ที่นั่ง โต๊ะแต่ละโต๊ะอาจอยู่ใกล้กันบ้าง แต่คู่รักก็สามารถมีบรรยากาศโรแมนติกด้วยกัน อาจเพราะมีเสียงเพลงแจ๊สที่ขับกล่อม การเปิดไฟสลัว ๆ และแสงเทียนบนโต๊ะอาหาร ช่วยให้บรรยากาศของร้านดูอบอุ่น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหากท่านใดได้มีโอกาสมาเยี่ยมชมที่รัฐแมสซาชูเซตส์ จะสามารถมารับประทานอาหารที่ร้านแห่งนี้นะคะ ขอคอนเฟิร์มทั้งคุณภาพ และราคาค่ะ ว่ามารับประทานที่นี่ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน Photos by : Writer