สวัสดีค่ะผู้อ่านที่น่ารักทุกคน ถ้าพูดถึงปลาร้าสิ่งแรกที่นึกขึ้นได้ ก็คงจะเป็นส้มตำถูกไหมค่ะ เพราะปลาร้าส่วนมากก็มักจะนำไปใส่ส้มตำ ถ้าเป็นอาหารก็จะเป็นเมนูแบบอีสาน เช่น แกงเห็ด แกงอ่อม น้ำพริก เป็นต้น แต่ทุกวันนี้ไม่ได้มีแค่นั้นนะคะ เนื่องจากปลาร้าเป็นที่นิยมของคนมากขึ้น แทบจะทุกภาคของประเทศเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น เหนือ อีสาน กลาง ใต้ ก็นำปลาร้ามามาทานและใช้ในการประกอบอาหารกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเมนู ยำ ปิ้งย่าง น้ำจิ้ม และอีกมากมาย ที่ไม่ว่าจะทำกินหรือทำขาย ต่างก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าปลาร้าที่คนส่วนใหญ่มองว่าเหม็น แต่วันนี้กลับเป็นอาหารที่คนยอมรับมากมาย เป็นเครื่องปรุงที่ช่วยให้อาหารนั้นอร่อยขึ้นได้ ทำให้เราเห็นถึงความสำคัญว่าปลาร้าของคนอีสานนั้น ที่บางคนอาจมองข้ามไปกลับได้รับความสนใจมากขึ้น วันนี้ผู้เขียนมีเมนูอาหาร ที่เคยได้ทานมาตั้งแต่เป็นเด็กแล้วรู้สึกว่าอร่อยไม่เหมือนที่อื่น และไม่เคยมีที่ไหนทำแบบนี้เลย เมนูที่ว่านี้คือ หมูสับผัดปลาร้า ค่ะ ฟังดูแล้วก็อาจจะรู้สึกว่าไม่ได้แปลกอะไร ที่ไหนเค้าก็ทำกัน แต่ไม่ใช่เสมอไปนะคะ แม้จะมีชื่อเรียกที่เหมือนกันแต่สูตร และวัตถุดิบนั้นแตกต่างกันแน่นอนค่ะ โดยส่วนตัวแล้วเมนูนี้เป็นของคุณย่าผู้เขียน ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า คนที่สอนให้ท่านทำคือเพื่อนที่รู้จักกันตอนยังสาว เพื่อนคนนั้นเป็นคนโคราช ตอนที่ย่าได้ไปเที่ยวบ้านเพื่อน ตอนนั้นได้ทานแล้วชอบมาก ย่าเลยถามว่าเมนูนี้ทำแบบไหน เพื่อนของย่าเลยบอกสูตรให้ จนเป็นวิชาติดตัวย่ามาจนถึงทุกวันนี้ และย่าก็ยังทำให้ลูกหลานได้ทานอยู่เป็นประจำ ทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยและชอบมาก เรามาดูกันดีกว่านะคะ ว่ามีขั้นตอนในการทำยังไงบ้าง วัตถุดิบที่ต้องเตรียม หมูสับ 70 กรัม ไข่ไก่ 3 ฟอง ตะไคร้ 3 ต้น หอมแดง 20 กรัม กระเทียม 20 กรัม พริก 10 กรัม ปลาร้า 3 โต๊ะ ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ ขั้นตอนและวิธีการทำ ขั้นตอนที่ 1 นำวัตถุดิบทั้งหมดมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ให้พอดีคำ จากนั้นก็เอาออกมาเตรียมไว้ให้พร้อม ขั้นตอนที่ 2 นำส่วนผสมทั้งหมดลงไปในชามเดียวกัน ขั้นตอนที่ 3 คลุกให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันได้ดี ขั้นตอนที่ 4 เปิดแก๊สใช้ไฟกลาง เทน้ำมันลงไปเล็กน้อย จากนั้นนำส่วนผสมที่คลุกเข้ากันดีแล้ว มาใส่ลงไปในกระทะและผัดให้สุก ขั้นตอนที่ 5 ผัดไปจนกว่าจะเห็นว่าหมูและผัก หอมแดง กระเทียม สุก จากนั้นปิดแก๊ส ตักใส่จากพร้อมรับประทานได้เลยค่ะ สำหรับเมนูนี้ ไม่ต้องใช้เครื่องปรุงอะไรมากมายนัก นอกจากปลาร้ากับผงปรุงรสแล้ว อย่างอื่นก็ไม่ต้อง ปลาร้ามีรสชาติความอร่อยอยู่ในตัว แถมมีความเข้มข้นมาก แค่ปรุงกับวัตถุดิมอื่นที่เตรียมไว้ แล้วนำมาผัดก็ได้ถึงรสชาติของความอร่อยแล้ว แถมเมนูนี้ยังมีสมุนไพร เช่น ตะไคร้ หอมแดง กระเทียม นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังช่วยให้ดับกลิ่นคาว ทำให้อาหารน่าทานมากขึ้น สำหรับใครที่ยังไม่เคยทานก็อย่าลืม ลองเอาไปทำทานกันดูนะคะ ภาพโดย ผู้เขียน