แกงหน่อไม้ เป็นแกงที่หาทานได้ทั่วไปตามร้านอาหารอีสาน ส่วนวิธีการทำก็แตกต่างกันไปตามสูตรของแต่ละครัวเรือน บางบ้านอาจชอบแกงหน่อไม้แบบน้ำข้นเหนียว ก็มักจะใส่ข้าวเบือ (ข้าวเหนียวตำให้แหลก) ลงไปแกงด้วย หรือถ้าบ้านไหนชอบแบบรสจัดจ้าน ก็มักจะใส่พริกแกงลงไปเพื่อปรุงรส แต่สำหรับแกงหน่อไม้ที่ผู้เขียนชอบรับประทานนั้น จะเป็นแกงหน่อไม้ที่เรียกได้ว่า (เกือบ) คลีน เพราะแทบจะไม่ต้องปรุงรสให้วุ่นวาย แถมยังไม่ใส่น้ำตาลหรือเนื้อสัตว์ลงไปให้คนทานรู้สึกผิด ดังนั้นหากใครต้องการลดน้ำหนัก แกงหน่อไม้ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ผู้เขียนขอแนะนำนะคะ การทำแกงหน่อไม้นั้นทำได้ง่ายมาก ใช้วัตถุดิบเพียงไม่กี่ชนิด และใส่ผักต่าง ๆ ได้ตามใจชอบ แต่จะขาด ‘หน่อไม้สด’ ที่เป็นพระเอกของจาน และ ‘น้ำใบย่านาง’ ที่เป็นนางเอกไม่ได้เลยนะคะ ภาพถ่ายโดยนักเขียน วัตถุดิบในการทำแกงหน่อไม้ มีดังต่อไปนี้ 1. หน่อไม้สดหั่นให้เป็นลักษะแผ่น ๆ ตามทางขวาง หรือหั่นเป็นวงกลมแล้วแต่สะดวก 2. น้ำใบย่านาง 3. เห็ดฟางหรือเห็ดชนิดอื่น ๆ ตามใจชอบ 4. ผักต่าง ๆ ตามใจชอบ (ผู้เขียนเลือกแกงใส่ฟักทอง และผลสควอช) ภาพถ่ายโดยนักเขียน 5. พริก หอมแดง ตะไคร้ และใบแมงลัก 6. น้ำปลาร้า 7. เกลือ วิธีการทำง่าย ๆ มีเพียงไม่กี่ขั้นตอนดังนี้ 1. ตำพริก หอมแดง ตระไคร้และเกลือให้แหลกแล้วพักไว้ หลังจากนั้นนำน้ำใบย่านางที่คั้นเรียบร้อยแล้วมาตั้งไฟ ใส่สิ่งที่ตำไว้ลงไป ต้มให้เดือด น้ำใบย่านาง คั้นโดยการนำใบย่านางมาล้างให้สะอาด ใส่น้ำลงในอ่างผสม 2 - 3 ถ้วยตวง แล้วนำใบย่านางไปคั้นในน้ำ จนน้ำมีสีเขียวเข้มและข้นขึ้น กรองเอาเศษออกก็นำไปใช้ได้แล้วค่ะ 2. พอน้ำเริ่มเดือดให้ใส่หน่อไม้ที่เตรียมไว้ลงไปต้มต่อจนหน่อไม้หายเหนียวและนุ่มลง หลังจากนั้นใส่ผักที่เตรียมไว้ลงไปต้มต่อ (เห็ดฟาง เห็ดหูหนู ผลสควอซและฟักทองที่หั่นเรียบร้อยแล้ว) ภาพถ่ายโดยนักเขียน 3. ต้มจนผักเริ่มสุก ก็จัดการปรุงรสด้วยน้ำปลาร้าตามใจชอบ หากน้ำแกงเยอะเกินไป ทำให้รสชาติจาง ให้ใส่เกลือลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ หากใครอยากใส่ผงชูรสเพิ่มเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ก็สามารถใส่ได้เลยนะคะ แต่วันนี้เราจะทำแบบคลีน ๆ เลยไม่ใส่ค่ะ ก็ยังนัวเหมือนเดิม ภาพถ่ายโดยนักเขียน 4. ชิมจนได้รสชาติที่ตัวเองต้องการแล้วใส่ใบแมงลักเพื่อเพิ่มความหอม หลังจากนั้นให้ดับไฟแล้วยกลงจากเตา ตักใส่จาน พร้อมรับประทานกับข้าวเหนียวร้อน ๆ ฟินสุดยอดเลยค่ะ ภาพถ่ายโดยนักเขียน เห็นไหมคะเพื่อน ๆ การทำแกงหน่อไม้ด้วยตัวเองไม่ได้ยุ่งยากหรือมีขั้นตอนที่ซับซ้อนเลย ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ได้แกงร้อน ๆ มาซดให้คล่องคอ แถมที่สำคัญยังไม่ทำให้อ้วนด้วยนะคะ วันหลังผู้เขียนจะมีแกงอะไรมาสอนอีก ก็ฝากติดตามกันด้วยนะคะ ภาพปกโดยผู้เขียน