ทำอย่างไรให้อาหารน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น “อาหาร” ที่ดีขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น รสชาติ การจัดแต่งจาน หรือกลิ่นของอาหาร แต่ก่อนที่คนทานจะเริ่มสัมผัสถึงรสชาติของอาหาร จะต้องเกิดความต้องการที่จะรับประทานอาหารก่อน พูดง่าย ๆ คือจะต้องรู้สึกว่าอาหารนั้นน่ากิน จึงตัดสินใจรับประทาน ซึ่งหลาย ๆ คนสามารถนำเทคนิคในบทความนี้ไปประยุกต์กับการทำอาหารหรือด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ เช่น การเปิดร้านขายอาหารหรือการถ่ายรูปอาหารให้น่ารับประทาน โดยจะแนะนำเทคนิค 3 ข้อที่เกี่ยวกับจิตวิทยาและการตลาดเข้ามาช่วยให้อาหารจานที่เราทำนั้นดึงดูดความสนใจให้คนเข้ามารับประทานมากยิ่งขึ้น 1.ใช้ “สี” เพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร มีสีอยู่บางกลุ่มที่สามารถกระตุ้นให้เกิดความอยากอาหารได้ เหมาะกับการนำมาใส่ในอาหาร อย่างเช่น สีแดง สีเหลือง สีส้ม ยกตัวอย่างกรณีของสีแดง หลายครั้งเราอาจจะสังเกตได้ว่าเมนูในร้านเกี่ยวกับเนื้อไม่ว่าจะเป็นชาบู ปิ้งย่าง หรืออื่น ๆ มักจะแสดงรูปภาพตอนที่ยังดิบอยู่ เนื่องจากว่าเนื้อดิบจะมีสีแดง แม้ว่าเราจะกินกันแบบสุก แต่สีแดงก็ช่วยให้เกิดความรู้สึกอยากกินมากกว่า ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.pexels.com/photo/bbq-beef-chopping-board-close-up-618773/ อย่างไรก็ตามควรระวังในการใช้สีบางสี อย่างเช่นสีเขียวที่ส่วนมากมักจะเป็นสีของผัก หากใครที่ไม่ชอบทานผัก สีเขียวอาจจะไม่เหมาะ หรือสีฟ้า (น้ำเงิน) ที่จะทำให้ความอยากอาหารลดลง (ไม่รวมพวกเครื่องดื่ม ขนมและโยเกิร์ต) จะเห็นได้ว่าเราไม่ค่อยเห็นการใช้สีน้ำเงินกับอาหารคาวสักเท่าไหร่ ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.pexels.com/photo/variety-of-vegetables-1400172/ 2.การใช้ “กลิ่น” เข้ามาช่วย การใช้กลิ่นเป็นการเล่นกับประสาทสัมผัสอย่างหนึ่งของมนุษย์ ที่ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี (โดยเฉพาะเวลาหิวแล้วได้กลิ่น ถึงขั้นท้องร้องออกมาเลยทีเดียว) ในร้านอาหารบางแห่งอย่างเช่นพิซซ่า จะปล่อยกลิ่นหอมของชีสและแป้งในเตาอบให้ลอยออกมานอกร้าน ทำให้ได้เปรียบมากกว่าร้านอื่น เพราะเมื่อลูกค้าเดินผ่านไปผ่านมา อาจจะได้กลิ่น และอยากเข้ามารับประทาน หรือบางร้านอาจจะสังเคราะห์กลิ่นขึ้นมาโดยเฉพาะให้เหมือนกับกลิ่นอาหารจริง ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าตามมุมต่าง ๆ ให้เดินเข้ามาในร้านของตัวเอง ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.pexels.com/photo/top-view-photo-of-baked-pizza-2147491/ 3.การแสดงให้เห็นกระบวนการการทำอาหาร การโชว์กระบวนการและขั้นตอนในการทำอาหาร ถือเป็นการเล่าเรื่องอย่างหนึ่ง ซึ่งสินค้าใด ๆ ที่มีเรื่องเล่า มีที่มาที่ไป จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น การนำไปประยุกต์ใช้ อย่างเช่นการถ่ายวิดีโอ กระบวนการทำอาหารตั้งแต่ต้นจนจบ การคัดสรรวัตถุดิบ การบรรจงและใส่ใจในทุกขั้นตอน และนำวิดีโอนั้นไปเปิดตามสถานีรถไฟฟ้า, ลงเพจ Facebook หรือหน้าจอทีวีในลิฟต์ เป็นต้น ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.pexels.com/photo/adult-business-commerce-cook-375889/ อีกหนึ่งตัวอย่างที่พบได้โดยทั่วไป คือร้านอาหารบางแห่งจะมีที่นั่งบางจุดที่ติดกับมุมที่เชฟทำอาหาร โดยมีเพียงกระจกใสกั้น เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นกระบวนการทำอาหารของเชฟ ทั้งนี้ลูกค้าจะรู้สึกมั่นใจในความสะอาดและปลอดภัยอีกด้วย 4.ถ่ายภาพอาหารให้ “เงา” ยิ่งขึ้น รูปภาพเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการตัดสินใจ เพราะการมองเห็นเป็นประสาทสัมผัสแรก ๆ ที่คนเราจะใช้ต่อสิ่งอื่น ๆ เสมอ กับอาหารก็เช่นเดียวกัน ซึ่งเคล็ดลับในการถ่ายรูปอาหารให้น่ารับประทานมีอยู่หลายข้อ แต่สิ่งที่อยากจะนำมาแนะนำมากที่สุดในบทความนี้ก็คือเรื่องของ “เงา” บนอาหาร เงาบนอาหารเกิดได้จากหลายปัจจัย อย่างเช่นผิวของอาหาร ความมันของอาหาร และการจัดแสงที่ตกกระทบลงบนอาหาร ที่จะทำให้เกิดเงาสีขาวบนอาหาร ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้มากขึ้น (ทั้งนี้อาหารบางชนิดอาจจะไม่ได้เกิดเงาเสมอไปก็ไม่ต้องฝืนทำเงาให้มันก็ได้) ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.pexels.com/photo/close-up-photo-of-a-cheese-burger-1633578/ และนี่ก็คือเคล็ดลับในการทำให้อาหารน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น ได้แก่การใช้สีและกลิ่น การแสดงขั้นตอนการทำ และการเล่นเงาในรูปภาพ ซึ่งในความจริงยังมีเคล็ดลับอยู่อีกมากมายที่ไม่สามารถนำมาเล่าได้หมด และอาจจะมีเคล็ดลับใหม่ ๆ เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามรสชาติยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่จะมัดใจคนรับประทานให้ติดใจและกลับมาทานซ้ำอีก โอ้