ประเทศญี่ปุ่น นี่มันมีความญี่ปุ๊นญี่ปุ่นที่ไม่เหมือนใครจริง ๆ เพราะทุก ๆ วัฒนธรรมของญี่ปุ่นล้วนมีความน่ารักเฉพาะตัวแฝงอยู่ แบบคำว่าคิขุอาโนเนะที่คนไทยพูดแล้วเข้าใจในอากัปกิริยาแบบนั้นแหละ ไม่ต้องหาคำบรรยายให้มากมาย และความญี่ปุ่นนั้นก็แทรกซึมเข้ามาชีวิตคนไทยมาอย่างยาวนาน รวมถึงขนมด้วย ในวันนี้ขอแนะนำร้าน White Day Patisserie ไม่ได้แค่มาจากญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ร้านนี้มีความแตกต่างจากร้านขนมทั่วไปอย่างชัดเจน ตั้งแต่ที่มา รูปแบบขนม จนถึงชื่อร้านก็บอกวัฒนธรรมได้แล้ว เพราะ White Day ในชื่อร้านนั้น มาจากวันที่ 14 มีนาคม เป็นไวต์เดย์ที่ญี่ปุ่น หรือหลังวันวาเลนไทน์ 1 เดือนนั่นเอง สาวจีบหนุ่มไปแล้วในวันวาเลนไทน์ ทีนี้ถึงคราวที่หนุ่มจะตอบแทนสาวที่มอบช็อกโกแลตให้ตัวเองบ้างน่ะสิ และมีวัฒนธรรมการตอบแทนมากกว่าที่สาวให้ถึง 3 เท่าเชียวนะ White Day Patisserie จึงมาพร้อมคอนเซ็ปต์ขนมหน้าตาอลังการ รสชาติอร่อย ถือได้ว่าเป็นศิลปะที่อยู่บนขนมเลยก็ว่าได้ แต่ละเมนูที่ฉันและเพื่อนสั่งมาลองกินนั้นเลิศเลอมาก ๆ พวกเราไปกินกันที่สาขาเซ็นทรัล พลาซา แกรนด์ พระราม 9 ซึ่งปัจจุบันในปี 2563 ร้านนี้ได้หมดสัญญาพื้นที่ร้านภายในห้างไปแล้ว แต่สามารถติดตามได้ว่ามีสาขาใดยังเปิดบริการอยู่บ้าง ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจของร้าน White Day Patisserie และตอนนี้ถึงเวลาแนะนำ 3 เมนูสุดแสนอลังการ เบาหวานเข้าตา พร้อมการให้คะแนนและบอกราคาไว้ด้วย ดูไปหิวไปแน่นอนจ้า 1) Romeo Toast ศิลปะของเมนูนี่เริ่มตั้งแต่ชื่อโรมิโอ ที่ไม่ต้องมาพร้อมกับจูเลียตก็ได้ ฮ่า ๆ แต่เป็นเรื่องจริงที่ดึงความโรแมนติกมาจากนิยายต่างประเทศชื่อดัง รสชาติของเมนูนี้จะไม่หวานจ๋าดึงดูดผู้หญิงมากนัก แต่ทำให้ผู้ชายสามารถมากินของหวานได้โดยไม่เคอะเขิน มีการโรยผลไม้เปรี้ยวหวานหลากชนิดถ้าสังเกตจากภายนอก ไหนจะไอศกรีมช็อกโกแลตดูเข้มขึงขัง ดาร์ก ๆ ดูมาดแมนอีกด้วยล่ะ แต่ภายในซ่อนความหวานไว้เต็มประตูมาก มีคัสตาร์ดล้นทะลักอยู่ข้างใน ประหนึ่งความรักและความหวานที่ซ่อนไว้มันปรี่ออกมาจากใจเลยก็ว่าได้ ฮ่า ๆ อร่อยแบบมีศิลปะแบบนี้ สนนราคาอยู่ที่ 205 บาท คะแนน : 9/10 2) Nutella Puff Parfait คนบ้าช็อกโกแลตและนูเทลล่ามาทางนี้ สืบเนื่องจากเอกลักษณ์ของวันแห่งความรักที่สาวมอบช็อกโกแลตให้หนุ่ม คราวนี้หนุ่มมอบช็อกโกแลตให้สาวบ้างด้วยการชวนมานั่งกินช็อกโกแลตด้วยกันเลย กรี๊ด ๆ ชวนออกเดททำความรู้จักกันก็ว่าได้นะ วัฒนธรรมไวต์เดย์มาอย่างต่อเนื่อง เขินแทนเลย ความโดดเด่นของเมนูนี้คือแป้งพัฟรูปแบบใหม่ใหญ่เบิ้ม นำมาเอกเขนกใส่จานพร้อมไอศกรีมอีก 3 ลูก เพื่อให้นั่งจีบกันไปนาน ๆ เลย ฮ่า ๆ และไม่ลืมที่จะเติมกล้วย ข้าวพอง และช็อกโกแลตครัมเบิ้ล ซึ่งเข้ากันสุด ๆ ตบด้วยไฮไลท์ราดซอสนูเทลล่าเข้มข้น กินมันมากขึ้นด้วยวิปครีมที่จัดไว้อย่างสวยงามที่จาน ส่วนราคา 205 บาทเหมือนเดิมจ้า คะแนน : 9/10 3) Strawberry Crumble Kakigori ดูไปดูมา มันเหมือนฟูจิซังสีชมพูไหมท่านผู้ชม ฮ่า ๆ แค่ทำขนมทำไมมันต้องน่ารักขนาดนี้ สีขาวกับสีแดงตัดงานได้อย่างสวยงาม กล้าพูดได้เลยว่าเป็นน้ำแข็งใสญี่ปุ่นที่ตกแต่งได้สวยที่สุดในไทย มีการราดซอสสตรอว์เบอร์รี่สีแดงสวยที่ด้านบน โรยวานิลลาครัมเบิ้ล ที่ฐานมีสตรอว์เบอร์รี่สดฝานครึ่ง หันด้านในที่สีขาวแดงระเรื่อออกมาทักทายคนกิน สวยงามเหมือนหัวใจคว่ำเลย ฮ่า ๆ ❤️ ส่วนรสชาติก็ไม่ยอมใคร เพราะเกล็ดหิมะนั้นทำจากนมสดล้วน ๆ ไม่ได้มาราดนมใส่เกล็ดน้ำแข็งเหมือนที่อื่นนะเออ หวาน หอม อร่อย และสวยงามมาก ชอบศิลปะการตกแต่งเมนูนี้มากที่สุดนะจะบอกได้ ส่วนราคาก็ตามความอลังการ แพงขึ้นมานิดที่ 249 บาท คะแนน : 10/10 White Day Patisserie ศิลปะแห่งรสชาติสไตล์ญี่ปุ่น